ถนนลำปางริมแม่น้ำวัง ยุบเป็นทางยาวครึ่งกิโล

(4 ส.ค.) ภายหลังจากที่ เกิดตกหนักในพื้นที่ จ.ลำปาง ในช่วงได้รับอิทธิผลพายุวีเซนเต เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ถนนลาดยางสายหลัก ในหมู่บ้านลำปางกลางฝั่งตะวันตก ม.3 ต.ปงแสนทอง อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งเป็นถนนเลียบแม่น้ำวัง มีรอยแตกแยก และทรุดตัวลง ยาวรวมกว่า 500 เมตร ซึ่งถนนสายดังกล่าว มีบ้านเรือนประชาชนตั้งอยู่กว่า 20 หลัง ซึ่งเป็นจุดที่ทางสำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 1 ลำปาง และเจ้าหน้าที่กองช่าง เทศบาลเมืองเขลางค์นคร อ.เมือง ได้ร่วมกันตรวจสอบถนนสายดังกล่าว จึงพบว่า สายน้ำจาดแม่น้ำวัง ที่ไหลโค้ง ตรงเข้าสู่ริมตลิ่งของถนน เกิดการกัดเซาะใต้ฐานดิน เป็นโพร่งลึก จึงทำให้ถนนด้านบน ที่อยู่สูงกว่า 10 เมตร เกิดแตก และทรุดตัวลง
ทั้งนี้ หลังผ่านช่วงฝนตกหนักมา 1 สัปดาห์ ปรากฏว่า ขณะนี้ ถนนสายดังกล่าวได้ยุบตัวลงลึกอย่างมากแล้ว และถือว่าจะเป็นอันตรายต่อประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาถนนสายดังกล่าวอย่างมาก ทำให้ทางเทศบาลเมืองเขลางค์นคร ต้องมีการปิดกั้นครึ่งถนน เพื่อป้องกันอันตราย จากถนนที่จะเกิดยุบ และถล่มลงไป สำหรับประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ริมถนนขณะนี้ ก็เฝ้าระวังด้วยความเป็นห่วงว่า ถนนสายดังกล่าว จะเกิดการยุบตัวลง และเกิดถล่มลงไป ในแม่น้ำวัง และอาจจะขยับกินแนวถนน และแผ่นดินให้เกิดยุบ และถล่มลงไปมากยิ่งขึ้น จนเข้าสู่แนวบ้านเรือน ที่ตั้งห่างจุดที่เกิดถนนยุบตัวลง ประมาณ 8 เมตร เท่านั้น
ขณะที่ นายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเขลางค์นคร กล่าวว่า ทางเทศบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ต่อการแก้ไขปัญหา แต่เนื่องจากขณะนี้ ติดปัญหา พึ่งผ่านการเลือกคั้งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองเขลางค์นคร จึงยังไม่สามารถเปิดประชุมสภา เพื่อขออนุมัติงบสะสม 4 ล้านบาท ออกมาใช้แก้ไขปัญหาถนนในจุดดังกล่าวเกิดพังได้ ทั้งการขุดสันดอนฝั่งตรงข้าว เพื่อเปลี่ยนทางน้ำ และการสร้างถนนใหม่ แต่ขณะนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน จากการใช้ถนน ส่วนกรณีที่มีเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เข้าพื้นที่นาข้าวของชาวบ้าน ที่ตั้งอยู่ริมตลิ่ง ในแม่น้ำวัง ใกล้กับจุดที่ถนนพัง และเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เกิดกระแสน้ำวนไหลเชี่ยว แล้วไหลกัดเซาะดินใต้ฐานถนน จึงสั่งการให้หยุดสูบน้ำ จนทำให้ชาวนาเกิดความไม่พอใจ ซึ่งทางเทศบาลก็จะได้เร่งออกสร้างความเข้าใจกับชาวนา ที่มีพื้นที่นาข้าวอยู่บริเวณนั้น เพื่อร่วมกันป้องกันถนนที่จะเกิดยุบตัวลงเรื่อยๆ