ปาน เปิดใจ ทำไมผู้หญิง...ถึงต้องยิ่งกว่าละคร | Sanook Music

ปาน เปิดใจ ทำไมผู้หญิง...ถึงต้องยิ่งกว่าละคร

ปาน เปิดใจ ทำไมผู้หญิง...ถึงต้องยิ่งกว่าละคร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook



มากกว่า 6 ปี ที่ผู้หญิงคนนี้ลุกขึ้นมาทำหน้าที่บอกเล่าทุกเรื่องราวของผู้หญิงให้ใครๆ ได้รับรู้ ด้วยภาษาที่ตรงจนหลายๆคนว่าแรง! ผ่านการร้องที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกของผู้หญิง ที่ทำให้หลายคนบอกว่า สะใจ ออกมาให้ได้ฟังกันอย่างต่อเนื่อง



และ ตลอดกว่า 6 ปีที่ผ่านมา แฟนเพลงของ ปาน- ธนพร แวกประยูร บอกว่าทุกครั้งที่ฟังเพลงของ ปาน ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังดูละครที่มี ปาน เป็นคนเล่าเรื่องของผู้หญิงผ่านทางเสียงที่เข้าถึงอารมณ์ และยากที่ใครจะเลียนแบบ



ในอัลบั้มที่ 6 ผู้หญิงยิ่งกว่าละคร หลายคนคงตีความไปต่างๆ นานาว่าทำไมชีวิตของผู้หยิงจึงต้องไปเกี่ยวพันกับละคร อาจเป็นเพราะในชีวิตจริงผู้หญิงคนนึงมีความหลากหลายของอารมณ์ ความรู้สึก รวมถึงมีความซับซ้อน ก็คงไม่ต่างอะไรกับบทละครเรื่องนึงที่มีหลายรสชาตินั่นเอง



นอกจากจะมาบอกเล่าให้ได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเพลงในอัลบั้ม ผู้หญิงยิ่งกว่าละคร ในวันนี้ ปาน จึงขอถือโอกาสเผยความรู้สึกที่มีต่อแง่มุมความรัก ในแบบผู้หญิงยุคปัจจุบันด้วย



พูดถึงงานเพลงชุดนี้ ใช้เวลาทำนานแค่ไหน

ปาน : เอาเป็นว่า พี่ไปโฟกัสที่ทีมเพลงก่อนแล้วกันนะคะ เพราะงานเพลงของพี่กับการทำงานในห้องอัดเราจะใช้เวลาไม่นาน แต่กับเวลาที่คิดและวางคอนเซ็บต์ต่อไปว่าจะทำอะไรเนี่ยค่อนข้างนาน คือพอจบชุดนึงทีมงานเขาจะต้องคิดกันต่อเลย ทีมเพลงจะทำงานกันเป็นปีๆ คิดวนว่าชุดนี้ปานจะพูดอะไร ชุดที่แล้วปานพูดแบบนี้แล้ว ชุดนี้ถ้าพูดแล้วเราหักมุมเราจะต้องหักมุมแบบไหน พูดถึงอะไร ส่วนงานในห้องอัดของพี่ไม่นานค่ะ ไม่เคยเกิน 1 เดือน



ว่าด้วยโจทย์ของอัลบั้มนี้

ปาน : คือโจทย์แว่บแรกเลยก็ต้องเป็นเรื่องของผู้หญิงอยู่แล้ว เพราะครั้งแรกที่เราทำอัลบั้มออกมา ผลตอบรับที่ได้คือมีผู้หญิงฟังมาก แฟนเพลงเราส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และผู้หญิงที่ฟังเพลงของเรามักมีชีวิตที่ผิดหวังเกินครึ่ง จริงๆ แล้วเวลาที่เราไปร้องเพลง มักจะเจอภาพที่เราไปเห็นในที่ต่างๆ พี่ก็จะเอาข้อมูลเหล่านั้นมาบอกกับทีมเพลง อย่างบางทีเราร้องเพลงไปในบรรยากาศสนุกสนาน ที่เป็นผับหรือบาร์ คนส่วนใหญ่เขาก็จะสนุกสนานกันไป แต่บางคนเขาาร้องไห้ก็มีไง มันเหมือนกับว่าเพลงบางเพลงมันไปแทงใจเขา ไปโดนช่วงชีวิตช่วงนั้นของเขาพอดี เพลงของเราก็ไปทำงานกับหัวใจของเขา มันเลยทำให้เขาร้องไห้อะไรแบบนี้ เราก็เอาเรื่องอย่างนี้ หรือสิ่งที่เราไปเจอมา เอามาบอกกับทีมงานว่าเราไปเจออะไรบ้าง



เพราะฉะนั้นแวบแรกที่เขาทำ เขาต้องรักษาใจผู้หญิง หรือไม่ก็ต้องทำให้ผู้หญิงพวกนั้นรู้สึกปลดปล่อยอะไรบางอย่างที่ค้าง หรือว่าใครก็ตามที่รู้ว่าโดนทรยศเรื่องความรักเหลือเกินเนี่ย เจอแต่เหตุการณ์ที่มืดๆ ดำๆ แบบนี้ แน่นอนว่า ปาน ธนพร จะต้องไปสนองอารมณ์ทำให้อารมณ์เขาคลายลง หรือไปเพิ่มโทสะก็ไม่รู้ก็แล้วแต่นะ



ตลอด 7 ปีมาเนี่ย ดีกรีความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เลยใช่ไหม

ปาน : ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นะคะ ถ้าในแง่ของความรุนแรง อย่างภาษาเนี่ยมันก็จะลึกลงไปเรื่อยๆ ยิ่งเราเดินมาตรงนี้มันก็ต้องยิ่งชัดเจน การทำงานตรงนี้พี่ว่าถ้าไม่ชัดเจนมันจะไม่เห็นอะไร เหมือนกับว่าเราก็ต้องกล้าแลกเหมือนกัน แลกกับสิ่งที่เราต้องโดนวิจารณ์ว่าทำไมต้องใช้ถ้อยคำขนาดนี้ รุนแรงขนาดนี้ แต่ในขณะที่เราใช้ถ้อยคำที่รุนแรงแบบนี้ และทำขนาดนี้เนี่ย มันก็มีคนกลุ่มนึงที่มากซะด้วยที่พอใจจะได้ฟังแบบนี้ และสะใจที่จะได้ยินแบบนี้ สุดท้ายแล้วมันเป็นการเล่นกับอารมณ์ของคนและการที่เราจะเล่นกับอารมณ์ของคน พี่มองว่ามันเป็นเรื่องที่มันซับซ้อน และก็ลึกซึ้ง อย่างคนที่ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็จะไม่มีวันเข้าใจไงคะ



ซึ่งเวลาที่เรา research แล้ว คนที่มีความรักที่ราบเรียบเนี่ยมันน้อยมาก ถ้า 100% เนี่ยมันจะมีซัก 10% ส่วนอีก 90% เนี่ยคือมีปัญหา หนักเบาต่างกันไป ซึ่งเราก็ต้องถนอมไอ้ตรง 90% ก่อน คนที่เขามีความสุขอยู่แล้ว เราคงไม่จำเป็นต้องไปเพิ่มให้เขานะ เพราะเขาก็รู้จักที่จะเพิ่มให้ตัวเองอยู่แล้วใช่ไหม แต่ตรง 90% เขาก็พยายามที่จะเพิ่มแล้ว แต่ถ้าอีกฝ่ายนึงไม่เอาด้วยมันก็ลำบาก เพราะฉะนั้นเราก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ถ้าเราเติมเต็มความรู้สึกให้เขาได้ หรือแสดงถึงความเข้าใจเขาในภาวะที่เขาเจอ มันก็เหมือนกับว่าอย่างน้อยในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต ในขณะที่ฉันทุกข์ที่สุดเนี่ยก็ยังมีเพลงซักเพลงที่มาเข้าใจหัวใจฉัน



และถึงแม้ว่าวันนึงชีวิตวันข้างหน้าของเค้าไปเจอสิ่งที่ดีงามแล้ว แต่เพลงเราก็จะอยู่ในช่วงนึงของความทรงจำ ว่าเขาเคยมีเพลงนี้อยู่กับเขา ไม่ว่าเพลงมันจะทำให้เขามีโทสะก็ตาม หรือจะทำให้เขาเข้าใจโลกมากขึ้นก็ตาม อย่างน้อยเราก็อยู่ในการเดินทางครั้งหนึ่งของเขาค่ะ



พี่ปานมีเพลงประจำตัวไหม ตั้งแต่ร้องเพลงมา

ปาน : ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงที่ซ่อนๆ อยู่ในอัลบั้ม พวกเพลงไม่ผิดหวัง อย่างเช่นเพลงที่ชื่อ ไม่ผิดหวัง เพราะไม่ได้หวัง เพลงนี้เป็นมุมที่พี่พยายามจะบอกตัวเองเสมอ



มุมมองของพี่ปาน เกี่ยวกับผู้หญิงและความรักในปัจจุบัน

ปาน : อย่างเราทำงานกับอารมณ์ของคน เราก็จะได้เห็นอะไรเยอะ มากกว่าคนปกติ เวลาทำงานเราต้องรู้จักควบคุมอารมณ์เวลาที่เราอยู่บนเวที เพราะ ณ เวลาเดียวกันคนที่ฟังเพลงเราแต่ละคนก็จะมีอารมณ์ต่างไป และจริงๆ เดี๋ยวนี้มีผู้หญิงที่คิดแบบพี่เยอะ และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย เพราะผู้หญิงยุคนี้ดูแลตัวเองได้ ตราบใดที่ดูแลตัวเองได้และเติมกำลังใจของตัวเองให้เต็มอยู่เสมอ มันก็จะไม่ต้องการสิ่งอื่น หรือไม่ต้องให้ใครมาเติมให้ มันจะไม่มีผล หรือมีมันก็น้อยมาก



อย่างเวลาเราเหงาเราต้องบอกตัวเองว่าเราเหงานะ อย่าหลอกตัวเอง หรือแม้ว่าเราผ่านมาแล้วก็ตามเราก็ต้องทำความเข้าใจให้ได้เราก็จะรู้ว่ามนุษย์มีอารมณ์ที่เป็นแค่ภาวะ มันไม่ได้ถาวร เมื่อเราเข้าใจตัวเองได้ ตามดูรู้ทันเราก็จะไม่ทุกข์มาก และพี่คิดว่าในอนาคตแนวโน้มของคนที่เป็นแบบนี้จะเยอะมากด้วย



ทำไมถึงใช้ชื่ออัลบั้มว่า ผู้หญิงยิ่งกว่าละคร

ปาน : เราต้องรู้ว่าในปัจจุบันสิ่งที่เราเห็นใน MV หรือในละครนั้น จริงๆ แล้วในความจริงแล้วชีวิตจริงมันมากกว่านั้น ละครไม่สามารถถ่ายทอดได้หมดด้วยซ้ำ แต่บางอย่างมันเอาออกมาเป็นข่าวไม่ได้ เพราะอาจจะไปเป็นทางชี้นำให้กับบางคนคิดว่าสิ่งที่เห็นมันคือสิ่งที่ถูกต้อง คิดว่าทำแบบนี้แล้วดี ทำแบบนี้แล้วได้มาซึ่งชัยชนะ



อย่างพี่แต่ก่อนไม่เชื่อนะว่าคนเรามันจะร้ายกันได้ขนาดนั้นเลยเหรอ ทั้งวางยาพิษ ใส่ร้ายกัน แต่จริงๆ มันมีกันมาตั้งนานแล้วและมันมีมากกว่านั้นด้วยซ้ำ ว่าการที่คนๆ นึงต้องการจะได้มาซึ่งอะไรซักอย่างมันสามารถทำอะไรได้บ้าง อัลบั้มนี้ถึงออกมาให้เรารู้ว่าปัจจุบันเราใช้ชีวิตกันยังไง เราอาจจะไม่ได้มองตัวเองด้วยซ้ำ เพราะเราไม่รู้ทันใจตัวเองว่าจริงๆ แล้วเราใช้ชีวิตนี้ด้วยการเล่นละคร สุดท้ายเราก็ต้องกลับมาดูตัวเองว่าเราใช้ชีวิตยิ่งกว่าละครหรือเปล่า เรามีชีวิตแบบนั้นนะ แต่เราไม่รู้ว่าการอยู่คนเดียวนั่นแหละคือตัวตนที่แท้จริงว่าเรา เราจะรู้ว่าเราเป็นคนแบบไหน หรือคิดอะไร เหมือนเวลาที่เราอยู่กับหมาแมว หรืออยู่กับอะไรที่ตอบโต้เราไม่ได้นั่นแหล่ะคือตัวตนของเราจริงๆ แต่เมื่อเราก้าวย่างออกจากบ้านแล้วเนี่ยความเป็นตัวตนของเราจะลดลง 50 % เพราะทุกคนต้องการยอมรับใช่ไหม ไม่ว่าจะทางใดก็ตามแม้เราจะยอมฝืนใจตัวเอง เพราะเรากลัวการที่จะถูกรังเกียจ กลัวการที่ไม่ถูกรัก ชุดนี้ก็เลยสรุปได้เลยว่าผู้หญิงปัจจุบันใช้ชีวิตกันแบบนี้ ชีวิตที่เป็นยิ่งกว่าละคร



ดูเหมือนพี่ปานจะพอใจกับชื่ออัลบั้ม

ปาน : มันชัดเจนนะคะ อย่าง สัญชาตญาณหญิง นี่ก็ชัดเจน แต่มันเป็นแค่ความรู้สึกแวบแรกที่ถูกผลักออกไป แต่คำว่า ผู้หญิงยิ่งว่าละคร ด้วยบทเพลงที่มันวางมาทั้ง 10 เพลงเนี่ย บางครั้งมันเป็นละครซ้อนละคร อย่างในอัลบั้มจะมีเพลงชื่อ ผู้หญิงยิ่งว่าละคร เลย มันเป็นการพูดถึงความรัก การที่ผู้หญิงต้องทำอะไรเพื่อผู้ชายคนนึงมากมายเหลือเกิน สุดท้ายแล้วมันก็คือการแค่อยากอยู่ข้างคนที่เรารักและเราก็แค่ต้องการการยอมรับ เราไม่เคยยอมใครแต่ทำไมเราต้องยอมเธอเพราะอะไร เหมือนเวลาที่เราต้องการให้ผู้ชายคนนึงรักเรา เราก็ต้องยอมทำทุกอย่าง แล้วเพลงนี้เป็นเพลงนึงที่มันสะท้อน และชัดที่สุดในอัลบั้ม



พูดถึงเพลงโปรโมทเพลงแรก เบอร์นี้..ไม่มีคนของเธอ

ปาน : เราต้องมองก่อนว่า เราอยู่ในยุคของการสื่อสารเป็นหลักนะคะ ใครจะมานั่งนึกว่าเดี๋ยวนี้ ทุกคนอยากได้ริงโทนแปลกๆ เสียงรอสายที่เป็นเพลงโดนๆ มันเป็นโลกของยุคที่เป็นโทรศัพท์ แล้วก็มีใครหลายๆ คนใช้โทรศัพท์ ในการทำอะไรหลายๆ อย่างให้ชีวิตตัวเองดำเนิน และนี่ก็เป็นอีก 1 เพลงที่พี่สะท้อนให้เห็นว่ามันมีคนแบบนี้จริงๆ



คนที่รู้น่ะว่าผิดแต่จะทำ รู้ว่าเขามีเจ้าของก็จะเอา มันมีให้เห็นจริงๆ แล้วมันก็เยอะขึ้นด้วยในความรู้สึกพี่นะคะ เพราะฉะนั้นเพลงนี้มันก็จะตอบโจทย์ได้ค่ะว่า เดี๋ยวนี้การสื่อสารก็เป็นเรื่องน่ากลัว ไม่ว่าจะเป็นทาง hi5 ก็ดี หรืออะไรก็ดี ทุกอย่างเป็นช่องทางให้คนที่มีจิตเป็นอกุศลอยู่แล้วเนี่ย สามารถใช้เป็นช่องทางทำอะไรผิดๆ ได้โดยไม่รู้ตัวและมันก็เป็นช่องทางที่ชัดเจนที่สุด ณ วันนี้นะคะ



คือทุกคนไม่มีเวลามานั่งเล่นอินเตอร์เน็ตทั้งวัน แต่ทุกคนมีโทรศัพท์ติดตัว เพราะฉะนั้นโทรศัพท์เนี่ยแหล่ะคือสิ่งที่ที่ทำให้คนทำผิดโดยไม่รุ้ตัว ทำให้คนที่อยากจะสนองหัวใจของตัวเอง อย่างรู้สึกคิดถึงเดี๋ยวนี้จะโทรเดี๋ยวนี้โดยไม่สนใจว่าเขามีเจ้าของ นี่มันคือช่องทางเล็กๆ น้อยๆ คือคนโทรอาจจะคิดว่าแค่โทรมา แค่คิดถึง ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดอะไรนักหนา ฉันแค่แสดงความรู้สึกว่าฉันชอบเขา ถึงคุณจะมีเจ้าของแล้ว มันคือการแสดงออกของคนที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี โดยใช้สิ่งที่มีอยู่แล้วทุกคนเป็นเครื่องมือ



เป็นเพลงของผู้หญิงบอกกับผู้หญิง

ปาน : ใช่ค่ะ เป็นเพลงที่ผู้หญิงบอกกับผู้หญิง หรืออาจจะเป็นเพลงที่ให้ผู้ชายบอกก็ได้ คือทุกคนใช้ได้หมดค่ะ เพราะทุกคนมีมือถือ ทุกคนใช้การสื่อสารชนิดนี้ ซึ่งไวน้อยลงมากว่าโทรจิตนิดนึง



พูดถึงแต่ผู้หญิงมาหลายอัลบั้มแล้ว รู้สึกเริ่มตันบ้างไหมกับเนื้อหาของเพลง

ปาน : ปานว่าเรื่องของผู้หญิงไม่มีทางตันหรอกค่ะ มันอยู่ที่ว่าเราจะไปเจอแง่มุมไหนมากกว่า เวลาที่เราเดินทางไปก็เคยเจอแบบว่าที่เขาเสียสละมากๆ จนเรารู้สึกว่าไปบวชเถอะถ้าเสียสละได้ขนาดนี้ อย่างพี่คิดในแง่ว่าถ้าเสียสละมากๆ ก็อย่าอยู่ให้อีกฝ่ายนึงทำบาปสำเร็จเลยนะคะ ก็ควรตัดเลยดีกว่า เพราะพี่รู้สึกว่าคนที่รักกันไม่ทำร้ายกันหรอก แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่คนรักกันทำร้ายกันเค้าเรียกว่าไม่ได้รัก แม้แต่ใน hi5 บางคนเจอแฟนจับได้ ก็แก้ตัวว่าฉันไม่ได้มีความสัมพันธ์ซะหน่อย ฉันก็แค่คุย แต่คุณลองคิดดูให้ดีนั่นก็คือการนอกใจชนิดนึงนะ



คิดกลับกัน ถ้าแฟนคุณทำแบบนี้ล่ะ คุย hi5 แล้วสานสัมพันธ์นู่นนี่ต่อ คุณแน่ใจได้ยังไงว่า มันจะไม่เกิดเรื่องใหญ่ไปกว่านี้ นั่นก็คือการนอกใจชนิดนึงแต่ชอบหาอะไรมาเป็นข้ออ้างไง และอย่าหาอะไรมาบัญญัติเลยค่ะไม่ว่าจะแค่กิ๊กหรือแค่คนรู้จัก หรือจะมาบอกว่าเขาชอบเรา แต่เราไม่ชอบเขา อย่างนั้นก็ต้องชัดเจนเพื่อไม่ให้เป็นการให้ความหวังเขา อย่ากั๊ก คนบางคนชอบให้คนมาห้อมล้อม คนนี้ก็รัก คนนี้ก็หลง ซึ่งบางคนเป็นแบบนั้นไง



การรักใครซักคนเราควรจะต้องทำให้เขาสบายใจไหม ซึ่งคนบางคนเกิดมามีเสน่ห์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่เวลาที่คุณรักใครสักคนคุณต้องป้องกันตัวเอง ต้องข่มใจตัวเองนะคะ ไม่ว่าใครก็ต้องคิดถึงคนที่เรารักมาก่อน คือรักเขาและต้องรักตัวเองด้วยไง อย่าให้ตัวเองทำผิด



มุมมองความรักของผู้หญิงชื่อ ปาน ธนพร

ปาน : ถ้ามุมที่พี่มอง คนเราพร้อมที่จะทำผิดได้ทุกนาทีนะคะ เขาเรียกว่าใจมันเพลิดไป เวลาที่เรามองว่าอยู่ใกล้มากๆ คนนี้มีเสน่ห์ แต่สุดท้ายแล้วเราต้องนึกถึงคนที่เราบอกว่ารักเนี่ยเป็นอันดับหนึ่ง ต้องไม่ปล่อยให้ตัวเองทำผิด ถ้าคุณรักตัวเองคุณต้องไม่ปล่อยให้ตัวเองทำผิด เมื่อไหร่ที่คุณรักตัวเองคุณก็จะรักคนอื่นได้มาก



แล้วชีวิตรักของปาน เป็นอย่างไรบ้าง

ปาน : ก็ยังดำเนินไป ยังมีความเป็นเพื่อนอยู่ครึ่งๆ เพราะเรามีหน้าที่ และเป็นภาระหนักด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งเราก็ต้องทำความเข้าใจในกันและกันสูง ต้องแบ่งช่องว่างให้กันและกันบ้าง ต้องมีพื้นที่ให้กันบ้าง อย่าไปตามกันให้มากอะไรแบบนี้ เพราะเขามีความเป็นตัวของตัวเอง เราก็มีความเป็นตัวของตัวเองด้วยเหมือนกัน



พี่ค่อนข้างซีเรียสกับความรักนะคะ เพราะมันเป็นเรื่องที่ใหญ่มากในชีวิตมนุษย์ บางทีคำว่ารักมันต้องอาศัยหลายๆ อย่าง ต้องอาศัยความเข้าใจ จุนเจือ เอื้อเฟื้อ อย่างพี่เคยฟังมาเยอะนะคะว่า อยู่ด้วยกันแรกๆ ความรักมันก็จะดีนะคะ แต่พออยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ แล้วเนี่ย ความรักมันจะไม่ปรากฏเป็นสิ่งแรกให้เห็นนะ มันจะกลายเป็นอยู่ด้วยกันแล้วใครเสียสละให้กันมากน้อยมากกว่า อย่างเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในบ้าน เรื่องการเงิน หรืออย่างเช่นกินข้าวเสร็จมื้อนี้ใครจะล้างอะไรแบบนี้



ฟังเพลงปาน อัลบั้ม ผู้หญิงยิ่งกว่าละคร ที่นี่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook