ครม.หยุดสงกรานต์12-16เมย.ยังไม่ถกนิรโทษกรรม

น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งต่อที่ประชุม ว่า หลังเดินทางเข้าร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พระวรราชบิดาแห่งกัมพูชา ที่กรุงพนมเปญ นั้น ได้หารือกับ สมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและความสงบตามพื้นที่แนวชายแดน ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าว ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี เห็นชอบอนุมัติวันหยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 12 - 16 เมษายน เพื่อให้ประชาชนกลับภูมิลำเนา และถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวด้วย ครม.อนุมัติงบใต้ กว่า 4,000 ล้านบาทน.พ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 ในส่วนงบกลางรายการเงินสำรองรายจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามที่ สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เสนอทั้งสิ้นกว่า 4,006 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในเขต 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยมีศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบต่อไป ทั้งนี้ได้แบ่งเงินส่วนใหญ่ไปกับการแก้ไขด้านการพัฒนากว่า 1,500 ล้านบาท ครม.เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.มธ. ออกจากนอกระบบนายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ เสนอและให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร พิจารณา ก่อนเสนอ สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาต่อไป โดยสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ คือ ได้กำหนดให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีฐานะเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ ไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน กฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการและกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม ไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณหรือกฎหมายอื่น และเป็นนิติบุคคล ครม.อนุมัติ6กลุ่มบริษัทร่วมชิงเค้ก3.5แสนล.นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติรายชื่อ 6 กลุ่มบริษัท ซึ่งประกอบด้วย 31 บริษัท และเป็นบริษัทไทยจำนวน 19 บริษัท หรือคิดเป็นร้อยละ 65 ที่ผ่านคุณสมบัติตามเกณฑ์ เพื่อเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง (TOR) ในโครงการการออกแบบการก่อสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรณ์น้ำอย่างยั่งยืน และระบบการแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท ทั้งนี้ กระบวนการหลังจากนี้ ทางคณะกรรมการกำกับ จะมีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พิจารณาทำ TOR เพื่อให้เกิดความโปร่งใส โดยคาดว่า จะแล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์หลังจากนี้ และจะเริ่มยื่นซองประมูลได้ภายใน 3 เดือน ซึ่งภาคเอกชนจะต้องทำการเสนอมาใน 3 ซอง ประกอบด้วย ด้านเทคนิค ด้านเวลาการก่อสร้าง และด้านราคาการก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม ทุกโครงการจะต้องแล้วเสร็จภายใน 5 ปี หลังจากนี้ ครม.รับทราบเงินอุดหนุนสร้างเขื่อนป้องกันอุทกทัยนายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า คณะรัฐมนตรี รับทราบรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง แนวทางการจ่ายเงินอุดหนุนการสร้างเขื่อนป้องกันอุทกภัย 2 ใน 3 ของเงินลงทุน ให้ผู้ประกอบการ 5 แห่ง ซึ่งทางคณะทำงานพิจารณากำหนดราคากลาง ที่มีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานได้สรุปวงเงินอุดหนุนรวม 2,629 ล้านบาท จากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไม่เกิน 3,200 ล้านบาท ซึ่งแยกเป็นอุดหนุน 5 รายคือ นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ 1,329 ล้านบาท เขตส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมนวนคร 533 ล้านบาท นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน 313 ล้านบาท สวนอุตสาหกรรมบางกะดี 230 ล้านบาท และนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค 222 ล้านบาท ครม.อนุมัติปรับค่าอาหาร-อบรมของราชการน.พ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยมี นายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นประธาน ได้เห็นชอบการปรับปรุงมาตรการการประหยัดค่าใช้จ่าย ด้านอาหารและค่าอบรม ในการประชุมให้เหมาะสมกับค่าครองชีพ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีการปรับเพิ่มขึ้นในส่วนของค่าอาหารและค่าอบรมในสถานที่ราชการ จากเดิม 25 บาทต่อหัวต่อมื้อ เป็น 35 ต่อหัวต่อมื้อ และนอกสถานที่ราชการหรือในสถานที่ของเอกชน จาก 80 บาทต่อหัวต่อมื้อ เป็น 120 บาทต่อหัวต่อมื้อ ครม.รับทราบแผนปรับโครงสร้างหนี้ รสก.นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้รับทราบการปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศ ของรัฐวิสาหกิจ 5 แห่ง ประกอบด้วย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การรถไฟแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิต TOT และท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้ทางกระทรวงการคลังชำระหนี้แทน และให้ทางสำนักงบประมาณพิจารณา จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้แก่ รฟม. เพื่อคืนเงินให้แก่แหล่งเงินกู้โดยตรง นอกจากนี้ สำหรับโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล โดยจัดสรรงบประมาณเป็นรายปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2555-2559 ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ตามที่กระทรวงการคลังได้ตกลงร่วมกับ รฟม. ต่อไป โดยใช้วงเงินในการปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 34,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกู้รัฐบาลฝรั่งเศส และเยอรมัน จำนวน 183 ล้านบาท และเงินกู้จากรัฐบาลญี่ปุ่น จำนวน 34,000 ล้านบาท โดยให้ทางกระทรวงการคลัง เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการชำระหนี้แทน ตามอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.5 ครม.เปิดสายด่วนรับเรื่องร้องเรียนSME น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจ เพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการรายย่อย (SME) ใน 5 ช่องทาง ประกอบด้วย สายด่วน 1111 กด 22 www.1111.go.th และ Email - SME 1111@opm.go.th รวมไปถึง ตู้ ปณ.1111 เพื่อร้องเรียนด้วยตนเอง ได้ที่ ศูนย์เฉพาะกิจ ที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมทั้ง เห็นชอบให้มีการตั้งคณะอนุกรรมการ เพื่อจัดทำระบบฐานข้อมูล SME และคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ และเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาของ SME รวมทั้ง ให้กระทรวงมหาดไทย เร่งตั้งศูนย์เฉพาะกิจ ดูแล SME ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ครม.อนุมัติจ่ายเงินสร้างเขื่อนป้องน้ำ5นิคมฯนายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติเงินสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วม 2 ใน 3 ของงบประมาณรวม ในการก่อสร้าง 5 เขื่อนนิคมอุตสาหกรรม ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) นิคมอุตสาหกรรมบางกะดี นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ และเขตส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมนวนคร รวมทั้งสิ้นเป็นวงเงิน 3,987 ล้านบาท โดยรัฐบาลจะต้องอุดหนุนเงินจำนวน 2,629 ล้านบาท ซึ่งสามารถประหยัดงบประมาณลงจากเดิมที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ กว่า 329 ล้านบาท  ครม.ตั้งสำนักนโยบายยุทธศาสตร์การค้านายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ ว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามกระทรวงพาณิชย์เสนอ ในการปรับปรุงโครงสร้าง กระทรวง ทบวง กรม ในการจัดตั้งสำนักนโยบายยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ โดยจะให้เป็นหน่วยงานด้านวิชาการทำหน้าที่หลักในการเสนอและจัดทำยุทธศาสตร์ด้านการค้าแห่งชาติ แบบบูรณาการ เพื่อให้มีทิศทางในการดำเนินงานที่มีความชัดเจนและเป็นเอกภาพ รวมทั้ง พัฒนาเศรษฐกิจการค้าในประเทศให้มั่นคง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถรองรับการแข่งขันด้านการค้าของไทย และรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)  "พงศ์เทพ"เผยครม.ไม่มีการหารือเรื่องพ.ร.บ.นิรโทษ"อุกฤษ"http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=432621