ทำไมผู้หญิงต้องดูบอล?

ทำไมผู้หญิงต้องดูบอล?

ทำไมผู้หญิงต้องดูบอล?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : วันนี้มาแบบส่วนตั๊ว ส่วนตัว อาจจะไม่มีสาระมากนัก ทำใจให้สบาย เก็บอคติไว้ในที่ของมัน อย่าเอามันมาวางใส่ในใจเรา

วันนี้มาแบบส่วนตั๊ว ส่วนตัว อาจจะไม่มีสาระมากนัก แต่บางทีก็อยากจะตอบคำถามที่ผู้ชายคาใจบ้าง ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งที่เกาะขอบสนามแบบไม่กลัวบอลกระแทกหน้า อย่าโกรธอย่าเคือง ถ้าคำพูดคำจาของหล่อนช่างไม่ห่วงสวยเอาเสียเลย
 
ทำไมผู้หญิงต้องดูบอล?
ได้รับคำถามนี้เมื่อนานมาแล้ว นานแค่ไหนจำไม่ได้ อาจจะนานนับตั้งแต่มานั่งโต๊ะข่าวในสปอร์ตเรดิโอ ก็เลยถามกลับไปว่า แล้วทำไมจะดูไม่ได้? ถ้าถามกลับกันว่า แล้วทำไมผู้ชายต้องดูหนังโป๊? อาจจะได้คำตอบว่ามันเป็นสิ่งที่บุรุษเพศขาดไม่ได้ แต่ถ้าถามใหม่ว่า แล้วทำไมผู้ชายต้องใช้เครื่องสำอาง? ในเมื่อมันก็ไม่ใช่ปัจจัยจำเป็น ผู้หญิงไม่ดูบอลก็ได้ เหมือนที่ผู้ชายไม่ต้องทาครีมลดริ้วรอยเหี่ยวย่นก็มีชีวิตอยู่ได้ นั่นสิ หลายท่านอาจจะตอบว่า เพื่อดูแลสภาพใบหน้าให้มันดูดีขึ้นมาบ้างหรืออะไรก็ตามแต่ ฉะนั้น การดูบอลสำหรับผู้หญิง (บางคน) มันก็เป็นความบันเทิงอย่างหนึ่งในชีวิตเหมือนดูหนัง ดูละคร เพราะตั้งแต่แรกที่ถือกำเนิดกีฬาชนิดนี้ขึ้นมา ก็ไม่มีใครสั่งห้ามไม่ให้ผู้หญิงดูบอล ขนาด ฟีฟ่า ยังไม่เคยบัญญัติเอาไว้เลย! ไม่ใช่หรือ?


 

อันนี้เป็นระดับเบาๆ ซึ่งถ้าว่ากันตามตรง เราอาจต้องสาวความยาวไปถึงสมัยสงครามโลกหรือสมัยสุโขทัยโน่น ยุคที่สุภาพสตรีควรอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน เย็บปักถักร้อย หุงหาอาหาร การออกมากระโดดโลดเต้นไม่ใช่เรื่องที่งดงามตามมารยาทสังคมไม่ว่าจะเป็นโลกตะวันตกหรือตะวันออก
 
ก่อนจะไปไกลกว่านี้ อยากบอกว่า ไม่มีคำตอบที่ตายตัวสำหรับทุกคน ไม่แปลกถ้าผู้หญิงหลายคนจะสนใจกีฬาลูกหนังและพยายามอย่างยิ่งที่จะเล็งหาหนุ่มรูปงามกล้ามใหญ่ในทุกทัวร์นาเมนต์ระดับโลก และหลายคนก็เริ่มต้นง่ายๆ แบบนี้ ไม่อย่างนั้นคงไม่ต้องมานั่งจัดอันดับนักฟุตบอลรูปหล่อกันทุกครั้งไล่ตั้งแต่ระดับไทยลีกบ้านเรา ไปยันฟุตบอล ยูโร ฟุตบอลโลก ก็ว่ากันไป
 
ไม่เคยเบื่อ เวลาได้รับคำถามว่า เป็นผู้หญิงทำไมไม่ไปแต่งหน้าสวยๆ แบบโมเมพาเพลิน หรือว่าไปทำขนมหวานแบบ เชฟไก่ ใน เชฟกระทะเหล็กไทยแลนด์ แต่ก็นั่นล่ะ เรามีความสุขกับความชอบส่วนตัวที่ไม่เหมือนกัน ไม่อย่างนั้นโลกนี้คงน่าเบื่อไม่ใช่น้อย
 
แล้วผู้หญิงดูบอลต่างกับผู้ชายดูบอลอย่างไร?
อันนี้ก็เป็นคำถามที่ไม่เบื่อเช่นกัน แต่มันตอบไม่ได้จริงๆ เพราะผู้หญิงทุกคนก็ต่างจิตต่างใจ อาจจะดูหน้าและบั้นท้ายของชายหนุ่ม อาจจะดูเอามัน อาจจะดูเพื่อหาเรื่องไว้ชวนสามีที่บ้านคุย จะได้ดูเป็นคนใส่อกใส่ใจในความชอบของเพศตรงข้ามบ้าง หรือเพราะหน้าที่การงานมันพาไป ก็สุดแล้วแต่ บางอย่างไม่ต้องจ้องหาคำตอบให้มันมากนักก็ได้ คิดเล็กคิดน้อยหน้าผากจะย่นเปล่าๆ


คำถามที่พบบ่อย
ผู้หญิงคิดเหมือนผู้ชายไหม? เวลาดูบอล
ผู้ชายด้วยกันยังคิดไม่เหมือนกัน และฉันจะคิดเหมือนเธอได้อย่างไรเล่า วินาทีที่ มาริโอ บาโลเตลลี่ ศูนย์หน้าทีมชาติอิตาลีเกี่ยวคอนักเตะของสาธารณรัฐเช็ก เชื่อว่าตอนนั้นมีบางคนร้องว่า "โธ่! ไอ้ฟาย! ไปทำแบบนั้นทำไม" ในขณะที่อีกคนบอกว่า "น้องโอ้ ไม่เห็นจะทำอะไรผิดเลย กรรมการบ้าหรือเปล่า?"
 
เฉกเช่นเดียวกัน ตอนที่ เปเป้ เหยียดขาเปิดปุ่มใส่ เปโดร โรดริเกซ แฟนๆ เรอัล มาดริด ก็กรี๊ด และบอกว่าใบแดงโหดร้ายเกินไป มันไม่โดน เปโดร มันสำออย จอมตบตา ตามด้วยเสียงก่นด่าว่ากรรมการตาบอด ลำเอียง ส่วนสาวก บาร์เซโลน่า หัวเราะสมน้ำหน้า พร้อมตั้งฉายาว่า เปเป้ ป.ประมุข แถมให้ไปทันที ยกตัวอย่างแค่นี้น่าจะพอ
 
 
ผมอยากเห็นมุมมองของผู้หญิงที่ดูบอล
อืม อันนี้เหมือนบททดสอบอย่างหนึ่งในชีวิต และฟังดูคล้ายบัญชาการจากหัวหน้า ยังไงก็ไม่รู้ แต่อย่างที่บอกว่า คนทุกคนต่างกัน มีเหตุผลต่างกัน และมีระดับความเข้มข้นต่างกัน การดูบอลของนักข่าวหนึ่งคน ไม่เหมือนแม่บ้านที่นอนดูบอลเป็นเพื่อนสามีในห้องนั่งเล่น หรือแฟนสาวที่ตามคนรักไปชมแมนฯ ยูฯ กับ ลิเวอร์พูล ในผับแน่ๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่ตั้งคำถามนี้ต้องการแบบแรก


 
เชื่อไหมว่า มันเป็นความกดดันอย่างแรงมากที่ต้องนำเสนอความคิดของผู้หญิงคนหนึ่ง ทั้งที่ในเกมเดียวกัน อย่าง คอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ รอบรองชนะเลิศ ระหว่าง อิตาลี กับ สเปน ถ้าถามฟอร์มของ อันเดรีย ปิร์โล่ ทุกคนคงพูดเหมือนกันว่า เล่นดีเป็นปกติ วิ่งแบบลืมแก่เต็ม 120 นาที เห็นได้ว่าช่วงต่อเวลา คุณพี่เริ่มเดินเล่นเป็นพักๆ แล้วก็ใช้สายตามองหากองหน้าเพื่อสาดบอลยาวๆ ส่งไป ก่อนจะยิงจุดโทษแม่นยำสวยงาม จบ!
 
แต่ถ้าคุณเป็นผู้หญิง คุณจะโดนคาดหวังสิ่งที่มากกว่านั้น บางทีอาจจะต้องไล่ประวัติว่า อันเดรีย ปิร์โล่ เป็นใคร โด่งดังกับทีมอะไร ตอนนี้อยู่กับทีมอะไร สไตล์บอลเป็นอย่างไร ซึ่งปกติ ปิร์โล่ ไม่ใช่คนวิ่งขึ้นลงเป็นบ้า แต่เป็นแข้งร่างเล็ก ไม่ต้องวิ่งให้เปลืองแรงมาก แค่มีสปีดพอประมาณ จ่ายบอลฉลาด วางบอลแม่น ลูกยิงจากแถวสองก็ดี ฟรีคิกเล่นทางงามๆ หลายครั้ง ไม่ค่อยเล่นปะทะหนักโดยเฉพาะในวัย 33 ปีอย่างตอนนี้ที่ต้องรักษาสภาพร่างกาย ปีหน้าทีมชาติอิตาลีก็จะฝากความหวังไว้กับเขาอีก และที่ย้ายจาก เอซี มิลาน ไปอยู่กับ ยูเวนตุส เมื่อ 2 ปีก่อน ผู้บริหาร "รอสโซเนรี่" คิดผิดมากๆ ตัดสินใจผิดจริงๆ ที่ปล่อยให้ ปิร์โล่ ไปเป็นคีย์แมนจนพา "ยูเว่" เป็นแชมป์ เซเรีย อา 2 ปีซ้อน


 
บางทีมันก็เป็นความอัดอั้นส่วนตัวที่อยากจะบอกว่า คุณอย่ามองใครว่าเขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเลย มองที่เขาเป็นมนุษย์ผู้หนึ่งเหมือนคุณน่ะล่ะ แล้วคุณจะได้ไม่ต้องคอยจิกว่า ผู้หญิงผู้ชายต่างกันไหมตอนที่ดูบอล?
 
ซูซี่ คัมปานาเล่ เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านฟุตบอลที่ชัดเจนมากคนหนึ่ง และตอบคำถามได้ชัดเจน จากการติดตามผลงานของเธอในฟุตบอลอิตาเลียมานานนับปี
 
 
ตัวอย่างที่สกรีนแคปมา เป็นบทความล่าสุดของเจ๊ซูซี่ ที่พูดถึงเกมระหว่างทีมชาติอิตาลีใน คอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายกับบราซิล ซึ่งเจ๊แกคิดว่า ระบบแนวรับแบบ คาเตนัชโช่ ของอิตาลีนั้น สูญสิ้นไปแล้ว (คาเตนัชโช่ คือระบบแนวรับที่เหนียวแน่นแบบหาตัวจับยาก และเป็นแท็คติกที่ทำให้ "อัซซูรี่" คว้าแชมป์โลกมาหลายสมัย คาเตนัชโช่ เปรียบเทียบไปแล้วก็คล้ายๆ ลิเบอโร่ ของเยอรมัน เพียงแต่ ลิเบอโร่ จะยืนเป็นตัวสุดท้ายที่คอยกวาดทุกสิ่งอย่าง แต่ คาเตนัชโช่ เป็นตัวฟรีในแนวรับ และจะอยู่หน้ากองหลังอีก 3 คนในแผงแบ็คโฟร์ เหมือนที่อิตาลีเคยมี ฟรังโก้ บาเรซี่, เปาโล มัลดินี่ และ อเลสซานโดร เนสต้า คือผู้สืบทอดตำนาน คาเตนัชโช่ คนสุดท้าย)

 


เจ๊ซูซี่ ยังวิจารณ์การเล่นของ มัตเตีย เด ชิโญ่, อันโตนิโอ คันเดรว่า และ เอมานูเล่ จัคเครินี่ แบบไม่มีเม้ม และยังไม่พอใจกับการทดลองระบบของ เชซาเร่ ปรันเดลลี่ ที่พยายามหลอกคู่แข่งจนกลายเป็นหลอกลูกทีมตัวเองให้งงกับแผน เพราะเปลี่ยนมันทุกนัด 


ก่อนหน้านี้ เจ๊เคยจวก พ่อใหญ่ ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่ เจ้าของทีม เอซี มิลาน แบบเผ็ดจี๊ด ในฐานะที่เจ๊เป็นแฟน "รอสโซเนรี่" มานาน 30 ปี และ แบร์ลุสโคนี่ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลีที่หน้าผากมีคำว่า มาเฟีย สลักเอาไว้อย่างชัดเจน ซึ่งตรงนี้ ประชาชนแดนมะกะโรนีก็คงรู้ดี
 
ซูซี่ คัมปานาเล่ โดนแฟนบล็อกที่เข้ามาอ่านบทความในฟุตบอลอิตาเลียตีตราว่า เป็นหนึ่งในพวกแอนตี้ ยูเวนตุส ด้วยความที่เจ๊ไม่ค่อยชมใครในทัพ "ม้าลาย" และออกจะค่อนขอดทีมที่เคยต้องคดี กัลโช่โปลี และโดนปรับโทษหนัก ไล่ไปเล่น เซเรีย บี ปรับเงินมหาศาล เจอทุกอย่างที่หนักหนาที่สุดในชีวี (ซึ่งจริงๆ เจ๊เองก็รู้ว่า มิลาน ไม่รอดคดีนี้เหมือนกัน แต่โดนโทษเบา เพราะ แบร์ลุสโคนี่ เป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงยุคนั้นพอดี)

 


 
ครั้งหนึ่ง เจ๊ซูซี่ วิจารณ์ผลงานของกองหน้า ยูเวนตุส ที่ผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน เป็นแชมป์ได้จากการทำเกมและยิงประตูของกองกลาง ส่วนกองหน้า อเลสซานโดร มาตรี้ ยิงไป 10 ประตูก็เป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมในฤดูกาล 2011-12 แล้ว ขณะที่ดาวรุ่งพลังมด เซบาสเตียน โจวินโก้ ก็กระดูกไม่ถึง ตัวเล็ก มีความเร็ว แต่ไม่มีความเฉียบคม ซึ่งทุกอย่างสาวก "เบียงโคเนรี่" ก็รู้ดี แต่ก็ยังมีคนตามมาแอนตี้เจ๊อีกระลอกบอกว่าเจ๊อคติกับ ยูเวนตุส
 
ทำใจให้สบาย เก็บอคติไว้ในที่ของมัน อย่าเอามันมาวางใส่ในใจเรา บางทีถ้าลืมไปเสียว่าเขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย มีอิสระที่จะคิด จะพูดในขอบเขตอันสมควร และทำมันไปตามความเห็น ตามหน้าที่ที่มันไม่เกินงามจนเกินไป มันก็คงเหมือนที่ ซูซี่ คัมปานาเล่ เสนอความคิดของเธอ และมีคนเข้ามาตอบโต้เธอ เสมือนเธอเป็นชายในโลกลูกหนังมะกะโรนีน่ะล่ะ!

 


เรื่องโดย : เนซึมิ หอยทะเลคุง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook