ฝนถล่ม กทม. น้ำเริ่มท่วมขังหลายจุด

ฝนถล่ม กทม. น้ำเริ่มท่วมขังหลายจุด

ฝนถล่ม กทม. น้ำเริ่มท่วมขังหลายจุด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายสัญญา ชีนิมิต ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร กล่าวถึง สภาพปัญหาฝนตกหนักในช่วงเช้าของวันนี้ว่า ขณะนี้ ระดับน้ำฝนวัดได้อยู่ที่ 200 มิลลิเมตร ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร แต่ยังไม่ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองแสนแสบเพิ่มมากขึ้น ส่วนการเตรียมความพร้อมรับมือปัญหาฝนตกหนักนั้น สำนักระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ได้วางแผนรับมือระบายน้ำฝน ลงคลอง หรือ สถานีสูบน้ำ รวมไปถึงในพื้นที่ ที่เกิดไฟฟ้าดับ ก็ได้มีการประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า เร่งแก้ไขปัญหาแล้ว ทั้งนี้ จึงฝากเตือนประชาชน ที่ใช้รถใช้ถนนในช่วงนี้ด้วยความระมัดระวังในเรื่องของการจราจร ซึ่งอาจเคลื่อนตัวได้ช้า

จากที่ เกิดเหตุฝนตกหนักหลายพื้นที่ ในกรุงเทพมหานคร ส่งผลให้การจราจรในหลายเส้นทาง เริ่มติดขัดอย่างหนัก เนื่องจาก เกิดน้ำท่วมขังในบริเวณพื้นผิวจราจร และท่อระบายไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ทั้งนี้ สำหรับถนนที่เกิดน้ำท่วมสูง อาทิ ถนนรามคำแหง ซ.24 และ ซ.21 ถนนนร่มเกล้า -รามอินทรา ถนนสุขุมวิท ถนนบางนาตราด ถนนหลโยธิน ถ.งามวงศ์วาน เกษตร-วิภาวดี น้ำท่วมขังช่องทางหลายจุด หน้าตลาดอมรพันธ์ , หน้า ร.พ.วิภาวดี ทำให้ท้ายแถวใกล้แยกเกษตร เป็นต้น ซึ่งทุกเส้นทางในขณะนี้ นอกจากจะเกิดน้ำท่วมสูงแล้ว ในหลายเส้นทางได้เกิดอุบัติเหตุเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ เจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร อยู่ระหว่างเร่งระบายน้ำออกจากพื้นผิวจราจร เพื่อให้การจราจรสามารถเคลื่อนตัวได้ ส่วนประชาชนที่ต้องการสอบถามเส้นทาง และต้องหลีกเลี่ยงช่องทางการจราจรในบริเวณใดสามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขด่วน กรุงเทพมหานคร 1555 หรือ สอบถามไป กองบังคับการตำรวจจราจร หรือ
บก.จร.

เหตุจาก พายุฤดูร้อน ที่พัดกระหน่ำอย่างหนัก เมื่อเวลาประมาณ 04.00น. ที่ผ่านมา ในหลายพื้นที่ ทั้งใน กทม.และปริมณฑล โดยกลุ่มฝนขนาดหนักและปานกลาง พัดกระหน่ำที่ถนสายเอเชีย บริเวณ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา มีพายุอย่างหนัก ทำให้เต็นท์ของแม่ค้าข้างทาง ร้านก๋วยเตี๋ยว ถูกพัดมากองรวมอยู่บนกลางถนน และไฟฟ้าดับเป็นระยะ นอกจากนี้ กลุ่มฝน ได้พัดเข้ามาในชานกรุงที่บริเวณ ม.รังสิต เกิดไฟฟ้าดับ น.ศ. พากันแตกตื่น


ขณะที่ สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย"พายุฤดูร้อน " ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2554

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้แล้ว ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนอบอ้าว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นและอากาศจะเย็นลง จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บที่อาจตกตกได้บางแห่ง ในช่วงวันที่ 23-25 มีนาคม 2554
สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 24-26 มีนาคม นี้ไว้ด้วย


ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้แล้ว ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนอบอ้าว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นและอากาศจะเย็นลง จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บที่อาจตกตกได้บางแห่ง ในช่วงวันที่ 23-25 มีนาคม 2554
สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 24-26 มีนาคม นี้ไว้ด้วย


พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
และมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากบริเวณด้านตะวันออกและตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศา
ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกได้ในบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดมุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี
ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา
อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย
ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองปานกลางกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองปานกลางกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook