ปิดถนนสายเอเชีย รถไฟอีสานเปลี่ยนเส้นทาง

7 ต.ค. - ระดับน้ำบนถนนสายเอเซียซึ่งเป็นถนนสายหลักไปยังภาคเหนือ น้ำสูงถึง 70 ซม. ระยะทางเกือบ 20 กม. ทำให้ตำรวจทางหลวงสั่งปิดการจราจราทั้งขาขึ้น-ล่อง
ถนนสายเอเซียทั้งขาขึ้นและขาล่อง มีน้ำท่วมสูง 30-70 ซม. ทำให้ตำรวจทางหลวงต้องปิดการจราจรช่วง จ.พระนครศรีอยุธยา หลักกิโลเมตรที่ 21-39 เพราะน้ำท่วมถนนระยะทางเกือบ 20 กม. พร้อมแนะนำเส้นทางไปภาคเหนือ โดยขาออกจากกรุงเทพฯ ให้ใช้เส้นทางต่างระดับบางปะอิน ออกวงแหวนตะวันตกเพื่อไปกับถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ส่วนขาเข้ากรุงเทพฯ ให้ใช้เส้นทางถนนเลี่ยงเมือง ตั้งแต่ จ.อ่างทอง ไปยัง อ.วิเศษชัยชาญ และถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี
ด้านกองบังคับการตำรวจทางหลวงได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า บริการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยตั้งอยู่ที่ช่วงกิโลเมตรที่ 17-18 ของถนนสายเอเซีย ตรงข้ามศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประชาชนสามารถแจ้งสภาพการจราจรบนถนนหลวงได้ที่หมายเลข 1193 และ 0-2354-6007 โดยทุกๆ 2 ชั่วโมง จะมีสายตรวจออกไปวัดระดับน้ำบนถนนที่ถูกน้ำท่วม
ขณะที่ด้าน นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า วันนี้ (7 ต.ค.) ระดับน้ำได้ท่วมสูงขึ้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะกม. 73/15-16 มีน้ำท่วมเหนือสันรางประมาณ 48 -59 เซนติเมตร
ส่วนช่วงสถานีลพบุรี-ท่าแค ที่ กม.135/5-9 ระดับน้ำทรงตัวอยู่ที่ 66 เซนติเมตร และที่ กม.249- กม.268 เขตจังหวัดนครสวรรค์ ช่วงนครสวรรค์-ปากน้ำโพ-บึงบอระเพ็ด-ทับกฤช-คลองปลากด มีน้ำท่วมประมาณ 8 จุด มีระดับน้ำเพิ่มอยู่ที่ประมาณ 27-31 เซนติเมตร ขณะที่ทางรถไฟสายลำนารายณ์-บัวใหญ่ ช่วงสถานีหินซ้อน-แก่งเสือเต้นระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเป็น 80 เซนติเมตร ทำให้ไม่สามารถให้ขบวนรถไฟผ่านได้สายเหนือและสายลำนารายณ์
ทั้งนี้ การเดินรถวันนี้ (7 ต.ค.) รฟท.ได้ประกาศงดเดินรถในเส้นทางสายเหนือ 18 ขบวน จึงทำให้ไม่มีขบวนรถวิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ส่วนขบวนรถสายตะวันออกเฉียงเหนือ ได้เปลี่ยนเส้นทางให้ไปเดินช่วงกรุงเทพฯ-มักกะสัน-ฉะเชิงเทรา เพื่อไปยังชุมทางแก่งคอยและไปยังปลายทางหนองคาย และอุบลราชธานี ต่อไป นอกจากนี้ ทางรถไฟในเส้นทางสายตะวันออกที่เคยมีน้ำท่วมทางรถไฟช่วงบ้านสร้าง-ปากพลี วานนี้ (6 ต.ค.) ระดับน้ำลดลงแล้ว จึงยังมีขบวนรถเดินตามปกติ
อย่างไรก็ตาม เส้นทางชานเมืองช่วงกรุงเทพฯ-อยุธยา รฟท.ยังให้มีการเดินขบวนรถไฟชานเมือง เพื่อให้บริการตลอดทั้งวันจำนวน 18 ขบวน เริ่มตั้งแต่เวลา 05.30 น. จนถึงเที่ยวสุดท้ายเวลา 20.10 น. เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน - สำนักข่าวไทย