ตอร์ซัดชัยนาทีท้าย! สิงห์เฉือนเรือใบ2-1จี้ปืน2แต้ม
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2013-14 แข่งขันคืนวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2556 เป็นการพบกันระหว่าง "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ทีมอันดับ 3 ของตาราง มีอยู่ 17 คะแนน เปิดสนาม ไวท์ ฮาร์ท เลน รับการมาเยือนของ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับที่ 7 มีแต้มตามหลัง "สิงบลูส์" อยู่แค่คะแนนเดียว
เริ่มเกมมาได้เพียงแค่ 3 นาที เชลซี เจ้าถิ่น ได้โอกาสลุ้นก่อน จังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม ออสการ์ ตักบอลข้ามแนวรับไปให้กับ แกรี่ เคฮิลล์ สอดมาจากด้านหลังวอลเลย์ด้วยขวา บอลพุ่งข้ามคานออกไป
น.19 กลับมาเป็นโอกาสลุ้นของ แมนฯ ซิตี้ บ้าง กุน อเกวโร่ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวแหวกผ่านแนวรับ เชลซี ถึง 3 คน เข้าเขตโทษด้านขวา ก่อนได้ยิงด้วยซ้ายมุมแคบ แต่บอลเบาเข้ามือ โจ ฮาร์ท
น.29 เชลซี พลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเจ็บปวด จากจังหวะที่ รามิเรส เปิดบอลโค้งจากฝั่งขวาให้ ตอร์เรส หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ พักบอลหนึ่งจังหวะ ก่อนวอลเลย์ด้วยขวาเน้นๆ ชนิดไร้ตัวประกบ แต่ยิงข้ามคานไปอย่างน่าผิดหวัง
น.33 สาวก "สิงดตนำเงินคราม" ได้เฮลั่นสนาม เมื่อ เชลซี มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ตอร์เรส ใช้ความเร็วกระชากบอลหนีตัวประกบเข้าเขตโทษฝั่งขวา ก่อนไหลเรียดเข้ากลางให้กับ อังเดร เชือร์เล่ แปจ่อๆ เข้าไปจมก้นตาข่าย
น.37 เกมรุกของ เชลซี ยังดูวูบวาบน่ากลัว มีโอกาสทะลวงตาข่ายอีกลูกจากความยอดเยี่ยมของ ตอร์เรส ที่เล่นได้อย่างโดดเด่นในเกมนี้ ลากบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนแต่งบอลปั่นด้วยขวา บอลโค้งไปชนคานอย่างน่าเสียดาย
น.42 แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสได้ประตูตีเสมอในช่วงท้ายครึ่งแรก จากจังหวะที่ นาสรี่ เปิดบอลเรียดจังฝั่งขวาเข้ากลางให้ กุน อเกวโร่ แตะบอลหนึ่งจังหวะเข้าไปยิงด้วยขวามุมแคบ ปีเตอร์ เช็ก ต้องออกแรงปัดทิ้ง
หมดครึ่งแรก เชลซี นำ แมนฯ ซิตี้ 1-0
ครึ่งหลัง ไม่มีทีมใดเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น แต่เริ่มมาไม่ทันไร แมนฯ ซิตี้ ทวงประตูตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จ จากจังหวะที่ นาสรี่ ไหลบอลทะลุช่องให้ กุน อเกวโร่ หลุดกัปดักล้ำหน้งเข้าไปยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ บอลพุ่งเสียบเสาแรกชนิดที่ ปีเตอร์ เช็ก หมดสิทธิ์ป้องกัน ในนาที 49
น.58 เชลซี พยายามตั้งเกมบุกใหม่ มีโอกาสลุ้นจากลูกฟรีคิกทางฝั่งขวาของกรอบเขตโทษ แลมพาร์ด เปิดโค้งเข้าเขตโทษให้ ตอร์เรส โฉบขึ้นโหม่งเต็มๆ บอลเปลี่ยนทางไปเข้ามือ โจ ฮาร์ท
น.65 เกมเริ่มเปิดแลกกันอย่างสูสี ก่อนที่ แมนฯ ซิตี้ จะได้โอกาสลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะที่ นาสรี่ ทำชิ่งต่อให้ ดาบิด ซิลบา แตะบอลเข้าไปยิงมุมแคบทางเขตโทษฝั่งซ้าย ติดเซฟ ปีเตอร์ เช็ก
น.66 เชลซี ตัดสินใจแก้เกม เปลี่ยนตัวทีเดียว 2 คนรวด ส่ง วิลเลี่ยน กับ โอบิ มิเกล ลงสนามแทน เชือร์เล่ และ แลมพาร์ด ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ส่ง เฆซุส นาบาส ลงมาเลื้อยแทน ซามีร์ นาสรี่ อีก 4 นาทีให้หลัง
น.74 ทีมเยือนที่เริ่มทำเกมบุกได้เหนืกว่าในช่วงหลัง มีดอกาสลุ้นประตูจากจังหวะที่ กุน อเกวโร่ รับบอลต่อจาก ซิลบา ในเขตโทษฝั่งซ้าย เหลือบเห็น ปีเตอร์ เช็ก ออกมาไกล ตัดสินใจปั่นด้วยขวา บอลโค้งหลุดเสาไกลไปนิดเดียว
น.87 เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เชลซี มาได้ฟรีคิกระยะหวังผล เยื้องเขตโทษมาทางฝั่งซ้าย วิลเลี่ยน กึ่งยิงกึ่งผ่านมาที่หน้าปากประตู บอลไม่โดนใคร หลุดผ่านเสาไกลออกไป
นาทีสุดท้ายของเกม สแตมฟอร์ด บริดจ์ แทบแตก สาวก "สิงห์บลูส์" ได้เฮลั่นทุ่งอีกครั้ง เชลซี ได้ประตูนำเป็น 2-1 จากจังหวะที่ รามิเรส เตะจุดพลุโด่งขึ้นหน้า มาติย่า นาสตาซิช พยายามโหม่งคืนหลังในจังหวะที่ โจ ฮาร์ท วิ่งสวนขึ้นมาพอดี กลายเป็นชงให้ ตอร์เรส วิ่งควบไปยิงจ่อๆ เข้าประตูไป และเป็นประตูชัยในเกมนี้
จบเกม เชลซี คว้าชัยหืดจับ 2-1 เก็บ 3 แต้ม ขยับขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูง มี 20 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง อาร์เซน่อล 2 คะแนน ส่วน แมนฯ ซิตี้ 16 แต้มเท่าเดิม รั้งอันดับ 7
รายชื่อผู้เล่น เชลซี
ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - รามิเรส, แฟร้งค์ แลมพาร์ด (จอห์น โอบิ มิเกล น.66) - อังเดร เชือร์เล่ (วิลเลี่ยน น.66), ออสการ์, เอแด็น อาซาร์ (ซามูเอล เอโต้ น.84) - เฟร์นานโด ตอร์เรส
สำรองไม่ได้ใช้
มาร์ค ชวาร์เซอร์ - ดาวิด ลุยซ์, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ฆวน มาต้า
รายชื่อผู้เล่น แมนฯ ซิตี้
โจ ฮาร์ท – ปาโบล ซาบาเลต้า, มาติย่า นาสตาซิช, มาร์ติน เดมิเคลิส, กาแอล กลิชี่ - ฆาบี การ์เซีย (อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ น.80), แฟร์นานดินโญ่ - ซามีร์ นาสรี่ (เฆซุส นาบาส น.70), ยาย่า ตูเร่, ดาบิด ซิลบา - เซร์คิโอ อเกวโร่ (อัลบาโร่ เนเกรโด้ น.87)
สำรองไม่ได้ใช้
คอสเทล ปันติลิม่อน - ไมกาห์ ริชาร์ดส์, เจมส์ มิลเนอร์, เอดิน เชโก้
ผู้ตัดสิน : ฮาเวิร์ด เว็บบ์
