นายกแจงสภาปัดรบ.ชุดนี้ซื้อGT200

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ของ พันตำรวจโทสมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กรณีการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพ ว่า ตนไม่ได้ปล่อยปละละเลย การตรวจสอบการจัดซื้ออาวุธของทหาร และไม่ว่าในกระทรวงใดก็ตาม ที่พบว่าอาจมีการทุจริตเกิดขึ้น ก็มีการดำเนินการตรวจสอบมาโดยตลอด อีกทั้งกระทรวงกลาโหม ไม่ได้รับสิทธิพิเศษ ตามที่มีการตั้งข้อสังเกตแต่อย่างใด

ทั้งนี้ กรณีเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 นั้น ไม่ได้เริ่มจัดซื้อในรัฐบาลนี้ แต่ได้ดำเนินการต่อเนื่องมา 4-5 ปี ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการขอให้ซื้อเพิ่มเติมหลายครั้ง จนเมื่อเกิดกระแสข่าว เรื่องประสิทธิภาพที่ไม่สามารถใช้การได้จริง จึงสั่งการให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำการทดสอบ และเมื่อพบว่า จีที 200 ใช้การไม่ได้ ก็ได้สั่งการให้ระงับการซื้อเพิ่มเติมทันที โดยยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพ พยายามประหยัดงบประมาณในส่วนของการจัดซื้อมาโดยตลอด อาทิ กรณีการปรับปรุงเครื่องบินขับไล่ F16 ที่มีแนวโน้มค่าใช้จ่ายสูงขึ้น แต่ก็ได้มีการเจรจา จนกระทั่งได้ในราคาที่ตั้งไว้ ขณะที่การจัดตั้งกองพลต่างๆ นั้น ทางกองทัพ และกระทรวงกลาโหม ก็ไม่ได้ของบกลาง แต่ให้มีการปรับลดงบประมาณส่วนของตนเองไป


ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ชี้แจงยืนยันว่า งบประมาณในการจัดซื้อเรือเหาะตรวจการณ์ จำนวน340 ล้านบาท มีความเหมาะสม และเรือเหาะสามารถปฏิบัติการได้จริง รวมทั้งมีประสิทธิภาพตามที่ได้ระบุไว้ในสัญญา

อย่างไรตาม ยืนยัน ไม่มีการทุจริตอย่างแน่นอน และทุกเรื่องที่ดำเนินการเกี่ยวพันมาจากรัฐบาลชุดก่อน


ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงเรื่องการตั้งกองพลว่า พล.ม.3 ใช้เวลาการจัดตั้งทั้งสิ้น 3 ปี และใช้งบประมาณเพียง 2,000 ล้านบาท ไม่ใช่ 7 หมื่นล้านบาท ตามที่เข้าใจแต่อย่างใด ขณะที่การจัดตั้ง พล.ร.7 นั้น ก็ใช้งบประมาณเพียง 9,000 ล้านบาท ไม่ใช่ 1 หมื่นล้านบาท เช่นเดียวกัน โดยการจัดตั้งกองพลเหล่านี้ ต้องผ่านการตรวจสอบจาก สภากลาโหมอยู่แล้ว