Season five ใหม่แต่ดี
ที่ผลงานของ 5 หนุ่ม นาม Season five นําโดย เจ, เอก, หมู, เปา, จั๊ก เจ้าของอัลบั้ม Seasons Of Life ภายใต้การเปิดโอกาสของค่าย Elnsteln by Matching Group จะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ไม่ใช่เพราะความแปลกในแนวเพลงแบบ อะแค็ปเปล่า ที่ทําให้ผลงานของ 5 หนุ่มน่าสนใจ แต่ด้วยเนื้อหาเพลง และความมีฝีมือ ประกอบกับความละเอียดในการทํางาน จึงทําให้ผู้ฟังเปิดใจรับได้โดยง่าย
หากพูดถึงศิลปินแนว อะแค็ปเปล่า ในแวดวงตัวโน้ตบ้านเรา แทบจะนับนิ้วไล่ชื่อวงได้ เพราะด้วยเหตุผลทางธุรกิจมากมาย จึงทําให้ ค่ายเพลง น้อยใหญ่ ไม่ค่อย กล้าเสี่ยง เทงบให้ศิลปินแนวนี้กลั่นงานออกสู่ตลาด เหตุผลหลักๆ ก็คือ กลัวขายไม่ออก แต่ก็ใช่ว่าทุกค่ายจะ ใจไม่ถึง ไปเสียหมด เพราะบางค่ายที่มอง ความต่าง เป็นช่องทาง นําเสนอ ก็ยังพอมี ไม่เช่นนั้น ผู้ฟังก็คงไม่มีโอกาสได้รู้จักกับวง อะแค็ปเปล่า 7 และล่าสุดกับ Season five
ความโดดเด่นของ Season five นอก จากการมีทักษะที่ดีในการร้องประสานเสียง ด้วยการถูกเคี่ยวอย่างหนัก จากเบ้าหลอมที่ดี ระหว่างการเป็นนักร้องในคณะประสานเสียงของร.ร. กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ความรักในเสียงเพลงแบบ ถอนตัวไม่ขึ้น ก็ทําให้ 5 หนุ่ม พัฒนาตัวเองเพื่อการร้องเพลงแบบไม่หยุดหย่อน
แววการจะได้เป็นศิลปินเดี่ยวของ Season five เริ่มฉายตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยปี 2 ถึงต่างคนจะอยู่ต่างสถาบัน แต่ก็หาเวลามารวมตัวทําเพลงไม่ขาด จนได้ผลงานไปนําเสนอ พี่ดี้-นิติพงษ์ แต่โปรเจ็คท์ก็ต้องแห้ว ทั้งๆ ที่ พี่ดี้ สนใจเพราะ ปัญหาภายในค่ายบางประการ
หลังจาก ผิดหวัง ครั้งแรก ก็ยังมีแรงฮึด ทําเพลงต่อหลังจากเรียนจบ ด้วยการจุดประกาย ของ โอ๋ ดูบาดู ซึ่ง 5 หนุ่มก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันเช่นเคย ด้วยเงื่อนไขการทําเพลงบางประการ ผ่านมาเกือบ 10 ปี ศิษย์พี่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน แม็ค แห่ง อะแค็ปเปล่า 7 ก็ก้าวเข้ามาช่วยผลักดันผลงาน สุดท้ายก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันเหมือนเดิม ไม่ใช่ฝีมือไม่เข้าตา แต่ทว่าค่ายกลัว ตลาดไม่เอื้ออํานวย
แม้หลายต่อหลายครั้งที่ อกหัก จากความคาดหวัง อาการ ถอดใจ กลับไม่เคยบั่นทอน ในเมื่อ ยังมีไฟ และ ผิดหวังจนชิน จะลอง ล่าฝัน อีกครั้งคงไม่มีอะไรจะเสีย 5 หนุ่ม เลยนําผลงานที่ปั้นแต่งเกือบเสร็จ มาเสนอ ตี๋ แมทชิ่ง ซึ่งก็สร้าง เซอร์ไพรส์ ด้วยการรับเป็น นาย ทุนให้ เพราะความชื่นชมในผลงาน
สีสันผลงานเพลงอัลบั้มแรกของ Sea-son five คละเคล้าทั้งเพลงช้าเพลงเร็ว ในเวอร์ชั่นแบบอะแค็ปเปล่าเพียวๆ และร้องกับดนตรี ส่วนแนวดนตรีมีทั้ง R&B, POP ฯลฯ เข้ากับผู้ฟังทุกเพศทุกวัย แบบทันสมัยไม่เอาท์ ซึ่งหลายคนฟังแล้ว พร้อม ใจกันบอกว่าดี แบบไม่มีคาใจในความเป็นมือใหม่ แม้แต่น้อย
การแจ้งเกิดด้วยผลงานอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก สิ่งที่คาดหวัง นอกจากคนฟังร้องเพลงได้ และเจ้าของบริษัทไม่ขาดทุนแล้ว 5 หนุ่ม ยังหวังใจให้ผลงาน อัลบั้มนี้ สร้างแรงบันดาลใจให้ใครก็ตามที่รักสไตล์เพลง อะแค็ปเปล่า ออกมาแสดงความสามารถ ไม่ต้องเหนียมอายกับการชื่นชมเพลงประสานเสียง เพราะอย่างน้อยก็ช่วยเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ให้กับการทําเพลง ที่ไม่จําเจอยู่กับเพลง ป๊อป หรือ ร็อก ถ้าอยากลองลิ้มชิมผลงานของพวกเขาก่อนก็คลิกไปชมได้ ที่www.seasonfiveband.com หรือ www.facebook.com/seasonfiveband ดีไม่ดียังไง เปิดพื้นที่ให้ติชมตามใจชอบ
ทีแรกคิดว่าแนวเพลงสไตล์ อะ แค็ปเปล่า จะตายไปจากวงการตัวโน้ตไทยซะแล้ว เมื่อยังมี ทายาท สานต่ออย่างนี้ ก็พลอยอุ่นใจ อย่างน้อย การนําเสนอ ความต่าง อย่างสร้างสรรค์ ก็เป็นช้อยส์ให้ผู้เสพดนตรีได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ได้อักโข งานดีๆ อย่างนี้สิต้องเชียร์
หากพูดถึงศิลปินแนว อะแค็ปเปล่า ในแวดวงตัวโน้ตบ้านเรา แทบจะนับนิ้วไล่ชื่อวงได้ เพราะด้วยเหตุผลทางธุรกิจมากมาย จึงทําให้ ค่ายเพลง น้อยใหญ่ ไม่ค่อย กล้าเสี่ยง เทงบให้ศิลปินแนวนี้กลั่นงานออกสู่ตลาด เหตุผลหลักๆ ก็คือ กลัวขายไม่ออก แต่ก็ใช่ว่าทุกค่ายจะ ใจไม่ถึง ไปเสียหมด เพราะบางค่ายที่มอง ความต่าง เป็นช่องทาง นําเสนอ ก็ยังพอมี ไม่เช่นนั้น ผู้ฟังก็คงไม่มีโอกาสได้รู้จักกับวง อะแค็ปเปล่า 7 และล่าสุดกับ Season five
ความโดดเด่นของ Season five นอก จากการมีทักษะที่ดีในการร้องประสานเสียง ด้วยการถูกเคี่ยวอย่างหนัก จากเบ้าหลอมที่ดี ระหว่างการเป็นนักร้องในคณะประสานเสียงของร.ร. กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ความรักในเสียงเพลงแบบ ถอนตัวไม่ขึ้น ก็ทําให้ 5 หนุ่ม พัฒนาตัวเองเพื่อการร้องเพลงแบบไม่หยุดหย่อน
แววการจะได้เป็นศิลปินเดี่ยวของ Season five เริ่มฉายตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยปี 2 ถึงต่างคนจะอยู่ต่างสถาบัน แต่ก็หาเวลามารวมตัวทําเพลงไม่ขาด จนได้ผลงานไปนําเสนอ พี่ดี้-นิติพงษ์ แต่โปรเจ็คท์ก็ต้องแห้ว ทั้งๆ ที่ พี่ดี้ สนใจเพราะ ปัญหาภายในค่ายบางประการ
หลังจาก ผิดหวัง ครั้งแรก ก็ยังมีแรงฮึด ทําเพลงต่อหลังจากเรียนจบ ด้วยการจุดประกาย ของ โอ๋ ดูบาดู ซึ่ง 5 หนุ่มก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันเช่นเคย ด้วยเงื่อนไขการทําเพลงบางประการ ผ่านมาเกือบ 10 ปี ศิษย์พี่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน แม็ค แห่ง อะแค็ปเปล่า 7 ก็ก้าวเข้ามาช่วยผลักดันผลงาน สุดท้ายก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันเหมือนเดิม ไม่ใช่ฝีมือไม่เข้าตา แต่ทว่าค่ายกลัว ตลาดไม่เอื้ออํานวย
แม้หลายต่อหลายครั้งที่ อกหัก จากความคาดหวัง อาการ ถอดใจ กลับไม่เคยบั่นทอน ในเมื่อ ยังมีไฟ และ ผิดหวังจนชิน จะลอง ล่าฝัน อีกครั้งคงไม่มีอะไรจะเสีย 5 หนุ่ม เลยนําผลงานที่ปั้นแต่งเกือบเสร็จ มาเสนอ ตี๋ แมทชิ่ง ซึ่งก็สร้าง เซอร์ไพรส์ ด้วยการรับเป็น นาย ทุนให้ เพราะความชื่นชมในผลงาน
สีสันผลงานเพลงอัลบั้มแรกของ Sea-son five คละเคล้าทั้งเพลงช้าเพลงเร็ว ในเวอร์ชั่นแบบอะแค็ปเปล่าเพียวๆ และร้องกับดนตรี ส่วนแนวดนตรีมีทั้ง R&B, POP ฯลฯ เข้ากับผู้ฟังทุกเพศทุกวัย แบบทันสมัยไม่เอาท์ ซึ่งหลายคนฟังแล้ว พร้อม ใจกันบอกว่าดี แบบไม่มีคาใจในความเป็นมือใหม่ แม้แต่น้อย
การแจ้งเกิดด้วยผลงานอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก สิ่งที่คาดหวัง นอกจากคนฟังร้องเพลงได้ และเจ้าของบริษัทไม่ขาดทุนแล้ว 5 หนุ่ม ยังหวังใจให้ผลงาน อัลบั้มนี้ สร้างแรงบันดาลใจให้ใครก็ตามที่รักสไตล์เพลง อะแค็ปเปล่า ออกมาแสดงความสามารถ ไม่ต้องเหนียมอายกับการชื่นชมเพลงประสานเสียง เพราะอย่างน้อยก็ช่วยเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ให้กับการทําเพลง ที่ไม่จําเจอยู่กับเพลง ป๊อป หรือ ร็อก ถ้าอยากลองลิ้มชิมผลงานของพวกเขาก่อนก็คลิกไปชมได้ ที่www.seasonfiveband.com หรือ www.facebook.com/seasonfiveband ดีไม่ดียังไง เปิดพื้นที่ให้ติชมตามใจชอบ
ทีแรกคิดว่าแนวเพลงสไตล์ อะ แค็ปเปล่า จะตายไปจากวงการตัวโน้ตไทยซะแล้ว เมื่อยังมี ทายาท สานต่ออย่างนี้ ก็พลอยอุ่นใจ อย่างน้อย การนําเสนอ ความต่าง อย่างสร้างสรรค์ ก็เป็นช้อยส์ให้ผู้เสพดนตรีได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ได้อักโข งานดีๆ อย่างนี้สิต้องเชียร์