เร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนเขื่อนสิริกิติ์

นายธนรัชต์ ภูมมะกสิกร ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า แม้พายุนกเตนจะพัดผ่านประเทศไทยไปแล้ว แต่เขื่อนสิริกิติ์ได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และได้ตรวจสอบปริมาณน้ำท้ายน้ำ ตามคลองสาขาต่างๆ โดยเฉพาะแม่น้ำปาด อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งรับน้ำจาก อ.ฟากท่า อ.น้ำปาด และไหลมารวมกับแม่น้ำน่านที่ด้านท้ายเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำมากถึง 480 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเทียบเท่ากับเดินเครื่องผลิตไฟฟ้า 3 เครื่อง จึงทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำน่านเพิ่มสูง ทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำน่านได้รับผลกระทบ ทางเขื่อนสิริกิติ์ จึงได้ประสานงานกรมชลประทาน ขอลดการระบายน้ำเหลือ 0 ล้านลูกบาศก์เมตร
ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ กล่าวอีกว่า เขื่อนสิริกิติ์ จะทำการควบคุมปริมาณน้ำท้ายน้ำอย่างใกล้ชิด เมื่อปริมาณน้ำของลำน้ำสาขาลดลงแล้ว ซึ่งคาดว่าใช้เวลาประมาณ 2 วัน น่าจะอยู่ช่วงปกติ ทางเขื่อนสิริกิติ์ จะได้
ประสานกับชลประทาน เพื่อปรับแผนระบายน้ำต่อไป สำหรับสถานการณ์น้ำ ระดับน้ำอยู่ที่ 154.62 เมตร (รทก.) ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ 7,664.66 ล้าน ลบ.ม. หรือ 80.91 % จากความจุ 9,510 ล้าน ลบ.ม. และ สามารถรับน้ำได้
อีก 1,815 ล้าน ลบ.ม. หรือ 19.14 % หากวัดเป็นเมตรยังรับได้อีก 7.38 เมตร
ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ กล่าวอีกว่า เขื่อนสิริกิติ์ จะทำการควบคุมปริมาณน้ำท้ายน้ำอย่างใกล้ชิด เมื่อปริมาณน้ำของลำน้ำสาขาลดลงแล้ว ซึ่งคาดว่าใช้เวลาประมาณ 2 วัน น่าจะอยู่ช่วงปกติ ทางเขื่อนสิริกิติ์ จะได้
ประสานกับชลประทาน เพื่อปรับแผนระบายน้ำต่อไป สำหรับสถานการณ์น้ำ ระดับน้ำอยู่ที่ 154.62 เมตร (รทก.) ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ 7,664.66 ล้าน ลบ.ม. หรือ 80.91 % จากความจุ 9,510 ล้าน ลบ.ม. และ สามารถรับน้ำได้
อีก 1,815 ล้าน ลบ.ม. หรือ 19.14 % หากวัดเป็นเมตรยังรับได้อีก 7.38 เมตร