ดีเอสไอเล็งออกหมายขัง 37 แกนนำ กปปส. พร้อมคัดค้านประกันตัว

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยภายหลังประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อเตรียมความพร้อมการรับตัวผู้ต้องหาที่เป็นแกนนำ กปปส.ว่า ตามที่ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และให้ออกหมายเรียกแกนนำสำคัญคนอื่นๆ มารับทราบข้อกล่าวหาในฐานะผู้ต้องหา ซึ่งอธิบดีดีเอสไอได้ดำเนินการออกหมายเรียกแกนนำรวมทั้งสิ้นอีก 37 คน ให้มารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐานขู่เข็ญเพื่อล้มล้างอำนาจบริหารหรือให้ ใช้อำนาจดังกล่าวไม่ได้ (เป็นกบฏ ม.113), ยุยง ส่งเสริมให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย (ม.116), มั่วสุมเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง (ม.215) และหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นผู้แทนรัฐต่างประเทศ (ม.134)

นายธาริตกล่าวต่อว่า ดีเอสไอได้ดำเนินการจัดส่งหมายเรียกให้มีผลตามกฎหมายครบถ้วนทั้ง 37 คนแล้ว โดยผู้ต้องหาแต่ละคนถูกกำหนดต้องเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมพฤติการณ์ของการกระทำผิดในวันที่ 26-27 ธันวาคม 2556 และวันที่ 2-3 มกราคม 2557 ตามที่ระบุในหมายเรียก ซึ่งได้มีการจัดเตรียมสถานที่และพนักงานสอบสวนไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะพนักงานสอบสวนที่จะทำการสอบสวนผู้ต้องหาแต่ละคนจะต้องกระทำร่วมกัน 3 องค์กร คือ ดีเอสไอ ตำรวจ และอัยการ ทั้งนี้ เพื่อความโปร่งใสและเป็นธรรม

นายธาริตกล่าวเพิ่มเติ่มว่า หลังจากได้แจ้งข้อกล่าวหาแกนนำแต่ละคนแล้ว จะนำตัวไปส่งศาลอาญาเพื่อขอศาลออกหมายขังทุกคน โดยจะคัดค้านการประกันตัวด้วย เพราะทุกคนล้วนแต่กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ก็ยังไม่งดเว้นหรือเลิกละการกระทำผิด หากได้รับการปล่อยตัวไป ก็จะไปร่วมกระทำผิด ก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองอีกอย่างต่อเนื่อง

นายธาริตยังกล่าวว่า หากครบกำหนดนัดหมายแล้วมีแกนนำที่ตกเป็นผู้ต้องหาคนใดไม่มาตามกำหนดนัด ก็จะดำเนินการขอศาลอาญาออกหมายจับทันที และถ้าแกนนำคนใดนำมวลชนมาปิดล้อมดีเอสไออีก นอกจากจะดำเนินคดีเพิ่มเติม ฐานบุกรุกสถานที่ราชการแล้ว จะดำเนินคดีฐานขัดขวางกระบวนการยุติธรรมอีกด้วย

"ถึงแม้ว่าในขณะนี้แกนนำที่ตกเป็นผู้ต้องหาทั้ง 38 คน จะได้ใช้มวลชนเป็นโล่มนุษย์เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้าจับกุม ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็จะหลีกเลี่ยงไม่เข้าปะทะ เพราะจะทำให้ประชาชนอาจบาดเจ็บ ล้มตายได้ แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายก็จะดำเนินการทันที เพราะคดีมีอายุความถึง 20 ปี" นายธาริตกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อแกนนำ กปปส.และผู้เกี่ยวข้องทั้ง 37 ราย ที่ถูกออกหมายเรียกให้มาพนักงานสอบสวนในวันที่ 26 ธันวาคม เวลา 14.00 น. ประกอบด้วย 1.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย 2.นายชุมพล จุลใส 3.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ 4.นายอิสสระ สมชัย 5.วิทยา แก้วภราดัย 6.นายถาวร เสนเนียม 7.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 8.เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ 9.น.ส.อัญชลี ไพรีรัก

ส่วนวันที่ 27 ธันวาคม เวลา 14.00 น. ประกอบด้วย 10.นายนิติธร ล้ำเหลือ 11.นายอุทัย ยอดมณี 12.ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ 13.พล.อ. ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ 14.นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ 15.นายยศศักดิ์ โกไศยกานนท์ 16.พ.ต.ท.ศุภวัฒน์ สุปิยะพาณิชย์ และ17.นายสมบูรณ์ ทองบุราญ

ในวันที่ 2 มกราคม 2557 ประกอบด้วย 1.นางสาวจิตต์ภัสร์ ภิรมย์ภักดี 2.นายสาธิต ปิตุเตชะ 3.นายสกลธี ภัททิยกุล 4.นายทศพล เพ็งส้ม 5.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ 6.นายแก้วสรร อติโพธิ 7.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง 8.ดร.เสรี วงษ์มณฑา 9.นายรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี หรือนายอมร อมรรัตนานนท์

และวันที่ 3 มกราคม 2557 ประกอบด้วย 10.ดร.กิตติศักดิ์ ปรกติ 11.นายถนอม อ่อนเกตุพล 12.นายชาญวิทย์ วิภูศิริ 13.นายพิชิต ไชยมงคล 14.นายไพบูลย์ นิติตะวัน 15.พล.อ.ปฐมพงษ์ เกสรสุข 16.นายสุริยะใส กตะสิลา 17.นายพิภพ ธงไชย 18.นายบุญยอด สุขถิ่นไทย 19.นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ และ 20.นายพิจารณ์ สุขภารังสี