สัมภาษณ์ Busted ถึงการทำเพลงกับศิลปินนับสิบฉลอง 20 ปี และโอกาสจัดคอนเสิร์ตในไทย | Sanook Music

สัมภาษณ์ Busted ถึงการทำเพลงกับศิลปินนับสิบฉลอง 20 ปี และโอกาสจัดคอนเสิร์ตในไทย

สัมภาษณ์ Busted ถึงการทำเพลงกับศิลปินนับสิบฉลอง 20 ปี และโอกาสจัดคอนเสิร์ตในไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Busted เผยถึงเหตุผลที่ชวนศิลปินนับสิบมา featuring ในเพลงเก่าของตัวเอง เพื่อปล่อยอัลบั้มฉลองครบรอบ 20 ปีอย่างน่าสนใจ

ปี 2023 เป็นปีที่ครบรอบ 20 ปีของวง Busted และวงป็อปร็อคที่มีกลายอายพังค์จากเกาะอังกฤษวงนี้ก็เลือกที่จะฉลองด้วยการปล่อยอัลบั้มใหม่ที่หยิบเอาเพลงดังเพลงเดิมของตัวเองมาทำใหม่ ด้วยการชวนเพื่อนๆ ศิลปินมาร่วม featuring ด้วย ทำไมพวกเขาถึงเลือกฉลองครบรอบ 20 ปีของวงด้วยวิธีนี้ Sanook ได้พูดคุยผ่าน email interview กับพวกเขาทั้ง 3 คน James Bourne, Matt Willis และ Charlie Simpson เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สัมภาษณ์ Busted ถึงการทำเพลงกับศิลปินนับสิบในอัลบั้มฉลอง 20 ปี

bustedgreatesthitsdigicov

สวัสดี Busted! ก่อนจะเข้าสู่คำถาม ช่วยอัปเดตชีวิตของพวกคุณหน่อยว่าแต่ละคนเป็นยังไงกันบ้าง ตั้งแต่ช่วงที่วงรียูเนียนในปี 2019 จนถึงตอนนี้ได้ทำอะไรกันบ้าง

Matt: ยุ่งมากเลยครับ มีอะไรหลายๆ อย่างเกิดขึ้นมากมาย ทั้งที่มี COVID-19 และแต่ละคนก็มีโปรเจกต์ส่วนตัวกันไป James ประสบความสำเร็จกับมิวสิคัล Loserville ส่วน Charlie ก็เพิ่งชนะรายหาร The Masked Singer ของอังกฤษ มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายจริงๆ ครับ

ไอเดียของการฉลองครบรอบวง 20 ปีด้วยการปล่อยอัลบั้มที่เรียบเรียงเพลงตัวเองใหม่ พร้อมชวนเพื่อนศิลปินมาร่วมแจมด้วยมากมายแบบนี้ ใครเป็นคนต้นคิด หรือไอเดียนี้ได้มายังไง เพราะมันเป็นไอเดียที่น่าสนใจมากเลย

Charlie: พวกเราเห็นตรงกันว่าไม่อยากจะปล่อยอัลบั้ม Greatest Hits ออกมาเพราะมันธรรมดาเกินไปครับ เพราะเดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ทำอัลบั้ม Greatest Hits ด้วยตัวเองได้แต่ทำเพลย์ลิสต์ในแอปฯ สตรีมมิง เพราะฉะนั้นเราควรทำอะไรที่มันพิเศษกว่าเดิม แล้วพวกเราก็คิดุถึงไอเดียเอาเพลงดังๆ ของพวกเราเมื่อก่อนมาทำเป็นเวอร์ชั่นใหม่ แล้วชวนศิลปินที่พวกเราชื่นชม และคิดว่าแฟนๆ ของพวกเราก็น่าจะชอบ มาร่วมทำเพลงด้วยครับ

แล้วในแต่ละเพลง พวกคุณมีวิธีจับคู่เพลงกับศิลปินแต่ละคนยังไงบ้าง เช่น เพลง “Year 3000 2.0” ฟีทกับ Jonas Brothers, “Loser Kid 2.0” ฟีทกับ Simple Plan รวมถึงศิลปินที่ค่อนข้างเซอร์ไพรส์อย่าง “3AM 2.0” ฟีทกับ James Arthur และ “Sleeping With The Light On 2.0” ฟีทกับ Deaf Havana แต่ละคนมาทำเพลงกับพวกคุณได้ยังไง

James: กับ Jonas Brothers นี่แทบไม่ต้องคิดเลยครับ เพราะเมื่อ 2-3 ปีก่อนพวกเราประสบความสำเร็จกับการปล่อยเพลง “Year 3000” ในเวอร์ชั่นของพวกเขาไปแล้วที่อเมริกา เพราะฉะนั้นการได้พวกเขามาร่วมกันทำเพลงนี้ด้วยกันกับพวกเราอีกครั้งเลยเป็นอะไรที่วิเศษมากๆ ถ้าไม่ได้ Jonas Brother มา พวกเราคงปล่อยเพลงนี้โดยไม่มีศิลปินมาฟีทด้วยแน่ๆ

Matt: สำหรับเพลงอื่นๆ พวกเราพยายามดูเสียงของศิลปินว่าเข้ากันกับแต่ละเพลงไหม เสียงของ James Arthur ดีมากๆ และผมคิดว่าเสียงของเขาเข้ากันได้ดีกับเสียงของ Charlie ในเพลง “3AM” ได้ดี เลยออกมาเป็นเสียงร้องที่ปังสุดๆ เลยครับ

 

ทำไมถึงเลือกทำเพลง “MmmBop 2.0” กับวง Hanson ด้วย ทำไมถึงเลือกเพิ่มเพลงที่ไม่ใช่เพลงของตัวเองลงในอัลบั้มครบรอบ 20 ปีของวงตัวเอง

James: Hanson เป็นฮีโร่ของผมเลยครับ เพลง “MmmBop” เป็นเพลงที่ฮิตไปทั่วโลก และเป็นเพลงดังประจำยุคนั้น การได้ร่วมทำเพลงนี้กับพวกเขาจึงเป็นอะไรที่วิเศษมากจริงๆ แล้วตอนนี้เราก็ได้พวกเขามาร่วมทัวร์คอนเสิร์ตไปทั่วเกาะอังกฤษ และไอร์แลนด์ในฐานะศิลปินรับเชิญพิเศษ ซึ่งมันยิ่งดีมากๆ เหมือนฝันเป็นจริงเลยครับ

 

เพลงไหนที่น่าจดจำ หรือท้าทายที่สุดในการนำมาทำใหม่เวอร์ชั่น 2.0 ในครั้งนี้

Charlie: สำหรับผมคือ เพลง “Everything I Knew” ที่ทำกับวง Dashboard Confessional เพราะผมโตมากับการฟังเพลงของพวกเขา ดังนั้นผมจึงรู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ที่พวกเขาตอบรับว่าจะทำเพลงกับพวกเราครับ

สำหรับเพลง “Thunderbirds Are Go 2.0” ที่ทำร่วมกับ McFLY ก็เป็นเพลงที่น่าตื่นเต้นที่จะได้ลองฟัง เพราะพวกคุณสองวงสนิทกันมาก ทำงานด้วยกันมาหลายครั้ง และเคยออกอัลบั้ม และทัวร์คอนเสิร์ตด้วยกันในชื่อ McBusted ด้วย เพราะฉะนั้นในครั้งนี้เพลง “Thunderbirds Are Go 2.0” จะแตกต่างจากการร่วมงานในครั้งก่อนๆ ของ Busted และ McFLY อย่างไรบ้าง

Matt: พวกเรารู้จักกับ McFLY เป็นอย่างดี ลูกๆ ของผมและ Tom (McFLY) เรียนโรงเรียนเดียวกัน เราสองคนเลยมักจะนั่งคุยที่สนามเด็กเล่นหลังจากส่งลูกไปโรงเรียนเสร็จ เพลง “Thunderbirds Are Go” เป็นเพลงที่พิเศษมากสำหรับพวกเรา และ McFLY ก็ดังพลังของพวกเขามาใส่ในเพลงนี้อย่างเต็มที่ จนออกมาเป็นผลงานที่ดีมากๆ ครับ

นอกจากการได้คอแล็ปกับศิลปินมากมายแล้ว เพลงในอัลบั้มนี้ที่ทำเป็นเวอร์ชั่น 2.0 มีความพิเศษอย่างไรบ้าง

Matt: พวกเราหยิบเพลงเก่าๆ ของพวกเรามาทำเหมือนพวกเราเพิ่งได้ฟังเพลงเหล่านี้เป็นครั้งแรกในปี 2023 ครับ คล้ายๆ กับที่พวกเราเล่นเพลงพวกนี้ในเวอร์ชั่นสดตอนนี้บนเวที เสียงร้องของพวกเราก็เปลี่ยนไปเยอะเลยตามกาลเวลาที่ผ่านมา ตอนนั้นพวกเรายังเป็นวัยรุ่น แต่ตอนนี้พวกเราก็อายุมากกว่าเดิม 20 ปี แฟนๆ ของพวกเราก็โตตามพวกเรามาด้วย ผมเลยคิดว่าเพลงเก่าเวอร์ชั่นใหม่นี้แฟนๆ น่าจะชอบกันได้ไม่ยากครับ

หลังจากได้เอาเพลงเก่ามาทำใหม่เป็นอัลบั้ม Greatest Hits 2.0 พวกคุณได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับตัวเองบ้างไหม ทั้งอายุ ฝีมือการทำเพลง เสียงร้อง ไอเดียในการโปรดิวซ์เพลง และอื่นๆ

Charlie: แน่นอนครับ! ตอนนี้พวกเราทำเพลงเองได้เกือบทุกอย่างแล้ว แต่ก่อนพวกเราอาจจะมีประสบการณ์ไม่มากพอ หรือไม่ว่างพอ (เพราะตอนนั้นตารางงานของพวกยุ่งจัดจริงๆ) บางครั้งพวกเราไม่ได้เล่นกีตาร์เองในบางเพลงตอนอัดอัลบั้มด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้พวกเราทำเองทุกอย่างทุกขั้นตอนเลยครับ

เท่าที่ทราบมา Busted ยังไม่เคยมีเอเชียทัวร์เลย คราวนี้พวกคุณมีแผนจะทัวร์คอนเสิร์ตในเอเชียบ้างไหม

James: ปีหน้าพวกเราจะมีทัวร์คอนเสิร์ต และจะพยายามไปในที่ต่างๆ ทั่วโลกให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ประเทศไทยก็เป็นประเทศที่พวกเราอยากไปมากๆ เลยครับ

ถ้าพูดถึงประเทศไทย จะนึกถึงอะไรเป็นสิ่งแรก มีใครเคยมาเมืองไทยบ้างไหม

Matt: ผมเพิ่งไปเมืองไทยมาในปีนี้เลยครับ ภรรยาของผมเซอร์ไพรส์ผมด้วยทริปเที่ยวไทยฉลองวันเกิดอายุ 40 ปีของผมเอง ผมสนุกมากครับ ผมรักประเทศไทยมากๆ และอยากจะกลับไปอีกแน่นอนครับ 

สุดท้าย ฝากอะไรถึงแฟนๆ ชาวไทยหน่อย

Charlie: พวกเราอยากบอกทุกคนว่า ขอบคุณมากๆ เลยครับที่สนับสนุนพวกเรามาตลอด 20 ปีที่ผ่านมา Busted จะมาถึงวันนี้ไม่ได้จริงๆ ถ้าขาดพวกคุณไป พวกเราจะมีทัวร์คอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 20 ปี ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากๆ ส่วนใครก็ตามที่เพิ่งชอบ Busted ก็ขอต้อนรับนะครับ! พวกเราอยากเจอพวกคุณมากๆ และหวังว่าจะเราจะได้เจอกันที่ประเทศไทยเร็วๆ นี้นะครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook