นายกลงตากห่วงน้ำท่วมกระทบวงกว้างย้ำทุกฝ่ายร่วมมือ

นายกลงตากห่วงน้ำท่วมกระทบวงกว้างย้ำทุกฝ่ายร่วมมือ

นายกลงตากห่วงน้ำท่วมกระทบวงกว้างย้ำทุกฝ่ายร่วมมือ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เดินทางมาตรวจสถานการณ์เพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาอุทกภัยน้ำท่วม ที่เขื่อนภูมิพล การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อ.สามเงา จ.ตาก โดยมี นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ให้การต้อนรับ จากนั้น ได้มีการประชุมระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ที่ห้องประชุมเขื่อนภูมิพล ร่วมกับรัฐมนตรี และผู้ว่าราชการจังหวัดกลุ่มจังหวัดที่เกี่ยวข้องกับการจัดการบริหาร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการด้านต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชน ทั้งระบบ ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ตั้งแต่การช่วยเหลือทันที การป้องกันและการปลูกป่า การสร้างเขื่อน หรืออ่างเก็บน้ำในพื้นที่ต้นน้ำ โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้บรรยายสรุปถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อน ปัญหาและผลกระทบที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่อีกด้วยอย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำให้ทุกฝ่ายต้องมาร่วมมือกันในการหาแนวทาง และมาตรการการป้องกันและแก้ไขปัญหา ทั้งในส่วนของกระทรวงและกรมต่างๆ รวมไปถึงในระดับจังหวัด โดยอุทกภัยเมื่อปีที่ผ่านมาได้สร้างความเดือดร้อน และผลกระทบอย่างมากมายต่อประเทศ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งเศรษฐกิจ ภาคการเกษตร และประชาชนนับแสนครอบครัว ถูกน้ำท่วม วันนี้ ถึงเวลาที่จะต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง นายกฯ ฉุน ผวจ.ต้นน้ำ แก้ปัญหาช้าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมหารือ Teleconference ผู้ว่าราชการ 10 จังหวัดต้นน้ำ โดย นายกรัฐมนตรี มีสีหน้าไม่พอใจ ที่แต่ละจังหวัดต้นน้ำดำเนินการล่าช้ากว่าแผนที่กำหนด โดยให้เสร็จภายในเดือนมิถุนายน ซึ่ง นายกรัฐมนตรี ย้ำหลายครั้งว่าเป็นโครงการเร่งด่วนรอไม่ได้ จำเป็นต้องเร่งแก้สัญญาว่าจ้างผู้รับเหมา หากไม่ทัน ต้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาช่วยเหลือเพิ่มเติม และให้ทาง กระทรวงมหาดไทย สนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือในการขุดลอก เพื่อให้โครงการแล้วเสร็จตามกำหนด ทั้งนี้ เมื่อประชุมเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรี จะเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ ไปติดตามความคืบหน้าการชุดลอกแก้ไขปัญหาอุทกภัย บริเวณแม่น้ำปิง จ.เชียงใหม่ ต่อไป ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้แถลงกับสื่อมวลชน ก่อนเดินทางไปติดตามการขุดลอกแม่น้ำปิง จ.เชียงใหม่ ว่าโครงการมีความคืบหน้าไปถึง 60% - 70% ทั่วประเทศ และพื้นที่ ปลายน้ำ กลางน้ำ แต่พื้นที่ต้นน้ำ ยังถือว่าล่าช้า จึงต้องมีการติดตามเร่งรัด โดย นายกรัฐมนตรี มั่นใจว่า ทุกพื้นที่จะให้แล้วเสร็จทันตามแผนที่กำหนดไว้ และพอใจในความตั้งใจของผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ซึ่งจะมีการประเมินผลการทำงานของผู้ว่าราชการอยู่แล้ว ยืนยันว่า ไม่ได้มุ่งแต่จับผิดเป็นรายบุคคล แต่ไม่สามารถบอกได้ว่า น้ำจะไม่ท่วมเลย เพราะเป็นภัยธรรมชาติ รวมถึง จะต้องมีการประเมินปริมาณน้ำฝนจากพายุ 3 ลูก ที่จะเข้ามาว่ามีจำนวนมากน้อยแค่ไหน แต่เชื่อว่า สถานการณ์น้ำปีนี้จะไม่รุนแรงเหมือนปีที่ผ่านมา ซึ่งการป้องกันน้ำท่วมไม่ใช่หน้าที่ของ นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว แต่ถือเป็นความรับผิดชอบของทุกฝ่ายร่วมกัน ส่วนผลหลังจากนี้จะออกมาเป็นเช่นไร ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน บุญทรง ร่วมประชุม Teleconferenceที่ศาลากลาง จ.เชียงใหม่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย ม.ร.ว.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม Teleconference จาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะ โดยนายกรัฐมนตรี เป็นห่วงในเรื่องการดูแลโบราณสถาน และการขุดลอกลำน้ำต่างของ จ.เชียงใหม่ ซึ่ง นายบุญทรง กล่าวยืนยันว่า การดำเนินการตามโครงการ  Flag Ship โดยเฉพาะการลอกลำน้ำปิง ระยะทาง 111 กิโลเมตร และลำน้ำกวง ระยะทาง 61 กิโลเมตร เสร็จสิ้นแล้ว 100%  ส่วนโครงการที่เหลือจะเสร็จทันตามแผนแน่นอน เช่นเดียวกับการดูแลในส่วนของโบราณสถาน ซึ่งได้ดำเนินการตามแผนครบถ้วนแล้ว และโครงการซ่อมปรับปรุงทางหลวง จะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคมนี้อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การขุดลอกลำน้ำ ยังมีอีกบางช่วงที่ต้องขุดลอกเพิ่มเติมอีก 6 รายการ ซึ่งจะเสนอต่อคณะทำงาน และนายกรัฐมนตรีทราบ เพื่อขอรับงบประมาณสนับสนุนเพิ่มเติมต่อไป "กิตติรัตน์" คาด 2 สัปดาห์ เริ่มเบิกจ่ายงบสร้างเขื่อนรอบนิคมอุตฯ ได้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การสร้างเขื่อนรอบนิคมอุตสาหกรรมนั้น ขณะนี้คาดว่าภายใน 1 - 2 สัปดาห์ จะสามารถเริ่มเบิกจ่ายเงินในการสร้างเขื่อนให้กับผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 6 แห่ง ซึ่งเงินก่อสร้างสัดส่วน 1 ใน 3 ของภาคเอกชน ที่จะมีการกู้ยืมจากทางธนาคารออมสิน ที่ได้มีการเตรียมวงเงินไว้ 15,000 ล้านบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 0.01 ซึ่งทางรัฐบาลในขณะนี้ พร้อมขยายระยะเวลาการปล่อยกู้ออกไปจากเดิม 7 ปี เป็น 15 ปี และปลอดการชำระเงินต้นในช่วง 5 ปี แรก ซึ่งคาดว่าจะมีการเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้พิจารณาในเร็วๆ นี้ จะทำให้การสร้างเขื่อนในรอบนิคมนั้น แล้วเสร็จประมาณเดือนสิงหาคม พร้อมยืนยันว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ เชื่อว่าทางภาครัฐจะสามารถรับมือกับปัญหาน้ำท่วมได้อย่างแน่นอน 
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook