แม่นักบินช็อก! ลูกเสียชีวิต ภูมิใจลูกทำเพื่อชาติ

แม่นักบินช็อก! ลูกเสียชีวิต ภูมิใจลูกทำเพื่อชาติ

แม่นักบินช็อก! ลูกเสียชีวิต ภูมิใจลูกทำเพื่อชาติ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

23 ก.ค. - ครอบครัว "ผู้พันหมึก" นักบินที่ 1 แบล็กฮอว์ก ร่ำไห้เมื่อรู้ข่าวแน่ชัดเสียชีวิตทั้งลำ โดยเฉพาะแม่วัย 79 ปี เกิดอาการช็อก หลังทำใจคว้ารูปลูกชายถ่ายคู่กันไว้แน่น เผยภูมิใจลูกทำเพื่อชาติ เตรียมไปแก่งกระจานพรุ่งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานจากบ้านเลขที่ 41/2 หมู่ 4 บ้านเหล่า-โนนค่า ต.สูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านของ นางเขี่ยม เจียมสูงเนิน มารดา พ.ต.ประพันธ์ เจียมสูงเนิน นักบินที่ 1 ประจำเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก ว่า บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก มีเพื่อนบ้านทยอยมาร่วมแสดงความเสียใจและให้กำลังใจกับครอบครัวเจียมสูงเนิน หลังทราบข่าวชัดเจนเมื่อบ่ายวานนี้ (22 ก.ค.) ว่าผู้ที่เดินทางไปกับเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กเสียชีวิตทั้ง 9 ราย โดย พ.ต.ประพันธ์ เป็น 1 ในผู้เสียชีวิตครั้งนี้ ทำให้นางเขี่ยม ทำใจไม่ได้และช็อกหมดสติอยู่นับชั่วโมง ญาติพี่น้องและลูกหลานพากันปลอบโยนให้กำลังใจจนดีขึ้นบ้าง สามารถพูดคุยได้ พร้อมถือภาพลูกชายที่ถ่ายร่วมกันไว้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นภาพสุดท้ายในครั้งที่ พ.ต.ประพันธ์ กลับมาเยี่ยมบ้านเกิดและครอบครัวไปเที่ยวบ้านตอไม้

นางเขี่ยม กล่าวว่า เสียใจอย่างมากกับการจากไปของลูก และเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของครอบครัว แต่ยังมีความภาคภูมิใจในตัวลูกเช่นกัน เพราะทำหน้าที่ได้สมศักดิ์ศรี มีความรักในอาชีพทหารมากและครอบครัว ตลอดเวลาได้เพียงภาวนาขอให้ลูกปลอดภัย แต่สุดท้ายมาทราบข่าวว่าลูกจากไปแล้วรู้สึกใจหายมาก ขอให้ลูกไปดี ลูกได้ทำเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินแล้ว และขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่คอยเอาใจช่วย ส่วนเรื่องบำเพ็ญกุศลจะปรึกษากันในครอบครัวอีกครั้ง

ด้าน นางจุรีรัตน์ นวลทอง อายุ 51 ปี ครูโรงเรียนเอกชน พี่สาวคนที่ 2 กล่าวว่า น้องชายเป็นที่รักของทุกคน และเป็นคนตั้งใจทำงานเพื่อชาติ น้องชายจะมีของสำคัญพกติดตัวตลอดคือ ชายผ้าถุงแม่ ฟันของพ่อ และเหรียญพระครูหยาดสนธิ ทุกครั้งที่ขึ้นทำการบินจะต้องนำสิ่งเหล่านี้แขวนคอไว้ตลอด นอกจากนี้ ยังมีความกตัญญูต่อบุพการี และเป็นคนเดียวในบ้านที่รับราชการ ทุกคนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ภูมิใจในตัวน้องชาย โดยวันนี้ทางครอบครัวและแม่จะเดินทางไปรับศพที่แก่งกระจานตั้งแต่ช่วงเช้า

"น้องมาจากดิน เติบโตในหน้าที่การงานด้วยฝีมือและความตั้งใจมาจากนายสิบไต่เต้ามาเป็นนักบินฝีมือดี ครั้งสุดท้ายที่น้องมาที่บ้านคือช่วงเทศกาลเข้าพรรษาที่ผ่านมา พาแม่และพี่ไปเที่ยว"

 

ขณะที่การลำเลียงศพทั้ง 9 ศพจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮ็อกตกยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยหลังจากเจ้าหน้าที่ทราบจุดตกเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮ็อกแน่ชัดแล้ว โดยได้มีการปรับแผนการอย่างเร่งด่วน เพื่อลำเลียงศพออกจากจุดเกิดเหตุให้ได้โดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการทางอากาศได้บินสำรวจและพบว่าจุดเกิดเหตุเป็นภูเขาสูงเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ มีป่าทึบ และยังมีสภาพอากาศเป็นอุปสรรค

พ.อ.นันทวัฒน์ ทัศนงาม เสนาธิการหน่วยฝึกทหารบกยุทธวิธีที่ 1 เปิดเผยว่า สภาพอากาศตามจุดเป้าหมายที่คาดว่าจะให้เฮลิคอปเตอร์จอดรับศพ โดยเฉพาะที่เนิน 1100 และเนิน 900 จากระดับน้ำทะเลนั้น ท้องฟ้ามีเมฆหนาทำให้เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบก และกองทัพอากาศไม่สามารถบินไปยังจุดนี้ได้ ดังนั้น จึงจัดสร้างเนินจอดเฮลิคอปเตอร์เพิ่มในบริเวณเนิน 860 จากระดับน้ำทะเลเพิ่มขั้นอีก 1 แห่ง หลังจากที่สำรวจพบว่า สภาพอากาศในจุดดังกล่าวอาจเอื้ออำนวยต่อการปฏิบัติภารกิจลำเลียงศพออกจากจุดเกิดเหตุได้เร็วกว่า

พ.อ.นันทวัฒน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถลำเลียงศพมาไว้ที่เนิน 1100 ได้เพียง 1 ศพ ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ทั้ง 35 นาย ที่เดินเท้าเข้าไปก็ถึงบริเวณเนิน 1100 แล้ว โดยในวันนี้ (23 ก.ค.) จะเดินทางไปช่วยลำเลียงศพที่เหลือขึ้นไปไว้ที่เนิน 1100 และคาดว่าจะสามารถดำเนินการให้เสร็จได้ก่อนเที่ยงวัน หลังจากนั้นจะเคลื่อนศพทั้งหมดไปที่เนิน 900 ด้านล่าง ส่วนเนินที่สร้างขึ้นใหม่อยู่ด้านทิศเหนือของเนิน 900 ซึ่งมีที่พื้นที่จอดกว้าง และหากในวันนี้สภาพอากาศดีก็จะนำอากาศยานลงจอดที่เนินใหม่ได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook