พม่าแค้น! เพื่อนขัดคออดข่มขืนสาว ลวงพาไปฆ่า

พม่าแค้น! เพื่อนขัดคออดข่มขืนสาว ลวงพาไปฆ่า

พม่าแค้น! เพื่อนขัดคออดข่มขืนสาว ลวงพาไปฆ่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหาข่าว)

เกิดเหตุชาวพม่าเชือดคอเพื่อนร่วมชาติดับอนาถ หลังขัดขวางเพื่อนหมายจะข่มขืนสาว ตำรวจสอบเครียดแต่ยังปากแข็ง เร่งสอบหาหลักฐานมัดตัว

(5 พ.ค.) ร.ต.ท.ธุวานันท์ เงินยวง พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งเหตุ พบศพชายถูกฆ่าปาดคอเสียชีวิต ภายในซอยจันทน์ 43 แยก 5 แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณกลางพื้นผิวถนน ห่างจากปากซอยจันทน์ 43 แยก 5 ประมาณ 10 เมตร พบศพ นายจอ ชาวพม่า อายุประมาณ 29 ปี สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีแดง นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ พบบาดแผลฉกรรจ์ที่คอ ถูกปาดด้วยของมีคมจนแทบขาด

พล.ต.ต.มานิต เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนทราบว่า กลุ่มคนร้ายเป็นชาวพม่า อาศัยอยู่ห้องเช่าต้นโพธิ์ ภายในซอยจันทน์ 43 แยก 3 จึงรุดไปตรวจสอบ เป็นอาคารพาณิชย์ บริเวณห้องชั้น 2 ของอาคาร พบผู้ต้องสงสัยชาวพม่า เป็นชาย 2 คน อยู่ในอาการมึนเมา ทราบชื่อ นายจอ อายุ 28 ปี และ นายซอ อายุ 24 ปี นอกจากนี้ยังพบหญิงสาว 2 คน อยู่ในอาการหวาดผวา

จากการสอบสวนหญิงสาวผู้เสียหายทั้ง 2 ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายจอ กับ นายซอ พร้อมด้วยผู้เสียชีวิต ได้หลอกพาหญิงสาวทั้ง 2 มากินเหล้าที่ห้องพักดังกล่าว เมื่อมาถึงห้อง จู่ๆ นายจอ ขึ้นคร่อมพยายามที่จะข่มขืนผู้หญิง แต่ฝ่ายสาวผู้เสียหายได้ต่อสู้ขัดขืน ทำให้ถูก นายจอ ทำร้ายร่างกายสารพัด เมื่อ นายจอ เพื่อนชาวพม่าของ นายจอ เห็นท่าไม่ดีจึงเข้ามาห้ามไว้

หลังจากนั้น นายจอ กับ นายซอ ได้ชักชวนผู้เสียชีวิตออกไปกินข้าวข้างนอก นายจอ ได้หยิบพกมีดพับขนาด 5 นิ้ว ติดตัวไปด้วย ทั้งหมดหายตัวไปสักพัก ก่อน นายจอ กับ นายซอ กลับมาที่ห้องพักอีกครั้ง พร้อมกับคราบเลือดติดอยู่บนเสื้อผ้า แต่ไม่พบผู้เสียชีวิตอีกแต่อย่างใด จนมาทราบภายหลังว่าถูกฆ่าเสียชีวิตแล้ว

เบื้องต้น ทางผู้ต้องสงสัยยังให้การปฏิเสธ ทราบเพียงว่า นายจอ และ นายซอ เป็นพี่น้องกัน ทำงานอยู่ที่โรงงานสหไทย ซึ่งเป็นโรงงานประกอบกิจการทำกระดาษ ย่านพระประแดง ส่วนผู้ตายเป็นเพื่อนที่อาศัยอยู่ด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องทำการสอบสวน และนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบ พร้อมทั้ง รอผลทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล