ศาลนัดไต่สวนคดีความเป็นครั้งแรก 3 หนุ่ม ทงบังชินกิ และ SM | Sanook Music

ศาลนัดไต่สวนคดีความเป็นครั้งแรก 3 หนุ่ม ทงบังชินกิ และ SM

ศาลนัดไต่สวนคดีความเป็นครั้งแรก 3 หนุ่ม ทงบังชินกิ และ SM
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
21 สิงหาคม 2552 ศาลกลางกรุงโซล ห้องพิจารณาคดี 358 ได้นัดไต่สวนครั้งแรกในคดีระหว่าง 3 สมาชิก ทงบังชินกิ ( TVXQ! ) และต้นสังกัด SM Entertainment ในกรณีของคดีความที่ทั้ง 3 สมาชิก ยื่นคำร้องให้ศาลสั่งสิ้นสุดการบังคับใช้สัญญากับทางต้นสังกัด



ในวันนี้ทางด้านทนายความของ SM ได้ยืนยันว่า "เมื่อวันที่ 15 กรกฏาคม ที่ผ่านมา ทางต้นสังกัดได้ชำระเงินล่วงหน้าให้กับ เซียะ จุนซู เป็นเงินทั้งหมด 45 ล้านวอน ( 1.22 ล้านบาท )" และจากคำพูดนี้เองทำให้สำนักกฏหมายของทั้ง 3 สมาชิกออกมาเปิดเผยว่า "ลูกความของเราเปิดเผยว่าเรื่องที่ SM ยืนยันเรื่องเงินล่วงหน้านั้น ไม่เป็นความจริงครับ"

อีกทั้งในกรณีที่ศาลได้ชี้แนะให้มีการตกลงกันนอกรอบนั้น สำนักกฏหมายของทั้ง 3 สมาชิกเผยว่า "ลูกความของเราบอกมาว่าถ้าไม่มีการเปิดเผยทั้งเรื่องสัญญา และตัวเลขรายได้อย่างเป็นทางการ พวกเขาก็คิดว่าการที่จะมานั่งพูดคุยกันคงเป็นไปได้ยากครับ ยังไงทางเราก็เรียกร้องให้มีการเปิดเผยสัญญาที่เกี่ยวข้องออกมาครับ"

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเช้าวันที่ 21 สิงหาคม 2552 เวลา 10.20 น. ถึงแม้ทั้งสองฝ่ายจะเปิดเผยจุดยืนตรงกันว่า "ไม่ต้องการให้มีการยุบวง" ซึ่งเป็นเพียงในทางทฤษฎีเท่านั้น แต่เมื่อถึงเวลาจริงการออกมาตอบโต้ของแต่ละฝ่ายในการไต่สวนครั้งแรกก็ทำให้ห้องไต่สวนนั้นเต็มไปด้วยบรรยากาศมาคุ

โดยในวันนี้ทั้งฝ่าย 3 สมาชิก ทงบังชินกิ และ SM Entertainment ต้นสังกัดก็ยังคงมีความเห็นไม่ตรงกัน โดยยืนพื้นมาจากเรื่องราวก่อนหน้านี้เช่นเดิม ทางด้าน SM เน้นประเด็นไปที่เรื่องของธุรกิจเครื่องสำอางค์จากสมาชิกทั้ง 3 คน ในขณะเดียวกันทางด้านสมาชิกทั้ง 3 ก็เน้นไปในประเด็นเรื่องของสัญญาที่ไม่เป็นธรรม

ทนายความฝ่าย SM เปิดเผยต่อศาลว่า "ในกรณีของค่าปรับที่เกิดจากการประเมินเม็ดเงินที่มีการสูญเสียไปจากงาน และการที่ศิลปินต้องการยกเลิกสัญญา จะประกอบไปด้วยจำนวนเงินเฉพาะในเกาหลี 8 พันล้านวอน ( 217 ล้านบาท ) และจำนวนเงินในต่างประเทศอีก 1.5 หมื่นล้านวอน ( 408 ล้านบาท ) อีกทั้งนี่ยังไม่รวมที่คดีนี้ได้ทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทเสียหายอีกด้วย" อีกทั้ง สำหรับสถานการณ์ในขณะนี้ประเด็นหลักคือปัญหาเรื่องธุรกิจเครื่องสำอางค์ แต่มีการนำไปโยงในเรื่องของสัญญาที่ไม่เป็นธรรมเพื่อนำคดีเข้าสู่ชั้นศาล

ทางด้านทนายฝ่าย 3 หนุ่ม ทงบังชินกิ เปิดเผยถึงความไม่ยุติธรรมในสัญญากล่าว "เหตุผลที่เราต้องร้องขอให้ศาลสั่งระงับสัญญานั้น เนื่องจากระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 13 ปีและเรื่องส่วนแบ่งรายได้ที่ไม่โปร่งใส" ในขณะเดียวกัน SM มีความเห็นว่า "เมื่อรวมถึงระยะเวลาในการทำกิจกรรมในต่างประเทศ และเม็ดเงินที่ใช้ในการลงทุน ระยะเวลา 13 ปีถือว่าไม่ได้ยาวนานเกินไป อีกทั้งสมาชิกแต่ละคนก็ยังได้ลงชื่อรับทราบถึงจำนวนเงินในใบเสร็จด้วยตนเองอีกด้วย"

ในกรณีของธุรกิจเครื่องสำอางค์ของ 3 สมาชิก ทางฝั่ง ทงบังชินกิ ก็ได้กล่าวด้วยว่า "SM ชอบนำเรื่องเครื่องสำอางค์มาเป็นประเด็น ซึ่งจริงๆ แล้วปัญหานี้ไม่ได้มีแก่นสารใดๆ เลย ถึงแม้ว่าสมาชิกจะใช้เงินลงทุนในธุรกิจของตนเองก็จริง แต่ว่ามันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการทำกิจกรรมในฐานะคนบันเทิงแต่อย่างใด"

ในกรณีนี้ SM เผยว่า "เรื่องการลงทุนในธุรกิจเครื่องสำอางค์นั้นมันไม่ได้เป็นไปแบบง่ายๆ โดยเฉพาะพวกเขาได้ไปเข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆของบริษัทเครื่องสำอางค์ รวมถึงยังได้ใช้ภาพของสมาชิกในเว็บไซต์ของตัวเอง ซึ่งนั่นมันละเมิดข้อสัญญาของเรา อีกทั้งเรายังคิดว่านั่นอาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสมาชิกด้วย ด้วยเหตุนี้ทางด้าน SM จึงได้เรียกร้องเพื่อเข้าควบคุมสิ่งเหล่านี้"

ในขณะที่ทางฝ่าย 3 สมาชิก ทงบังชินกิ ยังได้ยกตัวอย่างเรื่องในอดีตอย่าง ชินฮวา มากล่าวด้วยว่า "ถึงแม้ว่า ชินฮวา จะเปลี่ยนต้นสังกัดไป แต่พวกเขาก็ยังสามารถทำกิจกรรมเป็นกลุ่มได้เหมือนเดิม พวกเราไม่ต้องการที่จะแยกหรือยุบวงแต่อย่างใด" จากคำกล่าวที่ว่านี้ทำให้อาจมองได้ถึงการต้องการย้ายออกจากต้นสังกัดนั่นเอง

ส่วนทางด้าน SM กล่าวว่า "อย่างในกรณีนี้มูลค่าความเสียหายของธุรกิจต่างประเทศ จะอยู่ที่ประมาณ 1.6 หมื่นล้านวอน อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์และความรักที่ SM มีให้ ทงบังชินกิ นั้นค่อนข้างลึกซึ้ง ซึ่งทางเราก็หวังว่าเราจะสามารถยุติคดีความนี้ให้เร็วที่สุด และหวังว่าจะได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งหนึ่ง" เขากล่าวต่อศาลเพื่อหวังประสานบาดแผลความขัดแย้งที่เกิดขึ้นต่อกัน

พัคบยองแด ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะ เปิดเผยว่า "นอกจากเรื่องเงิน แล้วยังมีเรื่องของความรับผิดชอบต่อแฟนๆ รวมถึงสมาชิกที่เหลืออีก 2 คนก็ต้องให้ความเป็นธรรมในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาด้วย ถ้าทั้งสองฝ่ายหันหน้าเข้าหากันปัญหาต่างๆ เหล่านี้ก็จะยุติลงได้ด้วยดี แต่ถ้าจะไม่มีการหันหน้าเข้าหากัน ก็ควรจะไตร่ตรองให้ดีเช่นกัน"

ทางด้านผู้เกี่ยวข้องในวงการเพลงเปิดเผยว่า "ในเมื่อศาลท่านแนะนำให้กลับไปตกลงกัน ก็มีโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะกลับมาพูดคุยกันอีกครั้งอยู่เหมือนกันครับ ทางด้าน ทงบังชินกิ เองก็บอกไว้แล้วว่าเขาไม่อยากที่จะให้สถานการณ์มันเลวร้ายถึงขนาดที่ต้องแยกหรือยุบวง ผมจึงคิดว่าโอกาสที่จะกลับมาปรองดองกันด้วยดีอีกครั้งนั้นก็เป็นไปได้ครับ"

แต่คนในวงการอีกด้านหนึ่งกล่าวว่า "เรื่องที่บอกว่าจะไม่แยกหรือไม่ยุบนี่เราก็เห็นอยู่แล้วว่าทั้งสองฝ่ายพูดมาตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอครับ ขนาดในวันไต่สวนครั้งแรกนี้ทั้งสองฝ่ายยังมีมุมมองไม่ตรงกันเลยสักนิด ผมคิดว่าความเห็นของทั้งสองฝ่ายคงไม่มาบรรจบกันได้อย่างง่ายๆหรอกครับ" นี่คือความเห็นอีกมุมมองหนึ่ง

และถ้าหากไม่มีการตกลงกันได้ในระยะเวลานี้ การพิจารณาคดีจะมีขึ้นอีกครั้งในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า คือในวันที่ 11 กันยายน โดยทางศาลได้ร้องขอให้คู่กรณีส่งหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาทางคดีความต่อไป

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา แฟนคลับกว่า 120,000 คนได้ร่วมลงชื่อในคำร้องและยื่นต่อศาลกรณีคดีพิพาทระหว่าง ทงบังชินกิและ SM Entertainment อีกเช่นเดียวกัน

อนึ่ง 3 สมาชิก ทงบังชินกิ ประกอบไปด้วย เซียะ จุนซู - ยองอุง แจจุง และ มิคกี้ ยูชอน ได้ยื่นเรื่องคดีความต่อศาลกลางกรุงโซลไปเมื่อวันที่ 31 กรกฏาคมที่ผ่านมา ในกรณีที่พวกเขาต้องการให้ศาลสั่งระงับสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ระหว่างตัวเขาและต้นสังกัด SM Entertainment นั่นเอง


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook