มติครม.27-31ตค.เป็นวันหยุดรก.21จว.

นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ประกาศวันหยุดพิเศษ ในวันที่ 27 - 31 ต.ค.นี้ ในพื้นที่ประสบอุทกภัย 21 จังหวัด เช่น จ.นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพฯ ฯลฯ โดยยกเว้น หัวหน้าส่วนราชการตั้งแต่ระดับ 9 ขึ้นไป ซึ่งจะต้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนต่อไป ส่วนภาคเอกชนให้ผู้ประกอบการพิจารณาตามความเหมาะสม ยกเว้นประเภทธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าขาดแคลน ทั้งนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งมอบหมายความรับผิดชอบในการป้องกันดูแลพื้นที่ป้องกันต่างๆ เช่น พระบรมมหาราชวัง โรงพยาบาลศิริราช และที่ประทับของพระบรมวงศานุวงศ์ ให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดูแลสถานที่สำคัญทางราชการ ให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดูแล ส่วนพื้นที่ทางเศรษฐกิจและเส้นทางการคมนาคมต่างๆ ได้มอบหมายให้ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้ดูแล
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการด้านการเงิน ที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน โดยช่วยเหลือในด้านที่พักอาศัยและทรัพย์สินที่ประสบอุทกภัย รวมไปถึงการลดภาระหนี้แก่ลูกหนี้ของสถาบันการเงินต่างๆ และมาตรการด้านสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือประชาชน และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ซึ่ง ครม.อนุมัติเงินจำนวน 325,000 ล้านบาท สำหรับมาตรการดังกล่าวโดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ ผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดย่อม รวมถึงประชาชนทั่วไป
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังกล่าวถึง มาตรการสนับสนุนด้านสิทธิประโยชน์ การลงทุน เช่น การอำนวยความสะดวกด้านวีซ่า และใบอนุญาตการทำงานแก่ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ที่เข้ามาเพื่อฟื้นฟูโรงงาน ที่ประสบความเสียหาย และสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุนอีกด้วย
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แถลงภายหลัง การประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เสนอมาตรการในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ที่ประสบอุทกภัย โดยคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการที่เสนอ อาทิ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชะลอการชำระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค เช่น ค่าใช้ไฟฟ้า ค่าน้ำประปา จนกว่าสถานประกอบการจะสามารถดำเนินกิจการได้ตามปกติ มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ช่วยเคลื่อนย้ายเครื่องจักรอุปกรณ์และสินค้า ในพื้นที่ประสบอุทกภัยให้ปลอดภัย และเร่งระบายน้ำโดยเร็ว มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ จ่ายสินไหมทดแทน ให้แก่ผู้ประกอบการที่เอาประกันภัยไว้ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อำนวยความสะดวกในการออกวีซ่า ให้แก่ผู้เชี่ยวชาญ หรือ ช่างจากต่างประเทศที่เข้ามาซ่อมแซมเครื่องจักร มอบหมายให้กระทรวงการคลัง ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร
นอกจากนี้ ยังได้จัดวงเงินสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการ SME และผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม ที่ได้รับผลกระทบจำนวน 210,000 ล้านบาท
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการด้านการเงิน ที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน โดยช่วยเหลือในด้านที่พักอาศัยและทรัพย์สินที่ประสบอุทกภัย รวมไปถึงการลดภาระหนี้แก่ลูกหนี้ของสถาบันการเงินต่างๆ และมาตรการด้านสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือประชาชน และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ซึ่ง ครม.อนุมัติเงินจำนวน 325,000 ล้านบาท สำหรับมาตรการดังกล่าวโดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ ผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดย่อม รวมถึงประชาชนทั่วไป
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังกล่าวถึง มาตรการสนับสนุนด้านสิทธิประโยชน์ การลงทุน เช่น การอำนวยความสะดวกด้านวีซ่า และใบอนุญาตการทำงานแก่ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ที่เข้ามาเพื่อฟื้นฟูโรงงาน ที่ประสบความเสียหาย และสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุนอีกด้วย
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แถลงภายหลัง การประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เสนอมาตรการในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ที่ประสบอุทกภัย โดยคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการที่เสนอ อาทิ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชะลอการชำระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค เช่น ค่าใช้ไฟฟ้า ค่าน้ำประปา จนกว่าสถานประกอบการจะสามารถดำเนินกิจการได้ตามปกติ มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ช่วยเคลื่อนย้ายเครื่องจักรอุปกรณ์และสินค้า ในพื้นที่ประสบอุทกภัยให้ปลอดภัย และเร่งระบายน้ำโดยเร็ว มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ จ่ายสินไหมทดแทน ให้แก่ผู้ประกอบการที่เอาประกันภัยไว้ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อำนวยความสะดวกในการออกวีซ่า ให้แก่ผู้เชี่ยวชาญ หรือ ช่างจากต่างประเทศที่เข้ามาซ่อมแซมเครื่องจักร มอบหมายให้กระทรวงการคลัง ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร
นอกจากนี้ ยังได้จัดวงเงินสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการ SME และผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม ที่ได้รับผลกระทบจำนวน 210,000 ล้านบาท