กิเลนดวลโทษดับสงขลาระทึก6-5ชนปราสาทรอบชิงเอฟเอ

กิเลนดวลโทษดับสงขลาระทึก6-5ชนปราสาทรอบชิงเอฟเอ

กิเลนดวลโทษดับสงขลาระทึก6-5ชนปราสาทรอบชิงเอฟเอ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมืองทอง ยูไนเต็ด ต้องออกแรงเหนื่อยกว่าจะเอาชนะ สงขลา ทีมดิวิชั่น 1 ในช่วงการดวลจุดโทษ 6-5 หลังในเวลาเสมอกันสุดดุเดือด 2-2  เข้าไปเล่นรอบชิงในฝันไทยคมเอฟเอคัพกับ บุรีรัมย์ พีอีเอ วันที่ 11 มกราคมนี้

ไทยคมเอฟเอคัพรอบรองชนะเลิศ
วันเสาร์ที่ 7 มกราคม 2555

เมืองทอง ยูไนเต็ด (ไทยลีก) 2 –  สงขลา เอฟซี (ดิวิชั่น1) 2
(เมืองทองชนะในช่วงการดวล จุดโทษ 6-5)

ศึกมูลนิธิไทยคมเอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศที่สนามเทพหัสดิน เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึกไทยพรีเมียร์ลีก พบ สงขลา เอฟซี ทีมหนึ่งเดียวจากดิวิชั่น 1 ที่หลุดเข้ามาถึงรอบนี้ โดยรอบ 8 ทีมสุดท้าย กิเลนผยอง ถล่ม ศรีราชามา 4-0 ส่วน วัวชนแดนใต้ ก็เอาชนะ เลย ซิตี้ ทีมระดับลีกภูมิภาคมาด้วยสกอร์เดียวกัน

เมืองทองเปลี่ยนผู้เล่น 2 ตำแหน่งจากเกมกับศรีราชาโดย ปิยพล บรรเทา มาเล่นแบ็กขวาแทน ดิอาร์ร่า อาลี และ นฤพล อารมณ์สวะ ที่ลงแทน จักรพันธ์ พรใส ซึ่งจะทำเกมรุกร่วมกับ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ และธีรศิลป์ แดงดา ส่วน สงขลา จัดทัพใหญ่มาเต็มสูบ มาเล็ก ยาวาหาบ ประสานงานในแดนหน้ากับ วิทวัส เอี่ยมรัมย์ ขณะที่ ไชยรัตน์ หมัดศิริ กัปตันทีมผ่านความฟิตลงคุมแดนกลางได้

เริ่มเกมมาแค่ 40 วินาที แนวรับเมืองทองเสียสมาธิ นพนนท์ คชพลายุกต์ ใช้ความเร็วกระชากหนี วีระวุฒิ ไปสุดเส้นหลังก่อนจะผ่านมาหน้าประตู มาเล็ก ยาวาหาบ ตวัดผ่านมือ กวิน เข้าไป สงขลาทำเซอร์ไพรส์ออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0

กิเลนผยองไม่ยอมตกเป็นรองนาน น.12 ธีรศิลป์ รับบอลจากการวางยาวก่อนจะทะลุเข้าเขตโทษแต่ไม่มีจังหวะยิงตัดสินใจจ่ายย้อน มาให้ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ กดด้วยซ้ายเต็มข้อไม่เหลือตีเสมอเป็น 1-1 อย่างทันควัน

เมืองทองยังครองเกมได้ดีกว่า น.20 ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ มีโอกาสซัดฟรีคิกระยะ 25 หลาแต่จังหวะยิงไปเสียหลักลื่นทำให้บอลไม่มีน้ำหนักไปเข้ามือ ประสิทธิ์ น่วมศาลา รับสบาย ถัดมา 3 นาทีสงขลาได้ลุ้นบ้าง กรกช วิริยอุดมศิริ วางยาวจากลูกตั้งเตะบอลเลยมาถึงกลางประตู วิทวัส เอี่ยมรัมย์ โหนโหม่งข้ามคาน

ผ่าน 30 นาทีเกมกลับมาสูสีอีกครั้งสงขลาเริ่มตั้งเกมได้เปิดหน้ารุกเข้าใส่เมืองทอง เช่นกัน มาเล็ก ยาวาหาบ ลองกลับตัวยิงบอลไปเข้ามือ กวิน

น.33 พิชิตพงษ์ รับใบเหลืองเป็นคนแรกหลังไปยันใส่ วิทวัส เอี่ยมรัมย์   น.37 นฤพล กระดกบอลให้ ธีรศิลป์ ได้หลุดเดี่ยวอีกครั้งแต่จังหวะจะยิงมุมไม่เหลือทำให้ ธีรศิลป์ จิ้มออกหลังไปเอง หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 1-1

ครึ่งหลังเมืองทองต้องเปลี่ยนเอา ภาณุพงศ์ วงศ์ษา ที่มีอาการบาดเจ็บในช่วงท้ายครึ่งแรกออกและส่ง ดิอาร์ร่า อาลี ลงมาแทนโดยขยับ เซียก้า ไปยืนเซ็นเตอร์ฮาร์ฟ

แค่ 3 นาที ดัสกร ทองเหลา ก็เปิดฟรีคิกจากเกือบกลางสนามไปหน้าประตูและเป็น อาลี ที่เพิ่งลงมาโฉบโหม่งลงพื้นตุงตาข่าย เมืองทองพลิกกลับมานำ 2-1 ทว่าแค่นาทีเดียวสงขลาก็ตีเสมออย่างรวดเร็วจากลูกยิงไกลสุดสวยของ โบบ่า สกอร์เท่ากันอีกครั้ง 2-2

น.70 เมืองทองเกือบขึ้นนำอีกครั้งเมื่อแนวรับสงขลาสกัดลูกเตะมุมออกมาไม่ดีบอลมา เข้าเท้า อาลี กลับตัวยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งชนคานอย่างจัง

น.75 เมืองทอง ปล่อย คริสเตียน เคาคู ลงมาแทน ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ถัดมา วิทวัส เอี่ยมรัมย์ ได้ลองส่องไกลให้สงขลาบอลเฉี่ยวเสาไปนิดเดียว

ก่อนหมดเวลา 2 นาที กิเลน ได้โอกาสทอง คริสเตียน จับบอลลงในเขตโทษและกลับตัวยิงบอลเหินข้ามคานจบ 90 นาทีเสมอกัน 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาทีช่วงต่อเวลาพิเศษเมืองทองเปลี่ยนคนสุดท้ายส่ง อานนท์ สังสระน้อย ลงมาแทน พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ขณะที่สงขลาส่ง ปรวัตร สิริวัฒนา ลงมาแทน มานพ สอนแก้ว น.98

เมืองทองเป็นฝ่ายบุกเข้าใส่ตลอดในช่วงต่อเวลา น.113 นฤพล เปิดครอสเข้ามาหน้าประตูให้ อานนท์ เทคตัวโขกลงพื้นเฉี่ยวเสาไปนิดเดียว นาทีสุดท้าย ณัฐพร หลุดเข้าไปยิงข้ามคานหมด 120 นาทีเสมอ 2-2 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษช่วงการดวลจุดโทษ สงขลาพลาดถึง 2 คนคือ วิทวัส เอี่ยมรัมย์ และ ไซดู ซานี่ ส่วนเมืองทองยิงเข้าหมดทำให้ กิเลนผยอง เอาชนะไปด้วยสกอร์รวม 6-5 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ บุรีรัมย์ พีอีเอ ในวันที่ 11 มกราคม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เมืองทอง ยูไนเต็ด :
กวิน ธรรมสัจจานันท์(GK) – วีระวุฒิ กาเหย็ม ,ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์(C) ,ภาณุพงศ์ วงศ์ษา(ดิอาร์ร่า อาลี น.46) ,ปิยพล บรรเทา – พิชิตพงษ์ เฉยฉิว(อานนท์ สังสระน้อย น.95) ,ดัสกร ทองเหลา, ดาโญ่ เซียก้า ,นฤพล อารมณ์สวะ ,ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (คริสเตียน เคาคู น.75)– ธีรศิลป์ แดงดา

สงขลา เอฟซี : ประสิทธิ์ น่วมศาลา (GK) – กรกช วิริยอุดมศิริ ,ซัมเซ็ม หนิมา ,ไซดู ซานี่ ,นพนนท์ คชพลายุกต์ – กิตติพงษ์ รงรักษ์ (วรเวศ จันทร์อุทัย น.55),โบม่า ควาโดว ,ไชยรัตน์ หมัดศิริ(C) ,มานพ สอนแก้ว( ปรวัตร สิริวัฒนากร น.98) – วิทวัส เอี่ยมรัมย์ ,มาเล็ก ยาวาหาบ  (ปณัย คงประพันธ์ น.85)

บุรีรัมย์ พีอีเอ (ไทยลีก) 2 - อาร์มี่ ยูไนเต็ด (ไทยลีก) 0

ปราสาทสายฟ้า ยังโชว์ฟอร์มฮอตไม่เลิกเมื่อจัดการคว่ำ สุภาพบุรุษวงจักร ไปแบบง่ายดาย 2 - 0 โดยได้ประตูจากจุดโทษของ สุเชาว์ นุชนุ่ม และ เเฟรงค์ อาเซียมปง ช่วยให้ทีมของ เด็กเน ทะลุผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศในศึกไทยคม เอฟเอคัพ 2011 ได้สำเร็จ
 
ศึกมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ 2011 รอบรองชนะเลิศ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เจ้าของเเชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2011"ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ พบกับ "สุภาพบุรุษวงจักร" อาร์มี่ ยูไนเต็ด ทีมในลีกเดียวกัน โดยผลงานใน
รอบที่ผ่านมา บุรีรัมย์ พีอีเอ ยังโชว์สมราคาเเชมป์ไทยลีก หลังเอาชนะ บีอีซี เทโรศาสน สบายๆ 2-0 ส่วนอาร์มี่ ยูไนเต็ด ถือว่ายังดวงเเข็งหลังเอาชนะจุดโทษ ชัยนาท เอฟซี 6-5 หลังเสมอกันในเวลา 1-1
 
ซึ่งเกมนี้ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ ไม่มีปัญหาในการจัดทัพนักเตะเเต่อย่างใด นักเตะพร้อมลงสนามกันทุกราย ทำให้ "โค้ชเเต๊ก" อรรถพล บุษปาคม ได้จัดทัพใหญ่ลงสู้ศึกในวันนี้อย่างเต็มสูบ นำโดย รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค, สุเชาว์ นุชนุ่ม และ แฟรงค์ โอเเฮนด์ซ่า ลงทำศึก  ส่วนทีมเยือน อาร์มี่ ยูไนเต็ด ขุมกำลังตอนนี้พร้อมสมบูรณ์เต็มร้อยเช่นกัน ทำให้  "โค้ชดู๊ด" อดุลย์ รุ่งเรื่อง กุนซือใหญ่ของทีมก็จัดนักเตะชุดที่ดีที่สุดลงสนามอย่าง ธาตรี สีห และ จักรพงษ์ สมบูรณ์ นำทัพส่งสู้ด้วยเช่นกัน ผู้ตัดสินในเกมนี้ พรไพรัช โพยกระโทก
 
สัญญาณนกหวีดเป่าเริ่มเกมในครึ่งเวลาเเรก อาร์มี่ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายได้เขี่ยลูกเริ่มเล่นก่อนเเละเปิดเกมรุกบุกใส่ บุรีรัมย์ พีอีเอ ทันที่ เเต่เกมรับของ บุรีรัมย์ พีอีเอ ยังไม่พลาดง่ายๆเเละทำเกมโต้กลับทันที ก่อนจะมามาได้ประตูขึ้น
 
นำเร็วตั้งเเต่ต้นเกม น.4 จากจังหวะที่ สุเชาว์ นุชนุ่ม เปิดลูกเตะมุมเข้ามาในกรอบเขตโทษ เเล้วเกิดการชุลมุลกันขึ้นมีนักเตะ บุรีรัมย์ พีอีเอ ล้มอยู่ในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษ สุเชาว์ นุชนุ่ม รับหน้าที่สังหารบอลผ่านมือ
 โคชิ จุน เข้าไปให้ บุรีรัมย์ พีอีเอ ขึ้นก่อนนำ 1-0
 
จากนั้น อาร์มี่ ยูไนเต็ด ที่ถูกนำไปก่อนก็โหมบุกอย่างหนัก เเละเกือบจะมาได้ประตูตีเสมอใน น.14 จากลูกยิงของ เลอันโดร ดอสซานโตส ที่ยิงบอลผ่านมือ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายทวารบุรีรัมย์ พีอีเอ เข้าไปตุงตะข่ายได้
 เเต่ผู้ตัดสินก็เป่าให้เป็นลุกล้ำหน้าซะก่อน ทำให้พลาดการได้ประตูตีเสมอ
 
ถัดมา น.16 อาร์มี่ ยูไนเต็ด ก็มีโอกาสทำประตูอีกครั้งเมื่อ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ผู้เล่นบุรีรัมย์ พีอีเอ จ่ายบอลพลาดโดน ธาตรี สีหา เก็บบอลได้บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะตัดสินใจรักไก่ยิงเเต่บอลก็ยังไม่เข้ากรอบออกหลังประตูไปอย่างน่าเสียดาย
 
เกมกลับมาเป็นของบุรีรัมย์ พีอีเอ อีกครั้งเมื่อ จักรพันธุ์ เเก้วพรม ได้บุกขึ้นมาทางฝั่งขวาเเละเเทงบอลทะลุช่องต่อไปให้ แฟรงค์ โอเเฮนด์ซ่า หลุดเข้าไปชิพบอลผ่านมือ โคชิ จุน เเต่กองหลังอาร์มี่ ยูไนเต็ด ยังไวสกัดทิ้งออกมาได้ทัน
จากจังหวะนี้ บุรีรัมย์ พีอีเอ ก็ได้เฮอีกครั้งใน น.22 จากลูกเตะมุมของ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ที่รับหน้าที่เปิดบอลโค้งไปให้กับ เเฟรงค์ อาเซียมปง ได้โขกเต็มหัวเข้าประตูไป ให้บุรีรัมย์ พีอีเอ นำห่างเป็น 2-0
 
หลังจากนั้น น. 37 อาร์มี่ ยูไนเต็ด ก็เกือบจะได้ลูกตีไข่เเตกชนิดที่ว่าใกล้เคียงสุดๆ เมื่อ ธาตรี สีหา ได้บอลทางฝั่งขวาและเลี้ยงจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจสับไกด้วยซ้ายเต็มข้อบอลผ่านมือ ศิวรักษ์ เทศสูง
 
เนิน ไปได้เเต่บอลไม่เข้ากรอบเฉียดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
 
เเละเวลาที่เหลือทั้งคู่ก็ยังเดินหน้าทำเกมรุกพลัดกันบุกอยู่ตลอดเวลา เเต่ก็ไม่สามารถทำประตูเพิ่มกันได้อีกทำให้หมดเวลาในครึ่งเวลาเเรก บุรีรัมย์ พีอีเอ ยังนำ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์ 2-0
 
เริ่มเกมครึ่งเวลาหลังบุรีรัมย์ พีอีเอ ก็เดินเกมรุกบุกใส่ทันที น.46 รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค บรรจงเปิดบอลไปให้กับ บูบา อับโบ ผู้เล่นที่ถูกส่งลงมาใหม่จับบอลลงด้วยขวาก่อนที่จะหาจังหวะซัดด้วยเท้าซ้าย ทว่าบอลยังไม่เข้ากรอบ
ออกหลังไปไกล
 
ต่อมา น. 50 บุรีรัมย์ พีอีเอ ก็มีโอกาสลุ้นประตูเพิ่มอีกครั้งจากจังหวะที่ เเฟรงค์ อาเซียมปง ได้หลุดเข้าไปล็อกหลบ โคชิ จุน ก่อนที่จะหาโอกาสยิงเเต่ก็โดนกองหลัง อาร์มี่ ยูไนเต็ด มาสกัดทิ้งไปได้เสียก่อน บุรีรัมย์ พีอีเอ พลาด
 โอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย
 
จากนั้น น.61 บุรีรัมย์ พีอีเอ ได้ลูกเตะมุม รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค เปิดบอลไปกลางประตูให้กับ เเฟรงค์ อาเซียมปง วิ่งเข้ามาโหม่งจ่อๆ เเต่บอลบอลไม่เปลี่ยนทางตรงตัว โคชิจุน นายทวารอาร์มี่ ยูไนเต็ด รับไว้ได้อย่างสบายๆ
อาร์มี่ ยูไนเต็ด ทำเกมโต้กลับเร็วทันที เเต่ก็ยังไม่ผ่านเเนวรับของบุรีรัมย์ พีอีเอ
 
ถัดมา อาร์มี่ ยูไนเต็ด ที่ทำเกมบุกขึ้นมาเกือบได้ประตูตีไข่เเตก น.75  เมื่อ จักรพงษ์ สมบูรณ์ ทำเกมขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนที่จะตัดสินใจเปิดบอลเข้าไปหน้ากองเขตโทษ กองหลังบุรีรัมย์ พีอีเอ สกัดไม่ขาดบอลมาเข้าทาง ไกรสรณ์ ศรียันต์ ได้โอกาสซัดเน้นๆ ในกรอบเเต่  ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ยังยืนถูกที่ใช้ขาเชฟบอลไว้ได้ทัน
 
เกมก็ยังเป็นของทาง อาร์มี่ ยูไนเต็ด ที่เดินเครื่องบุกอย่างต่อเนื่องเเละมีโอกาสลุ้นประตูอีกครั้งใน น.81 จักรพงษ์ สมบูรณ์ กระชากบอลขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวาอีกครั้งก่อนที่จะบรรจงเปิดบอลโค้งไปให้ กับ ไกรสรณ์ ศรียันต์ ได้ขึ้นโหม่งสบัดบอลเปลี่ยนทางเเต่ทว่าบอลก็ยังไม่เข้ากรอบเฉียดเสาสองออก หลังออกไปอย่างน่าเสียดาย
 
หลังจากนั้นแม้ อาร์มี่ ยูไนเต็ด จะพยายามเปิดเกมแลกแบบหมดหน้าตัก แต่ก้ไม่สามารถทำอะไรแผงหลัง บุรีรัมย์ พีอีเอ ได้เลย ทำให้เมื่อจบการแข่งขันเป็น ปราสาทสายฟ้า เอาชนะ สุภาพบุรุษวงจักร ไปได้อย่างเด็ดขาด 2 - 0 พร้อมกับเข้าไปชิงชนะเลิศในศึกไทยคมเอฟเอคัพได้สำเร็จ สานฝัน 3 แชมป์ในปีนี้ต่อไป โดยจะเข้าไปชิงชนะเลิศกับคู่ปรับอย่าง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่ดวลจุดโทษเอาชนะ สงขลา เอฟซี 6-5 ในวันพุธที่ 11 มกราคมนี้

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
บุรีรัมย์ พีอีเอ :
ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน(GK), ธีราทร บุญมาทัน, เอกวัลลา เฮอร์มัน, จักรพันธุ์ เเก้วพรม, อภิเชษฐ์ พุฒตาล(C)(อดิศักดิ์ ไกรษร น.71) ,โจเซฟ ฟลอเรนท์, ยุทธจักร์ ก้อนจันทร์(บูบา อับโบ), รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค, สุเชาว์
นุชนุ่ม (ไกรเกียรติ เบียดตะคุ น.86), แฟรงค์ โอเเฮนด์ซ่า, เเฟรงค์ อาเซียมปง

อาร์มี่ ยูไนเต็ด : โคชิ จุน(GK), ดาวุฒิ ดินเขต, อเลสซานโดร อัลเวส, ศิวะเมต ธนูศร, นิพนธ์ คำทอง, วีระพงษ์ มูลคำเเสน, จักรพงษ์ สมบูรณ์, ธาตรี สีหา(C)(ไกรสรณ์ ศรียันต์ น.64), โทนี่ เดอ ปินโญ่,  มงคล ทศไกร
(ธนากรณ์ เเดงทอง น.58), เลอันโดร ดอส ซานโตส

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook