ครม.เว้นเก็บภาษีสรรพสามิตดีเซลอีก1เดือน

ที่ประชุม ครม. ยกเว้นเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล อีก1เดือน 1 พ.ย. - 30 พ.ย. 56 เพื่อคงราคาขายปลีก ,เพิ่มค่ารักษาผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุ พร้อม อนุมัติงบกลาง7,100ล้านจ่ายชดเชยจัดทำข้าวถุงธงฟ้าและข้าวบริจาคผู้ประสบภัย

นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ระดับ 0 บาท ออกไปอีก 1 เดือน ระหว่างวันที่ 1 - 30 พฤศจิกายน 2556 ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลจำหน่ายปลีกในประเทศ ยังอยู่ที่ 29.99 บาท/ลิตร นอกจากนี้ ยังได้รับทราบการอนุมัติพักชำระหนี้ให้กับเกษตรกรรายย่อยและผู้มีรายได้น้อยจำนวน 3,684 ล้านบาท และรับทราบการขอคืนภาษีรถยนต์คันแรกจำนวน 32,000 ล้านบาท และรับทราบการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้บริจาคช่วยเหลือให้จังหวัดชายแดน

ภาคใต้ตามจริง แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้ และสามารถให้นิติบุคคลที่บริจาคเป็นสิ่งของสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามจริง แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ โดยให้มีผลย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2555

มติ ครม.เพิ่มค่ารักษาผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุ

นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบตามข้อเสนอกระทรวงการคลัง ในการกำหนดการจ่ายเงินชดเชยให้ผู้ประสบอุบัติเหตุจากรถ ตาม พ.ร.บ.ภาคบังคับเมื่อเข้ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลใกล้เคียงทุกแห่ง โดยกำหนดให้บริษัทประกันและกองทุน จ่ายชดเชยให้ผู้ประสบอุบัติเหตุ จาก 15,000 บาท เพิ่มเป็น 30,000 บาทต่อราย เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และยังได้รับค่าชดเชยความเสียหายสูงสุดถึง 65,000 บาทต่อราย โดยภาคเอกชนยังสามารถรองรับกับภาระต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 609 ล้านบาทต่อปี โดยใช้เงินบริษัทประกัน 595 ล้านบาท และเป็นเงินจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยจากรถ 14 ล้านบาท

ครม. อนุมัติงบกลางจ่ายชดเชยทำข้าวถุงธงฟ้า

นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติการเสนอของกระทรวงพาณิชย์ ในการขอสนับสนุนงบประมาณกลางจำนวน 7,100 ล้านบาท เพื่อใช้ในการจ่ายชดเชยราคาข้าวสารที่นำมาจัดทำข้าวถุงธงฟ้า เพื่อจำหน่ายให้กับประชาชนในการลดภาระค่าครองชีพ และการจัดทำข้าวถุงเพื่อบริจาคให้กับประชาชนผู้ประสบภัยในประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังได้รับทราบตามการรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรม ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ว่า อยู่ในระดับที่ปลอดภัยไม่กระทบต่อโรงงาน ซึ่งได้มีการป้องกันด้วยเครื่องสูบน้ำ ซึ่งเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จากที่มีระดับน้ำท่วมผิดถนนประมาณ 10 - 15 ซ.ม.