ผู้ว่าฯกทม.ตรวจน้ำท่วมย่านหลักสี่

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และ นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจจุดเสี่ยงน้ำท่วม ย่านหลักสี่-ดอนเมือง โดยเริ่มจากการไปตรวจสอบประตูระบายน้ำ คลองบางตลาด ซึ่งอยู่ด้านหลังศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ และบริเวณสถานีระบายน้ำคลองบางเขน โดย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจจุดเสี่ยงน้ำท่วมในครั้งนี้ เนื่องจาก เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา มีปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดนำท่วมขังในหลายพื้นที่ และจากการตรวจสอบจุดที่น่าเป็นห่วง คือ คลองบางเขน เพราะเชื่อมต่อกับคลองอื่นอีกหลายจุด อาทิ คลองบางบัว ซึ่งปัญหาที่พบบริเวณคลองบางเขนแห่งนี้ เนื่องจาก ปกติมีเครื่องสูบน้ำอยู่จำนวน 2 เครื่อง แต่เครื่องสูบน้ำ เสียไป 1 เครื่อง ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ส่งผลให้ เกิดน้ำท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร และทำให้การจราจรบริเวณ ถนนพหลโยธิน รวมถึง ถนนวิภาวดีรังสิต ติดขัดเป็นอย่างมาก รวมถึง รถยนต์ของประชาชนได้รับความเสียหายด้วย ทั้งนี้ มั่นใจว่า ในคืนนี้ จะสามารถระบายน้ำที่ท่วมขัง ได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวยืนยันถึงความ มั่นใจในมาตรการรับมือน้ำท่วม ของ กทม. ว่ามีประสิทธิภาพ และจะไม่เกิดผลกระทบกับกรุงเทพมหานคร อย่างแน่นอน
น้ำท่วม ถ.วิภาวดีจราจรติดขัด-รถเสียเพียบ
ความคืบหน้า เหตุน้ำท่วมขัง บริเวณถนนวิภาวดี-รังสิต ฝั่งขาเข้า จากแยกหลักสี่ มุ่งหน้า ผ่านโรงพิมพ์เดลินิวส์ ต่อเนื่อง โรงงานยาคูลย์ ล่าสุด ระดับน้ำ ยังอยู่ในระดับสูงร่วม 60 เซนติเมตร ส่งผลให้ การจราจรติดขัด ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ยังไม่คลี่คลาย บางคนใช้เวลาผ่านจุดน้ำท่วมเกือบ 7 ชั่วโมง ประกอบกับ มีรถจอดเสียอีก ร่วม 100 คัน ตลอดแนวถนนวิภาวดี - รังสิต
สำหรับ สาเหตุหลักที่น้ำยังคงท่วมขังในจุดดังกล่าว เนื่องจาก ปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องตลอดทั้งคืน ประกอบกับเครื่องสูบน้ำที่ สถานีสูบน้ำคลองบางเขน เสีย 2 เครื่อง ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ล่าสุด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการให้นำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้ง เพื่อเร่งสูบน้ำแล้ว เจ้าหน้าที่ แนะให้ผู้ใช้รถใช้ถนนหลีกเลี่ยงเส้นทาง เข้าซอยวิภาวดี 60 เพื่อเข้าสู่ ถ.พหลโยธิน หรือ ให้ใช้ทางยกระดับ โทลล์เวย์ จะสะดวกกว่า
กทม. เสริมเครื่องสูบน้ำ 4 ตัว
ความคืบหน้า เหตุน้ำท่วมขัง บริเวณถนนวิภาวดี-รังสิต ฝั่งขาเข้า จากแยกหลักสี่ มุ่งหน้า ผ่านโรงพิมพ์เดลินิวส์ ต่อเนื่อง โรงงานยาคูลย์ โดยน้ำได้ท่วมขังถนน ตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้า ส่งผลให้การจราจรติดขัด ตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ ทั้งนี้ นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร ได้เสริมเครื่องสูบน้ำ 4 ตัว เร่งระบายน้ำคลองบางเขน ที่ท่วมถนนวิภาวดี ช่วงหน้าโรงงานยาคูลท์ และระดับน้ำเริ่มลดลง แต่จราจรยังติดขัด เจ้าหน้าที่แนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางเข้าซอยวิภาวดี 60 เพื่อเข้าสู่ ถ.พหลโยธิน หรือ ให้ใช้ทางยกระดับโทลล์เวย์ จะสะดวกกว่า
อ.นครหลวง น้ำท่วมหนักสุดเป็นประวัติการณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วิกฤติหนัก ล่าสุด น้ำทะลักเข้าท่วมในหลายพื้นที่และขยายวงกว้าง ส่งผลให้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบแล้ว 14 อำเภอ จากทั้งหมด 16 อำเภอ ระดับน้ำยังคงเพิ่มจากเมื่อวานนี้ 30 ซ.ม. และยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน น้ำทะลักเข้าท่วมปราสาทนครหลวง อ.นครหลวง สูงกว่า 2 เมตร ทำให้ตัวปราสาทชำรุดเสียหาย ถือได้ว่า วิกฤติน้ำท่วมครั้งนี้ หนักกว่าน้ำท่วมใหญ่ ปี 2538 และนับได้ว่า หนักที่สุดเป็นประวัติการณ์ของพื้นที่ อ.นครหลวง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ยังไม่สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย ใน อ.นครหลวง ได้ เนื่องจาก ระดับน้ำสูงและไหลเชี่ยว เช่นเดียวกับชาวบ้าน ก็ไม่สามารถเดินทางมารับสิ่งของช่วยเหลือได้
ฝนถล่มปทุมฯน้ำทะลักท่วมเร่งเสริมแนวกั้น
นายธวัชชัย อึ้งอัมพรวิไล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางกระดี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านและนายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล ส.ส.ปทุมธานี เขต 2 และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ขับรถตรวจสภาพน้ำ ริมถนนปทุมธานีสายใน ทั้งอำเภอสามโคก และอำเภอเมือง ซึ่งมีถนนสายริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตลอดสองฝั่งแม่น้ำ ได้ตรวจพบว่า ที่ หมู่ที่ 5 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งมีถนนสายในบางกระดี เขตติดต่อกัน น้ำได้เอ่อล้นข้ามแนวกระสอบทรายไหลเข้าพื้นที่ตำบลบางกระดี ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรม ทำให้ต้องนำเจ้าหน้าที่ พร้อมกระสอบทรายไปทำการเสริมแนวกระสอบทรายให้สูงขึ้นถึงสี่ลูก เพื่อให้พ้นน้ำในคืนนี้ไปก่อน และในช่วงเช้าค่อยมาเสริมแนวเพิ่มเติม
โดย นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางกระ ได้กล่าวว่า พื้นที่น้ำเข้ามาเป็นเขตของตำบลบ้านใหม่ ซึ่งขณะนี้ตัวนายกฯ หมดวาระลง มีแต่ปลัดรักษาการ แต่ไม่ได้มาตรวจตรงจุดน้ำทะลักเข้ามา ทางเทศบาลบางกระดี จึงมาเสริมแนวกั้นน้ำให้และหากไม่มีผู้ดูแลแนวกั้นน้ำในเขตตำบลบ้านใหม่ น้ำอาจจะเข้าท่วมในเขตอุตสาหกรรมบางกระดี สนามกอล์ฟ 2 แห่ง โรงแรม จะเสียหายมากกว่าที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้เตรียมการป้องกันไว้ก่อน
เขื่อนภูมิพลยังแข็งแรงรองรับน้ำได้อีก216ล.ลบ.ม.
นายศิริชัย แสงสุวรรณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล ปฏิบัติการทำการแทนผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล เปิดเผย สำนักข่าว INN ผ่านรายการ "เปิดข่าวเด็น เจาะประเด็นดัง" FM.102.72 MHz เกี่ยวกับความคืบหน้าการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล ว่า ขณะนี้เขื่อนภูมิพล ยังระบายน้ำออกอยู่ที่ 100 ล้าน ลบ.ม. หรือ ประมาณ 1,200 ลบ.ม./วินาที ซึ่งในขณะนี้ปริมาณน้ำลดลงเล็กน้อย โดยคาดว่า จะระบายน้ำในระดับนี้ต่อไปอีกประมาณ 2 วัน ก็จะสามารถควบคุมได้ง่ายขึ้น ส่วนจังหวัดท้ายเขื่อน ที่จะได้รับผลกระทบ อย่างชัดเจน คือ จังหวัดตาก เพราะจะมีน้ำจากลำน้ำวัง ซึ่งไม่มีที่ควบคุมมาสบทบ ส่งผลให้ จังหวัดตาก อาจมีน้ำจะล้นตลิ่ง และขอให้ประชาชนในจังหวัดท้ายเขื่อน ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมเก็บของขึ้นที่สูง ป้องกันความเสียหาย
นอกจากนี้ ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับสถิติความจุของน้ำสูงสุดของเขื่อนอยู่ที่ 13,462 ล้าน ลบ.ม. และยังมีพื้นที่เหลือรองรับน้ำ 216 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งระดับน้ำยังไม่ถือว่ามากที่สุด เนื่องจากก่อนหน้านี้ เคยมีระดับที่สูงกว่า พร้อมกันนี้ ยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบความมั่นคงของเขื่อน และประสานเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ โดยพบว่าเขื่อนยังแข็งแรงดี
อย่างไรก็ตาม นายศิริชัย ยังระบุว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ระบายน้ำออกจากเขื่อน เพื่อเตรียมรองรับน้ำนั้น เป็นเพราะก่อนหน้านี้ ได้เกิดฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้างและพื้นที่บริเวณโดยรอบ มีความชุ่มน้ำ อีกทั้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องมีการประเมินวันต่อวันและไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า
ถนนสายเอเชีย-บางปะหันจราจรติดยาว10ก.ม.
พ.ต.อ.ดิเรก ปลั่งดี ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้ ถนนสายเอเชีย ช่วงอำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นอัมพาตยาวกว่า 10 กิโลเมตร เนื่องจาก การจราจรขาออก สามารถใช้การได้เพียง 1 ช่องจราจรเท่านั้น อีกทั้ง ยังมีปริมาณรถสะสม ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ส่วนกลับกัน ขาเข้ากรุงเทพฯ ยังใช้การไม่ได้ ทั้งรถเล็กและรถใหญ่ เนื่องจาก ถนนมีน้ำท่วมขังสูง จึงจำเป็นต้องปิดการจราจร เพื่อไม่ให้รถไปสะสมเพิ่ม ทั้งนี้ ฝากประชาสัมพันธ์ ไปยังประชาชนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว โดยประชาชนที่จะเดินทางเข้ามายังกรุงเทพฯ ให้ใช้เส้นทาง ถนนเลี่ยงเมือง ตั้งแต่จังหวัดอ่างทอง ต่อไปยัง อำเภอวิเศษชัยชาญ และถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ส่วนประชาชนที่จะเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปทางภาคเหนือ ให้ใช้เส้นทาง ต่างระดับบางปะอิน ออกวงแหวนตะวันตก เพื่อบรรจบกับ ถนนตลิ่นชัน-สุพรรณบุรี
พร้อมกันนี้ พ.ต.อ.ดิเรก ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ลงพื้นที่เพื่อควบคุม และจัดการจราจร รวมไปถึง แนะนำเส้นทางเลี่ยงให้แก่ประชาชนแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวยืนยันถึงความ มั่นใจในมาตรการรับมือน้ำท่วม ของ กทม. ว่ามีประสิทธิภาพ และจะไม่เกิดผลกระทบกับกรุงเทพมหานคร อย่างแน่นอน
น้ำท่วม ถ.วิภาวดีจราจรติดขัด-รถเสียเพียบ
ความคืบหน้า เหตุน้ำท่วมขัง บริเวณถนนวิภาวดี-รังสิต ฝั่งขาเข้า จากแยกหลักสี่ มุ่งหน้า ผ่านโรงพิมพ์เดลินิวส์ ต่อเนื่อง โรงงานยาคูลย์ ล่าสุด ระดับน้ำ ยังอยู่ในระดับสูงร่วม 60 เซนติเมตร ส่งผลให้ การจราจรติดขัด ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ยังไม่คลี่คลาย บางคนใช้เวลาผ่านจุดน้ำท่วมเกือบ 7 ชั่วโมง ประกอบกับ มีรถจอดเสียอีก ร่วม 100 คัน ตลอดแนวถนนวิภาวดี - รังสิต
สำหรับ สาเหตุหลักที่น้ำยังคงท่วมขังในจุดดังกล่าว เนื่องจาก ปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องตลอดทั้งคืน ประกอบกับเครื่องสูบน้ำที่ สถานีสูบน้ำคลองบางเขน เสีย 2 เครื่อง ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ล่าสุด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการให้นำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้ง เพื่อเร่งสูบน้ำแล้ว เจ้าหน้าที่ แนะให้ผู้ใช้รถใช้ถนนหลีกเลี่ยงเส้นทาง เข้าซอยวิภาวดี 60 เพื่อเข้าสู่ ถ.พหลโยธิน หรือ ให้ใช้ทางยกระดับ โทลล์เวย์ จะสะดวกกว่า
กทม. เสริมเครื่องสูบน้ำ 4 ตัว
ความคืบหน้า เหตุน้ำท่วมขัง บริเวณถนนวิภาวดี-รังสิต ฝั่งขาเข้า จากแยกหลักสี่ มุ่งหน้า ผ่านโรงพิมพ์เดลินิวส์ ต่อเนื่อง โรงงานยาคูลย์ โดยน้ำได้ท่วมขังถนน ตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้า ส่งผลให้การจราจรติดขัด ตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ ทั้งนี้ นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร ได้เสริมเครื่องสูบน้ำ 4 ตัว เร่งระบายน้ำคลองบางเขน ที่ท่วมถนนวิภาวดี ช่วงหน้าโรงงานยาคูลท์ และระดับน้ำเริ่มลดลง แต่จราจรยังติดขัด เจ้าหน้าที่แนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางเข้าซอยวิภาวดี 60 เพื่อเข้าสู่ ถ.พหลโยธิน หรือ ให้ใช้ทางยกระดับโทลล์เวย์ จะสะดวกกว่า
อ.นครหลวง น้ำท่วมหนักสุดเป็นประวัติการณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วิกฤติหนัก ล่าสุด น้ำทะลักเข้าท่วมในหลายพื้นที่และขยายวงกว้าง ส่งผลให้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบแล้ว 14 อำเภอ จากทั้งหมด 16 อำเภอ ระดับน้ำยังคงเพิ่มจากเมื่อวานนี้ 30 ซ.ม. และยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน น้ำทะลักเข้าท่วมปราสาทนครหลวง อ.นครหลวง สูงกว่า 2 เมตร ทำให้ตัวปราสาทชำรุดเสียหาย ถือได้ว่า วิกฤติน้ำท่วมครั้งนี้ หนักกว่าน้ำท่วมใหญ่ ปี 2538 และนับได้ว่า หนักที่สุดเป็นประวัติการณ์ของพื้นที่ อ.นครหลวง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ยังไม่สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย ใน อ.นครหลวง ได้ เนื่องจาก ระดับน้ำสูงและไหลเชี่ยว เช่นเดียวกับชาวบ้าน ก็ไม่สามารถเดินทางมารับสิ่งของช่วยเหลือได้
ฝนถล่มปทุมฯน้ำทะลักท่วมเร่งเสริมแนวกั้น
นายธวัชชัย อึ้งอัมพรวิไล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางกระดี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านและนายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล ส.ส.ปทุมธานี เขต 2 และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ขับรถตรวจสภาพน้ำ ริมถนนปทุมธานีสายใน ทั้งอำเภอสามโคก และอำเภอเมือง ซึ่งมีถนนสายริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตลอดสองฝั่งแม่น้ำ ได้ตรวจพบว่า ที่ หมู่ที่ 5 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งมีถนนสายในบางกระดี เขตติดต่อกัน น้ำได้เอ่อล้นข้ามแนวกระสอบทรายไหลเข้าพื้นที่ตำบลบางกระดี ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรม ทำให้ต้องนำเจ้าหน้าที่ พร้อมกระสอบทรายไปทำการเสริมแนวกระสอบทรายให้สูงขึ้นถึงสี่ลูก เพื่อให้พ้นน้ำในคืนนี้ไปก่อน และในช่วงเช้าค่อยมาเสริมแนวเพิ่มเติม
โดย นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางกระ ได้กล่าวว่า พื้นที่น้ำเข้ามาเป็นเขตของตำบลบ้านใหม่ ซึ่งขณะนี้ตัวนายกฯ หมดวาระลง มีแต่ปลัดรักษาการ แต่ไม่ได้มาตรวจตรงจุดน้ำทะลักเข้ามา ทางเทศบาลบางกระดี จึงมาเสริมแนวกั้นน้ำให้และหากไม่มีผู้ดูแลแนวกั้นน้ำในเขตตำบลบ้านใหม่ น้ำอาจจะเข้าท่วมในเขตอุตสาหกรรมบางกระดี สนามกอล์ฟ 2 แห่ง โรงแรม จะเสียหายมากกว่าที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้เตรียมการป้องกันไว้ก่อน
เขื่อนภูมิพลยังแข็งแรงรองรับน้ำได้อีก216ล.ลบ.ม.
นายศิริชัย แสงสุวรรณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล ปฏิบัติการทำการแทนผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล เปิดเผย สำนักข่าว INN ผ่านรายการ "เปิดข่าวเด็น เจาะประเด็นดัง" FM.102.72 MHz เกี่ยวกับความคืบหน้าการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล ว่า ขณะนี้เขื่อนภูมิพล ยังระบายน้ำออกอยู่ที่ 100 ล้าน ลบ.ม. หรือ ประมาณ 1,200 ลบ.ม./วินาที ซึ่งในขณะนี้ปริมาณน้ำลดลงเล็กน้อย โดยคาดว่า จะระบายน้ำในระดับนี้ต่อไปอีกประมาณ 2 วัน ก็จะสามารถควบคุมได้ง่ายขึ้น ส่วนจังหวัดท้ายเขื่อน ที่จะได้รับผลกระทบ อย่างชัดเจน คือ จังหวัดตาก เพราะจะมีน้ำจากลำน้ำวัง ซึ่งไม่มีที่ควบคุมมาสบทบ ส่งผลให้ จังหวัดตาก อาจมีน้ำจะล้นตลิ่ง และขอให้ประชาชนในจังหวัดท้ายเขื่อน ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมเก็บของขึ้นที่สูง ป้องกันความเสียหาย
นอกจากนี้ ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับสถิติความจุของน้ำสูงสุดของเขื่อนอยู่ที่ 13,462 ล้าน ลบ.ม. และยังมีพื้นที่เหลือรองรับน้ำ 216 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งระดับน้ำยังไม่ถือว่ามากที่สุด เนื่องจากก่อนหน้านี้ เคยมีระดับที่สูงกว่า พร้อมกันนี้ ยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบความมั่นคงของเขื่อน และประสานเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ โดยพบว่าเขื่อนยังแข็งแรงดี
อย่างไรก็ตาม นายศิริชัย ยังระบุว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ระบายน้ำออกจากเขื่อน เพื่อเตรียมรองรับน้ำนั้น เป็นเพราะก่อนหน้านี้ ได้เกิดฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้างและพื้นที่บริเวณโดยรอบ มีความชุ่มน้ำ อีกทั้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องมีการประเมินวันต่อวันและไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า
ถนนสายเอเชีย-บางปะหันจราจรติดยาว10ก.ม.
พ.ต.อ.ดิเรก ปลั่งดี ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้ ถนนสายเอเชีย ช่วงอำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นอัมพาตยาวกว่า 10 กิโลเมตร เนื่องจาก การจราจรขาออก สามารถใช้การได้เพียง 1 ช่องจราจรเท่านั้น อีกทั้ง ยังมีปริมาณรถสะสม ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ส่วนกลับกัน ขาเข้ากรุงเทพฯ ยังใช้การไม่ได้ ทั้งรถเล็กและรถใหญ่ เนื่องจาก ถนนมีน้ำท่วมขังสูง จึงจำเป็นต้องปิดการจราจร เพื่อไม่ให้รถไปสะสมเพิ่ม ทั้งนี้ ฝากประชาสัมพันธ์ ไปยังประชาชนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว โดยประชาชนที่จะเดินทางเข้ามายังกรุงเทพฯ ให้ใช้เส้นทาง ถนนเลี่ยงเมือง ตั้งแต่จังหวัดอ่างทอง ต่อไปยัง อำเภอวิเศษชัยชาญ และถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ส่วนประชาชนที่จะเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปทางภาคเหนือ ให้ใช้เส้นทาง ต่างระดับบางปะอิน ออกวงแหวนตะวันตก เพื่อบรรจบกับ ถนนตลิ่นชัน-สุพรรณบุรี
พร้อมกันนี้ พ.ต.อ.ดิเรก ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ลงพื้นที่เพื่อควบคุม และจัดการจราจร รวมไปถึง แนะนำเส้นทางเลี่ยงให้แก่ประชาชนแล้ว