นายกฯลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมหลัก6

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั้นได้ลงพื้นที่เทศบาลตำบลหลัก 6 จ.ปทุมธานี เพื่อตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำซึ่งบริเวณคลองนั้นก็ยังมีน้ำอยู่ในระดับที่สูงและก็เข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่ริมคลองทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งนี้ก่อนจะขึ้นรถของกองทัพบกเพื่อสำรวจและตรวจเยี่ยมประชาชนที่อยู่ริมคลองก็ได้มีการรับฟังรายงานสรุปสถานการณ์จากนายธีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ซึ่งท่านก็บอกว่าทางจังหวัดนั้น จะเร่งซ่อมประตูระบายน้ำคลองบ้านพร้าว ที่แตกให้เสร็จภายใน 6 โมงเย็นของวันนี้

นอกจากนี้ ทาง จ.ปทุมธานี กับกองทัพบก และก็กรุงเทพฯ ก็จะเร่งเครื่องความสูงของแนวคันกั้นน้ำในคลองรังสิต ตลอดทั้งเส้นให้สูงขึ้นขึ้นอีก 30 ซ.ม. ซึ่งมาตรการนี้ก็จะทำให้น้ำในคลองรังสิตนั้น ไม่เอ่อล้นเข้าท่วมในคลองเปรมประกร ที่อยู่ด้านตะวันออกและคลองประปา ที่อยู่ด้านตะวันตก ของเมืองเอก เพราะว่าถ้าหากน้ำเข้าท่วมได้แล้ว ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อพื้นที่กรุงเทพฯ ด้วย

นอกจากนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ก็จะต้องหามาตรการเพื่อเจรจากับชาวบ้านเพื่อขอปิดประตูระบายน้ำคลอง 1 เพื่อเป็นการลดปริมาณน้ำ ที่จะระบายมายังคลองรังสิตด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจากรับฟังรายงานจากประชาชนและผู้ว่าราชการ จังหวัดปทุมธานี นายกรัฐมนตรีนั้น ก็ได้ย้ำให้ทุกภาคส่วนรักษาแนวคันกั้นน้ำรวมถึงยืนยัน จำเป็นที่จะต้องเลือกระบายน้ำในพื้นที่ ซึ่งจะต้องเลือกเป็นบางพื้นที่ เพื่อไม่ได้เข้าท่วมเขตเศรษฐกิจใน จ.ปทุมธานี และ กรุงเทพฯ จึงขอให้ประชาชนนั้น ได้เข้าใจในการระบายน้ำด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการเดินทางสำรวจพื้นที่ จ.ปทุมธานี บริเวณชุมชนริมคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ต.หลักหก ว่า ขอให้ประชาชนชาวกรุงเทพฯ นั้น มั่นใจ ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมและสามารถรับมือน้ำได้ ขอให้สบายใจและคลายกังวล เพราะถือว่าพื้นที่กรุงเทพฯนั้น เป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของประเทศ จึงไม้ต้องการให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้

ทั้งนี้ ทางรัฐบาลได้มีการบูรณาการหน่วยงานทุกพื้นที่ เพื่อดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างเต็มที่ ขณะที่ระดับน้ำในปัจจุบันนั้นยังทรงตัว และถ้าขุดคลองระบายน้ำได้สำเร็จ ก็สามารถที่จะระบายน้ำออกได้มากกว่านี้

ส่วนบรรยากาศก่อนหน้านี้ ที่นายกรัฐมนตรี พร้อม ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชาย ได้ช่วยกับบรรจุสิ่งของลงถุงยังชีพและได้นำสิ่งของลำเรียงขึ้นรถของกองทัพบก ก่อนที่จะนำไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัย