ไฟไหม้รง.ผลิตรองเท้าถ.สุขาภิบาล1ไร้เจ็บ

ไฟไหม้รง.ผลิตรองเท้าถ.สุขาภิบาล1ไร้เจ็บ

ไฟไหม้รง.ผลิตรองเท้าถ.สุขาภิบาล1ไร้เจ็บ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บรรยากาศก่อนการไต่สวนพยานผู้ถูกร้อง เรื่องคำร้องขอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตาม มาตรา 68 ล่าสุดขณะนี้บรรดาพยานฝ่ายผู้ถูกร้องได้เริ่มทยอยเดินทางมาถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้ว อาทิ นายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการกฤษฎีกา นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นอกจากนี้ ยังมีผู้ร้องและพยานผู้ร้องเดินทางมาฟังการไต่สวนครั้งนี้ด้วย สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้น ได้มีกำลังตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย มาคอยดูลความปลอดภัย ขณะที่กลุ่มมวลชนเสื้อหลากสี จะเริ่มทยอยเดินทางมาสมทบกับกลุ่มกองทัพปลดแอกประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักชุมนุมอยู่หน้าศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะเริ่มการไต่สวนพยานผู้ถูกร้อง ในเวลา 09.30 น. 'สามารถ'ยันร่างรธน.บริสุทธิ์-'อุดมเดช'ย้ำศาลไร้อำนาจยื้อ นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะพยานผู้ถูกร้องลำดับที่ 6 ในคดีที่ ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องไว้พิจารณาว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจเป็นการล้มล้างการปกครอง เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ไม่มีปัญหาในการไปร่วมการไต่สวนวันนี้ โดยมีความพร้อม และจะไปเรียนศาล ว่า ใช้เจตนาโดยสุจริต ตามอำนาจที่มีในหมวด 15 มาตรา 291 ว่าด้วยการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้ใช้สิทธิ์ตามหมวด 3 ตามที่ผู้ร้องอ้างก็จะชี้แจงไปตามข้อเท็จจริงและหลักกฎหมาย พร้อมกันนี้ยังมีความมั่นใจ เพราะไม่ได้ทำตามที่ถูกกล่าวหา ไม่มีวาระซ่อนเร้นใดๆ ทำให้ไม่รู้สึกหนักใจใดๆ ทั้งสิ้น"พร้อม ในฐานะผู้ถูกร้อง ก็จะไปเรียนศาล ว่า ทำตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว แล้วก็ใช้เจตนาโดยสุจริต" นายสามารถ กล่าวด้าน นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะพยานผู้ถูกร้องที่ 8 เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า วันนี้ในการไต่สวน จะชี้แจงไปตามหลักการ ด้วยหลักฐานต่างๆ ที่มี ซึ่งได้เตรียมข้อมูลในเรื่องของข้อกฎหมาย โดยไม่ขอตอบว่า รู้สึกหนักใจหรือไม่ ขณะเดียวกัน ส่วนตัวกังวลเรื่องมวลชนด้านนอก ที่อาจจะมาสนับสนุนหรือต่อต้าน แต่ก็เชื่อมั่นว่าจะไม่กระทบกับการวินิจฉัยของศาล "อุดมเดช" พร้อมร่วมไต่สวน ปัดมีหลักฐานพิเศษนายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ในฐานะ พยานผู้ถูกร้องที่ 5 ในคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องไว้พิจารณาว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจเป็นการล้มล้างการปกครอง เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ในการร่วมไต่สวนวันนี้ ไม่ได้เตรียมหลักฐานอะไรไปพิเศษ มีเพียงการเตรียมการเดินทางไปให้ทันตามเวลาเท่านั้น ทั้งนี้ ยังไม่ทราบถึงหลักฐานเพิ่มเติม ที่ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ 1 ใน 7 พยานผู้ร้อง ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ วานนี้ ซึ่งจากการติดตามการให้ปากคำของผู้ร้องตลอดทั้งวันเมื่อวานที่ผ่านมานั้น เห็นว่ายังไม่มีอะไรคืบหน้า ส่วนความเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของศาลเป็นเรื่องที่พูดลำบาก เพราะศาลไม่มีอำนาจวินิจฉัยตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แต่กลับพยายามยื้อ ดังนั้น ฝ่ายตนจึงต้องทำตามหน้าที่"คือ พูดยากพูดลำบาก คือจริงๆ ก็ไม่มีอำนาจตั้งแต่ต้น แต่ในเมื่อเขาจะยื้อไปใช้ ก็ไปทำหน้าที่ของเราเท่านั้นเอง" นายอุดมเดช กล่าว ทั้งนี้ ยอมรับว่า พอใจกับภาพรวมของการไต่สวนในวันแรก โดยเฉพาะการซักค้านของ นายชูศักดิ์ ศิรินิล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ในฐานะทีมกฎหมายฝ่ายผู้ถูกร้อง ที่ทำการซักค้าน นายสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งขึ้นเบิกความเป็นพยานฝ่ายผู้ร้อง โดยคำถามหลายคำถาม นายสุรพล ไม่สามารถตอบได้อย่างตรงประเด็นขณะที่ในวันนี้ได้มีการวางตัว นายโภคิน พลกุล นักกฎหมายและอดีตรองประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นพยานปากสำคัญ เพื่อเบิกความพยานฝ่ายผู้ถูกร้อง โดยจะพุ่งประเด็นไปที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ไม่ได้รวบรัดหรือรีบเร่ง เพื่อต้องการให้ได้อำนาจการปกครอง และกระบวนการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ถือเป็นรูปแบบที่ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไข ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญนอกจากนี้ นายอุดมเดช ยังยืนยันว่า วันนี้ไม่มีกลุ่มคนเสื้อแดงมาให้กำลังใจ รวมถึงกดดันศาลรัฐธรรมนูญ อย่างแน่นอน บก.น.2ปรับแผนดูศาลรธน.ไต่สวนวันที่2พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ ผบก.น.2 กล่าวถึงมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งในวันนี้ (6 ก.ค.) ซึ่งจะเป็นการนัดไต่สวนผู้ถูกร้อง ว่า จากการประเมินการดูแลพื้นที่ในการไต่สวนวันแรก ถือว่าผ่าน  เนื่องจากไม่มีเหตุที่มีผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป รวมทั้งการพิจารณาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่คนที่มาร่วมฟังค่อนข้างพลุกพล่าน เนื่องจากมีคนหลายกลุ่ม สำหรับในการวางมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยในวันนี้ก็ต้องทำให้ดูดีกว่าเมื่อวาน เนื่องจากเป็นการไต่สวนผู้ถูกร้องอาจมีทั้ง 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายสนับสนุน และฝ่ายไม่เห็นด้วย เดินทางมาร่วมชุมนุมติดตามการพิจารณา เบื้องต้นต้องประเมินก่อนว่า ผู้ที่จะเดินทางมาร่วมชุมนุมนั้น มากขนาดไหน อย่างไรก็ตาม คงต้องมีการปรับแผนในการดูคนที่เดินทางมาตั้งแต่ทางเข้าเพื่อแยกกลุ่มว่าเป็นฝ่ายไหน และจัดแบ่งพื้นที่แยกกัน ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังใช้เท่าเดิมคือ 200 นาย แต่ว่าสลับเปลี่ยนกำลังให้ชุดเดิมไปพัก  'วสันต์'เตรียมนั่งบัลลังก์ไต่สวนผู้ถูกร้องนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เตรียมออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานฝ่ายผู้ถูกร้อง เรื่องคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ในเวลา  09.30 น.เป็นต้นไป ณ ห้องออกนั่งพิจารณา ชั้น 3 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ โดยเบิกความทั้งหมด 8 ปาก คือ นายวัฒนา เซ่งไพเราะ หรือ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์, นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล, นายโภคิน พลกุล, นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ, นายอุดมเดช รัตนเสถียร, นายสามารถ แก้วมีชัย, นายชุมพล ศิลปอาชา และ นายภราดร ปริศนานันทกุล ทั้งนี้ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้เปิดโอกาสให้พยานฝ่ายผู้ร้อง หรือตัวแทน สามารถเข้าร่วมคัดค้านได้ ส่วนทางด้านการรักษาความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลคอยประจำตามจุดเข้า-ออกประตู ทั้ง 4 ทิศ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 คอยดูแลความปลอดภัยโดยรอบ "อุดมเดช" พร้อมไต่สวนศาลรธน. ย้ำ ม.291แก้ได้นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ในฐานะพยานผู้ถูกร้องที่ 5 ในคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้พิจารณา ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจเป็นการล้มล้างการปกครอง เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ไม่รู้สึกหนักใจที่เมื่อวานนี้ฝ่ายผู้ร้องไต่สวนกับศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งวานนี้ก็ได้ติดตามตลอดทั้งวัน และวันนี้ก็เตรียมพร้อมที่จะไปไต่สวนแล้ว ส่วนจะเป็นช่วงเช้าหรือช่วงบ่ายก็ได้ แล้วแต่ศาลรัฐธรรมนูญ  พร้อมยืนยันว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สามารถแก้ไข ม.291 ได้ หากร่างรัฐธรรมนูญมาแล้ว จะให้ประชาชนทำประชามติเหมือนอย่างที่ นายสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ บอกอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องที่ นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขอถอนตัวออกจากการวินิจฉัยคดีนั้น แสดงให้เห็นว่า นายจรัญ จำคำพูดของตัวเองได้ ซึ่งทางฝ่ายรัฐบาล ก็ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง  และไม่ต้องการแตะต้องหมวดพระมหากษัตริย์แต่อย่างใด เพราะมีเจตนาที่จะแก้มาตรา 291 มาตราเดียว เพื่อเปิดโอกาสให้มี ส.ส.ร. "ฉบับบปัจจุบัน ปี 50 ก็เปิดโอกาสให้แก้ไขได้ตาม มาตรา 291 อยู่แล้ว คนที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็มีอำนาจที่จะแก้ไขได้อยู่ ก็เป็นไปตามกระบวนการทั้งสิ้น" นายอุดมเดช กล่าวส่วนเรื่องคลิปเสียงของ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ได้มีการพูดคุยกันกับสมาชิกในพรรคบ้างแล้ว ด้านพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีใครซักถามถึงเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด 
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook