10 สุดยอดมิวสิควิดีโอจาก 10 ผู้กำกับหนังมือทอง | Sanook Music

10 สุดยอดมิวสิควิดีโอจาก 10 ผู้กำกับหนังมือทอง

10 สุดยอดมิวสิควิดีโอจาก 10 ผู้กำกับหนังมือทอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ธรรมชาติของคนฟังเพลงทุกคน ต้องชอบดูมิวสิควิดีโอ!!!

ยิ่งถ้าเป็นมิวสิควิดีโอไอเดียดี ครีเอทโดน กับเพลงเจ๋งๆ ด้วยแล้ว บางคนปลาบปลื้มที่ได้ดูชนิดที่เรียกว่า ดูแล้ว ถ้าจะตายก็ไม่เสียดายชีวิต...ฟังดูอะไรจะเวอร์ขนาดนั้น แต่มันก็คือความจริง!!

เพราะมิวสิควิดีโอก็คือศิลปะอีกแขนง การทำ MV ออกมาสักหนึ่งเรื่องไม่ต่างอะไรจากภาพยนตร์ที่มีโจทย์บังคับเป็นเพลงๆ หนึ่ง ซึ่งคุณจะสรรค์สร้างไอเดีย ปรุงแต่งเรื่องราวอย่างไรก็ได้โดยไร้ขีดจำกัด

เสน่ห์ของมิวสิควิดีโอก็ทำให้ผู้กำกับหนังชื่อดังหลาย..ต่อหลายคน ได้โชว์ไอเดียล้ำๆ ของตัวเองกันอย่างเต็มที่ ผู้กำกับหนังอย่าง คริส คันนิงแฮม ก่อนจะมาทำหนังของตัวเอง ก็เริ่มต้นจากการเป็นผู้กำกับมิวสิควิดีโอมาก่อน เช่นเดียวกับ สไปค์ จอนเซ หรือ มิเชล กงดรี 2 ผู้สร้างสรรค์ MV ให้เพลงอินดี้โด่งดังมาแล้วนับไม่ถ้วน

ลองไปดูงานกำกับฯ ของพวกเขาเหล่านี้ รวมถึงผู้กำกับมิวสิควิดีโอฝีมือดีอีกหลายคนที่แฟนๆ ช่วยกันโหวตดูว่า งานของพวกเขา เทพกันขนาดไหน!!

10. The White Stripes : I Just Don't Know What To Do With Myself (2003)
กำกับโดย : โซเฟีย คอปโปลา



พูดกันติดตลกว่าถ้าคุณเป็นผู้กำกับฯ ที่อยู่ในภาวะไอเดียตีบตันแต่ดันมีเดดไลน์เร่งให้งานต้องเสร็จ ไอเดียง่ายๆ ที่จะทำให้คุณทำงานเจ๋งๆ ออกมาได้ในยามที่นึกไม่ออกก็คือ 1. คิดคอนเซปท์ให้เป็นงานขาวดำไว้ก่อน ยิ่งดูเหมือนงานลวกๆ เท่าไหร่ยิ่งดีเพราะจะทำให้ mv ของคุณออกมาอินดี้สุดๆ และ 2. หานางแบบซักคนมาใส่ชุดบิกินี่นอนย้วยไปมาใน mv ของคุณสิ! (แต่มีข้อแม้ว่าต้องหาให้ฮอตได้เท่ากับ เคท มอส ละกัน) แค่นี้แหละ คือสิ่งที่ผู้กำกับฯ สาวเก๋ โซเฟีย คอปโปลา แนะนำให้คุณลองทำดู

9. Blur : Coffee and TV (1999)
กำกับโดย : การ์ธ เจนนิงส์



ก่อนหน้า mv ตัวนี้จะออกสู่สายตาประชาชน การ์ธ เจนนิงส์ เคยเป็นใครก็ไม่รู้ ?? ในแวดวงคนทำหนังสั้นเมืองผู้ดีอาจรู้จักเขาบ้างนิดหน่อยในฐานะผู้กำกับหนังสั้นหน้าละอ่อน แต่จากไอเดีย กล่องนม นี้เองที่ทำให้สายตาทุกคู่ และผู้ชมทุกคนต้องตั้งคำถามว่า เขาคือใครหนอ?

การ์ธดึงเอาความน่ารักแบบตุ๊กตุ่นตุ๊กตามาใส่ตัวละครเอกซึ่งเป็นกล่องนมหนุ่มน้อย เดินทางตามหาลูกชายคนโตของครอบครัวๆ หนึ่งซึ่งไปเป็นนักดนตรีชื่อดังกับวงเบลอร์ (บอกซะให้หมด) และการผจญภัยของกล่องนมก็เริ่มต้นขึ้น..ไม่มีพิษมีภัย แต่ได้ใจเต็มๆ

8. Red Hot Chili Peppers : Under The Bridge (1992)
กำกับโดย : กัส แวน แซนท์

อีกหนึ่งตัวอย่างของ mv ที่ไม่ต้องทุ่มงบมโหฬาร ไม่มี CG ล้ำๆ และไม่มีคนดังๆ มาร่วมฉาก งานในต้นยุคกรันจ์ของ RHCP ชิ้นนี้ประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง ที่เหลือของผู้กำกับฯ กัส แวน แซนท์ ก็คือ ทำอะไรก็ได้ ให้ MV ชิ้นนี้ออกมาเป็นเมนสตรีมเหมือนตัวเพลงให้ได้มากที่สุด

ถ้าอยากดูอะไรที่ใกล้เคียงกับ Under The Bridge ไม่ยาก...เปิดทีวีดูมิวสิควิดีโอค่ายใหญ่ 2 ค่าย ฝีมือพี่ไทยสร้าง เมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อน แต่ตัดความปราณีตออกไปประมาณ 30% นั่นแหละ ใช่เลย

7. Jessica Simpson : These Boots Are Made For Walking (2005)
กำกับโดย : เบร็ท แรทเนอร์




หนุ่มๆ ทั้งหลายใจเย็นซักนีซซ..และสาวๆ ทั้งหลายได้โปรดจงฟัง ด้วยความสงสัยว่า mv ตัวนี้ไม่ได้มีอะไรเลยนอกจากฉากเด็ดที่น้องเจสนุ่งสั้นล้างรถจนตัวเปียก และ..อะไรๆ ก็แนบเนื้อ บางคนสงสัยว่า mv ตัวนี้จ่ายใต้โต๊ะไปเท่าไหร่ถึงได้ติดอันดับกับเขาด้วย คำตอบก็คือ ใช่ ความเซ็กซี่คือคำตอบที่ทำให้ mv เพลงนี้โดนใจหนุ่มๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใด องค์ประกอบศิลป์ก็คือหัวใจเช่นกันที่ทำให้ฉากบางฉากไม่ล่อแหลมหรือดู low เกินไปนัก...รอดตัวไป

6. Michael Jackson : Bad (1987)
กำกับโดย : มาร์ติน สกอร์เซซี


ผงานการกำกับ mv อันน่าทึ่งของ มาร์ติน สกอร์เซซี สร้างกระแสช็อคคัลเจอร์ในยุคนั้นเป็นอย่างมาก ด้วยธีมที่ดำเนินเรื่องราวโดยแกงสเตอร์ตามความชื่นชอบส่วนตัวของผู้กำกับ แต่ทำให้งานออกมาเป็นหนังสั้นขนาดย่อมๆ ที่ครบทุกองค์ประกอบ

ถ้ามีรางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับมิวสิควิดีโอตั้งแต่วันนั้น...สกอร์เซซีคงไม่ต้องรอรางวัลแรกในชีวิตมาจนถึงปี 2005!

5. Nine Inch Nails : Only (2005)
กำกับโดย : เดวิด ฟินเชอร์




ลองนึกถึงานออกแบบการฟฟิคดีไซน์เจ๋งๆ ซักชิ้น นั่นแหละคือจุดแข็งของ mv ชิ้นนี้ที่ตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิงกับงานที่แทบไม่ต้องลงทุนอะไรมากของ กัส แวน แซนท์ ที่ทำให้กับ Under The Bridge ในอันดับที่ 8 ในขณะเดียวกันก็มีความเป็นเมทัลลิคดิบๆ อยู่เต็มตามสไตล์ของผู้กำกับเอง

หรือนี่จะเป็นไตเติ้ลของหนังเรื่อง Fight Club เวอร์ชั่นเหนือจริงที่ เดวิด ฟินเชอร์ อยากทำก็เป็นได้...เพราะแค่หั่นงบค่าตัว แบรด พิทท์ กับ เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน ก็ได้หนังเรี่องยาวที่เท่ที่สุดแห่งยุคอีกเวอร์ชั่นหนึ่งแล้ว

4. Unkle : Rabbit In Your Headlights (1998)
กำกับโดย : โจนาธาน เกลเซอร์




ทุกๆ 10 คนที่ได้ดู mv ตัวนี้ จะพูดเหมือนๆ กันทั้ง 10 คนว่า โจนาธาน เกลเซอร์ กำลังทำบ้าอะไรอยู่! ในความโหดร้ายของความจริงในชีวิตคนเมืองคือเรื่องราวที่เป็นเมนหลักผ่านตัวเอกของ mv คือชายสิ้นหวังคนหนึ่ง ที่เหลือคือ เปรี้ยง! ช็อตเดียวทะลุกลางหัวใจ

ไม่ต้องแคร์ว่าจะเป็นงานของ ธอม ยอร์ค หรือ จมส์ ลาเวลล์ แต่ขอร้อง..ได้โปรดกำกับงานเจ๋งๆ อย่างนี้ออกมาให้ชมอีกโดยด่วน!

3. Michael Jackson : Thriller (1983)
กำกับโดย : จอห์น แลนดิส


ยุคทองของไมเคิล แจ็คสัน คือผลพวงอันเนื่องมาจากความเหนือชั้นในผลงานของเขาทั้งสิ้น ไม่มีใครปฏิเสธความสามารถทั้งการร้อง เต้น และเล่น mv ของเขา จากจุดนี้เอง จอห์น แลนดิส จึงจับคาแรคเตอร์ของเขามาผูกเป็นเรื่องราวของมนุษย์หมาป่าที่ผ่าแปลงร่างในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง...และในขณะที่เพิ่งจะถึงฉากสวีทแท้ๆ...หนึ่งในไคลแม็กซ์ที่ทุกคนรกล่าวขวัญถึงที่สุดแห่งยุคเพลงป๊อป ต้องมีเพลง mv เพลงนี้ อย่างไม่ต้องสงสัย

2. Beastie Boys : Sabotage (1994)
กำกับโดย : สไปค์ จอนเซ




ความขี้เล่นและตลกร้ายในตัวของผู้กำกับฯ สไปค์ จอนเซ คือเสน่ห์ที่หลายคนให้ความเห็นว่า ถ้าไม่ชอบ ก็ต้องเกลียดเลย ด้วยลูกเล่นและสถานการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้ว่าเขาจะดำเนินเรื่องราวในเพลงที่มีความยาวแค่ 3-4 นาทีออกมาเป็นแบบไหน เมื่อสมมติ 3 หนุ่มฮิปฮอปวงนี้ให้กลายเป็นดาราหนังแอคชั่นยุค 70's ในบทของตำรวจ (หรือ blaxploitation เวอร์ชั่นคนขาว) คำตอบคือ หลายคนลืม mv ระทมเถื่อนๆ ของเนอร์วาน่า และลืมไปว่า สแมชชิง พัมพ์คินส์ ติสท์แตกจนคนลืมพูดถึง mv ของพวกเขาไปหลายเดือน!

1. The Chemical Brothers : Let Forever Be (1999)
กำกับโดย : มิเชล กงดรี




ผู้นำเด็กแนว อาร์ทตัวพ่อของแท้ต้องยกให้ผู้กำกับชาวฝรั่งเศสคนนี้ ที่สรรค์สร้างความจำเจที่คนอื่นมองไม่เห็นให้กลายเป็นเรื่องพิลึกกึกกือและร้อง อื้อฮือ!! กันครึ่งค่อนโลก กงดรีมีเทคนิคในการกำกับศิลป์ที่ผกก. หลายคนควรเอาเป็นแบบอย่าง คือ1. เขาฟังทุกเพลงในอัลบั้มของศิลปินนั้นๆ ที่เขารับงานโดยไม่ได้ฟังผ่านๆ แค่เพลงเดียว 2. ตีโจทย์แตกด้วยการมองภาพรวม และ 3. พยายามคุยกับศิลปินเจ้าของงานทันทีที่มีโอกาส ฟังดูเหมือนเขาทำงานหนักเกินไป ถูกต้อง mv ที่ไม่ประหยัดงบตัดต่อตัวนี้เรียกเสียงฮือฮาจากมหาชนมากมาย แต่เมื่อออกมาเป็นความวิจิตรบรรเจิดแบบที่ใครก็เลียนแบบไม่ได้ อาร์ทตัวพ่อ-ตัวแม่ คนไหนที่ว่าแน่ ก็ต้องร้องไห้หาแม่กันทุกคน

นอกจาก Let Forever Be กงดรีมีงานกำกับ mv สุดเจ๋งอีกนับไม่ถ้วน เช่น Around The World ของ ดาฟท์ พังค์ หรือ Star Guitar ของ TCB นี่แหละ...และมาสเตอร์พีซฉบับสมบูรณ์ของเขาอีกหนึ่งชิ้นที่ควรศึกษา...Eternal Sunshine of The Spotless Mind ก็คือผลงานการกำกับหนังใหญ่ที่ประสบความสำเร็จอีกเรื่องหนึ่งของเขา

นำเสนอโดย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook