งานเข้าบอลไทย! ฟีฟ่าสั่งพัทยาถอนฟ้อง"ไม่งั้น"แบนเรียบ

งานเข้าบอลไทย! ฟีฟ่าสั่งพัทยาถอนฟ้อง"ไม่งั้น"แบนเรียบ

งานเข้าบอลไทย! ฟีฟ่าสั่งพัทยาถอนฟ้อง"ไม่งั้น"แบนเรียบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล :  งานงอกเสียแล้วบอลไทย! อาจถูกแบนเรียบ ที่ล่าสุดทางฟีฟ่า ส่งหนังสือเตือนถึงสมาคมฟุตบอลฯ โดยสั่งให้สมาคมฟุตบอลฯ แจ้งไปยัง บจก.พัทยา ให้ถอนฟ้องเดี๋ยวนี้

พร้อมขู่ลงโทษแบนทีมชาติและสโมสรหากไม่ปฏิบัติตามก่อนในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ มิเช่นนั้นทั้งสมาคมฟุตบอลไทย และเหล่าสโมสรสมาชิก อาจเจอบทลงโทษขั้นรุนแรง ถึงขนาดตัดสินในทุกการแข่งขัน

ขอย้อนไปก่อนหน้านี้ เมื่อวันเสาร์ที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทาง บจก.สโมสรฟุตบอล พัทยา จำกัด ได้ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดมีนบุรี ถึงในเรื่องที่ห้ามมิให้สมาคมฟุตบอลไทยนำธรรมนูญใหม่มาปรับใช้ในการเลือกตั้งครั้งใหม่

จนทำให้การเลือกตั้งสะดุดลง ล่าสุด ทางฟีฟ่า เลยมีปฏิกิริยาตอบกลับถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยส่งหนังสือมาสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เมื่อช่วงดึกวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา

หนังสือฉบับดังกล่าวของฟีฟ่า ซึ่งออกโดย มร.มาคัส แคทเนอร์ รองเลขาธิการ แสดงถึงท่าทีขององค์กรลูกหนังโลกต่อสถานการณ์ในประเทศไทยมีใจความว่า "ฟีฟ่าเห็นว่าการที่มีสโมสรหนึ่งไปฟ้องร้องต่อศาลให้มีคำสั่งไม่ให้สมาคมฟุตบอลไทยดำเนินการเลือกตั้งถือเป็นการขัดขวางแทรกแซงอำนาจของคณะกรรมการของสมาคมฟุตบอลไทย"

“ตามมาตรา 13 และ 11 ย่อหน้าที่ 1 ของธรรมนูญฟีฟ่า สมาคมฟุตบอลฯ จะต้องจัดการเรื่องราวให้เสร็จสิ้นโดยห้ามไม่ให้บุคคลที่ 3 เข้ามาแทรกแซงการบริหารงานของสมาคมฟุตบอลฯ ซึ่งสมาคมฟุตบอลฯ มีสิทธิ์ลงโทษหากสโมสรสมาชิกไม่ปฏิบัติตาม”

“เราขอแจ้งให้ทราบว่าภายในวันที่ 24 มิ.ย. หากไม่มีการถอนฟ้องจาก บจก.พัทยา ฟีฟ่า อาจมีบทลงโทษสมาคมฟุตบอลฯ ในระดับทีมชาติและสโมสร ที่ ฟีฟ่า และ เอเอฟซี ให้การรับรอง และห้ามไม่ให้มีการทำสัญญาใดๆ อันมี ฟีฟ่า และเอเอฟซี รับรอง”

“ท้ายนี้ ขอให้จำไว้ว่า ตามมติของฟีฟ่าเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2556 นั้น สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะต้องนำธรรมนูญที่แก้ไขแล้วไปใช้ในการเลือกตั้งภายในวันที่ 30 กันยายน 2556 หากล้มเหลวฟีฟ่าจะมีมาตรการกับสมาคมฯ ตามความเหมาะสม” ลงชื่อ มร.มากัส คัสเนอร์ รองเลขาธิการสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าว รายงานว่า สโมสรพัทยา เอฟซี ได้ถอนฟ้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถอนฟ้องเพียงจำเลยที่ 2 คือ วรวีร์ มะกูดี เพียงคนเดียว ส่วนจำเลยที่ 1 สมาคมฟุตบอลฯ ยังคงอยู่ในขั้นตอนการฟ้องร้องเหมือนเดิม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook