กปท.ปักหลักทำเนียบ ตร.ปราบจราจล15กองร้อยคุม

กปท.ปักหลักทำเนียบ ตร.ปราบจราจล15กองร้อยคุม

กปท.ปักหลักทำเนียบ ตร.ปราบจราจล15กองร้อยคุม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เจ้าหน้าที่ชุดปราบจราจล 15 กองร้อย เข้าคุมสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม กปท. รอบทำเนียบ ขณะที่ ผบช.น. ยืนยัน ไม่ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เล็งเจรจาขอคืนพื้นที่ ด้าน แกนนำ กปท. แถลง ไม่กังวลหากรัฐบาลประกาศใช้กฎหมายพิเศษ ปฏิเสธ ประชาธิปัตย์ ไม่ได้หนุนก่อม็อบ

บรรยากาศล่าสุด ที่ทำเนียบรัฐบาลขณะนี้ มีการใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ชุดปราบจราจล จำนวน 15 กองร้อย จากกองบัญชาการตำรวจนครบาล 1-9 เข้าควบคุมพื้นที่โดยรอบทำเนียบแล้ว ขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ได้เดินทางเข้ารายงานสถานการณ์ต่อ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ในฐานะประธานการประชุม ครม. แทนนายกรัฐมนตรี ที่ปฏิบัติภารกิจต่างประเทศ

ซึ่งการเดินทางมาเข้าร่วมประชุม ครม. ของบรรดารัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ รวมถึงสื่อมวลชน ต้องมีการเปลี่ยนทาง
เข้า-ออกเพียงทางเดียว คือ ประตูสะพานอรทัย รวมถึงต้องเลี่ยงเส้นทางโดยรอบบริเวณชุมนุม ภายหลังคืน
วานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ใช้รั้วเหล็กกั้นบริเวณตั้งแต่แยกพาณิชย์ สะพานชมัยมรุเชฐ ไปจนถึงแยกมิกสักวัน
พรัอมปิดป้ายห้ามจราจรผ่านเส้นทางการชุมนุม

ทั้งนี้ การชุมนุมของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ค้างคืนตั้งแต่วานนี้ ที่ด้านหน้าทำเนียบ
มีการยึดพื้นผิวถนนพิษณุโลก ซึ่งบรรยากาศการชุมนุมขณะนี้ มีผู้ชุมนุมบางตา บนเวทีมีการปราศรัยโจมตี
นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าบางส่วนจะทยอยมาสมทบในช่วงเย็น โดยแกนนำยังไม่
สามารถเปิดเผยแผนการเคลื่อนไหว ว่าจะยกระดับหรือไม่ หากไม่มีตัวแทนรัฐบาลเข้ามาเจรจารับข้อเสนอ

 

ผบช.น.ยันยังไม่ออก พ.ร.บ.มั่นคงคุม กปท.

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวภายหลังการเข้าพบ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นการเข้ารายงานสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มม็อบ กปท. ตามปกติ ซึ่ง นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ พร้อมยืนยันว่าจะยังไม่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ในการควบคุมสถานการณ์ โดย รองนายกฯ จะเป็นผู้ตัดสินใจและชี้แจงสถานการณ์เอง

ทั้งนี้ได้จัดกำลังพลไว้กว่า 2,000 นาย รวม 15 กองร้อย เป็นการดูแลความปลอดภัยตามปกติ เพื่อการเตรียมความพร้อมในการควบคุมสถานการณ์ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน สำหรับสถานการณ์ ขณะนี้ยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่น่าเป็นห่วง มีเพียงแค่การปิดถนนเท่านั้น โดยทางเจ้าหน้าที่จะใช้แนวทางการเจรจา ซึ่งเบื้องต้นอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าอาจให้ทางกองบังคับการตำรวจจราจร เป็นผู้เจรจากับผู้ชุมนุมเพื่อขอคืนพื้นที่

 

บรรยากาศรปภ.รอบทำเนียบตร.ยังเข้มม็อบ

บรรยากาศการรักษาความปลอดภัย บริเวณพื้นที่โดยรอบทำเนียบรัฐบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ชุดปราบจลาจล จากกองบัญชาการตำรวจนครบาล 1-9 ยังคงปักหลักดูแลความสงบเรียบร้อย โดยเจ้าหน้าที่ได้ยืนปักหลักตรึงกำลังพร้อมแนวรั้วเหล็กกันจากแยกพานิชยการ ถนนพิษณุโลก บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ จนถึงแยกสวนมิสกวัน ส่วนถนนข้างทำเนียบ เจ้าหน้าที่ได้แนวกั้นแบริเออร์ขนาดสูงวางเป็นแนวยาว พร้อมกับมีรั้วเหล็กกั้นอีกหนึ่งชั้น

ขณะที่ บรรยากาศของผู้ชุมนุมกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ หรือ กปท. ในขณะนี้ยังค่อนข้างบางตา โดยขณะนี้ มีการปราศรัยจากกลุ่มกองทัพธรรม ซึ่งคาดว่า ผู้ชุมนุมบางส่วนจะทยอยมาสมทบในช่วงเย็น

ส่วนการจราจรโดยรอบ รถยังเคลื่อนที่ได้อย่างต่อเนื่อง ปริมาณรถมีไม่มากนัก ซึ่งจะต้องจับตาช่วงเย็นอีกครั้ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังเลิกงานว่า การปิดถนนบริเวณดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการจราจรมากน้อยเพียงใด

 

'สุภรณ์'เผยนายกฯสั่งติดตามม็อบ กปท. 

นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์ สอบถามถึงสถาการณ์การชุมนุมของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ หรือ กปท. บริเวณข้างทำเนียบรัฐบาล และสั่งการให้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และรายงานให้ทราบเป็นระยะ ขณะเดียวกัน นายสุภรณ์ ระบุว่า ทางรัฐบาลพร้อมเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม หากมีการระบุอย่างชัดเจน แต่ในเบื้องต้น จะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้เจรจาก่อน พร้อมเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมอย่าชุมนุมปิดถนนและกลับไปชุมนุมที่สวนลุมพินีตามเดิม เนื่องจากเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ใช้ถนน และรักษาภาพลักษณ์ของประเทศ เพราะนายกรัฐมนตรีของประเทศจีน จะเดินทางมาเยือนประเทศไทย ในวันที่ 11 ตุลาคมนี้ ส่วนในเรื่องของมือที่ 3 ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน แต่จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิด

 

กปท. เมินกม.พิเศษคุม ปัด ปชป. โยงม็อบ

พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ , พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ และนายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) แถลงแนวทางการเคลื่อนไหวชุมนุม โดย พล.ร.อ.ชัย ได้ชี้แจงกรณีการปิดถนนพิษณุโลกว่า ไม่ได้เกิดจากการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุม เนื่องจากการชุมนุมใช้พื้นที่ถนนเพียง 1 ช่องทางเท่านั้น ซึ่งกังวลว่าจะทำให้ผู้ใช้เส้นทางเข้าใจผิด ขณะเดียวกัน มีความพยายามในการสกัดมวลชนไม่ให้เข้าร่วมและสกัดการนำอาหารเข้ามาส่งในพื้นที่การชุมนุม ซึ่งถือเป็นการปิดกั้นสิทธิ์ของประชาชนที่แสดงออกตามรัฐธรรมนูญ

ขณะที่ พล.อ.ปรีชา ระบุว่า กรณีที่ รัฐบาลจะมอบหมายให้ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้ามารับข้อเรียกร้องและเจรจาเพื่อให้ผู้ชุมนุมเปิดถนน ซึ่งตัองขอดูเหตุผลของฝ่ายรัฐบาลอีกครั้ง ทั้งนี้ไม่กังวลที่รัฐบาลจะประกาศใช้กฎหมายพิเศษในการดูแลการชุมนุม พร้อมปฏิเสธว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยยืนยันว่า ทางกลุ่มฯเคลื่อนไหวอย่างอิสระ โดยบนเวทีก็ยังมีการปราศรัยโจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง

ทางด้านการรักษาความปลอดภัยของตำรวจนครบาล และชุดปราบจลาจล จากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และ 2 รวม กว่า 2,000 นาย จำนวน 15 กองร้อย พร้อมรถติดเครื่องขยายเสียง และรถคุมผู้ต้องขังหลายคัน คอยควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่โดยรอบทำเนียบฯ ซึ่งเป็นวันที่มีการประชุม ครม.

แม้ว่า ผบช.น. จะระบุว่าสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นใช้กฎหมายพิเศษ ควบคุมการชุมนุมก็ตาม ซึ่งต้องติดตามว่า รองนายกฯ ด้านความมั่นคง ที่รับผิดชอบโดยตรงนั้น จะประเมินภาพรวมออกมาอย่างไร


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook