D2B ETERNITY CONCERT คืนที่ “เทคโนโลยี” กับ “สตาร์” และ “มิตรภาพ” ฝังใจยากจะลืม

ทุกครั้งที่ แดน-วรเวช ดานุวงศ์, บีม-กวี ตันจรารักษ์ และ บิ๊ก-ปาณรวัฐ กิตติกรเจริญ อยู่บนเวทีคอนเสิร์ตใหญ่ ทั้ง 3 จะได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม และในวันที่สถานการณ์โควิด-19 ใกล้ภาวะปกติ ทำให้ COOLfahrenheit ร่วมกับ อำพลฟูดส์ Present D2B ETERNITY CONCERT 22 ปีนับตั้งแต่วันที่ฉันรักเธอ ได้เกิดขึ้นในที่สุด 

D2B ETERNITY CONCERT

ด้วยความที่งาน D2B Infinity Concert 2019 และ D2B Infinity Fun+ 2020 นั้นเต็มอิ่มสุดๆ ทำให้เราอยากรู้ว่างานครั้งใหม่ จะมีอะไรเกิดขึ้น ทั้งเทคโนโลยีในการพาบิ๊กมาหาทุกคน รวมถึงสคริปต์และการตีความทุกเพลง เพราะงานครั้งก่อนหน้านั้นเต็มไปด้วยความเต็มอิ่มแล้ว แต่ขณะเดียวกันเวลา 3 ปีก็น่าจะทำให้ทางวงและผู้จัดได้ไอเดียและไอเท็มใหม่ๆ มาเล่นบนเวที 

สำหรับคอนเสิร์ตรอบ 2 ได้เริ่มในเวลา 17.30 น. เมื่อ แดน กับ บีม ได้ลงมาจากแคปซูลด้านบน และมีอีกแคปซูลที่มีบิ๊กฉายอยู่ลงตามมา ก่อนที่เราจะได้เห็นทั้ง 3 กับเพลง “ไม่เปลี่ยนใจ (เธอคนเดียว)”, “ซ่าส์..(สั่นๆ)” และ “อยากให้เธอกัด” และเข้าช่วงเพลงช้า แต่มีอารมณ์ขัน เมื่อแฟนๆ ได้ฟังเพลง “เธอรักคนอื่น (จริงหรือเปล่า)” กับ “รักก็ได้...ไม่รักก็ได้” หลังแดนกับบีมได้พร้อมใจกันแซวถึง Sniper หรือแฟนคลับในโซเชียลที่แม้จะบอกรัก D2B แต่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อบัญชีใน Twitter ตามศิลปินเคป็อปและนักแสดงวัยรุ่นดังๆ จนเกิดเสียงหัวเราะ 

และในพาร์ทที่เพิ่มเข้ามา คือพาร์ทออดิชั่น ที่เราได้เห็น บีม-แดน-บิ๊ก ร้องเพลงที่ตัวเองออดิชั่น หลังแดนย้อนความทรงจำของพี่ๆ และตัวเองในช่วงออดิชั่น ฟอร์มวง และการที่พวกเขาเคยเกือบเป็นวง PHOENIX โดยโชว์เริ่มจากบีมที่ร้องเพลง “คนแรก” ของ เจมส์ เรืองศักดิ์ พร้อมกลุ่มคอรัสเด็ก และ แดน มากับเพลง “ลาก่อนเธอ” ของ ดัง พันกร ในโหมดดาร์คก่อนที่แฟนๆ จะได้เห็นบิ๊กในจอกับเพลง “เพียงจำไว้” ของ โดม ปกรณ์ ลัม พร้อมกีตาร์ และจากนั้นก็เป็นพาร์ทแขกรับเชิญคนแรกอย่าง The TOYS (ธันวา บุญสูงเนิน) ที่มาร่วมร้องเพลง “ใกล้” และ “ลาลาลอย (100%)” หลังจากที่แดนบีมเคยแต่งตัวแบบเขาในงาน D2B Infinity 2019 ซึ่งงานนี้ทอยได้ถูก แดน บีม ปล่อยให้พูดคุยกับแฟนๆ จนทอยต้องขอให้เปิด VTR ของ โฟร์-ศกลรัตร์ วรอุไร แขกรับเชิญวันแรก 

D2B ETERNITY CONCERT

และอีกเซอร์ไพรส์ที่ตามมาก็คือ หลังแซวเรื่องความชอบเคป็อปของแฟนคลับ แดนกับบีม ก็มากับเพลง “Ditto” ของ NewJeans พร้อมการจำลองห้องเรียนแบบเอ็มวีต้นฉบับ ก่อนที่บรรยากาศคุ้นเคยจะกลับมาในเพลง “ต่อหน้าฉัน (เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร)”, “จะโกหกกันไปถึงไหน” และ “หึง” ที่มากับการปรากฎตัวเดี่ยวๆ ของบิ๊ก และจากนั้นก็เป็นเพลง “ในมุมหนึ่ง” และ “รู้ทั้งรู้” ที่แขกรับเชิญอีกคนอย่าง อ้อน-ลัคนา หวงมณีรุ่งโรจน์ มาร่วมแจม และอ้อนก็ได้ร้องเพลง “คนนิสัยเสีย” ของตัวเองกับแดนและบีมด้วย

D2B ETERNITY CONCERT

จากนั้นก็เป็นพาร์ท VLOG ที่ทั้ง 2 คนมาเล่าถึงความทรงจำในสมัยทัวร์ แต่ยังไม่มีโซเชียล ด้วยการจำลองว่าถ้าพวกเขามี VIDEO BLOG ในยุคนั้น มันจะหน้าตาแบบไหน โดยระหว่างการแสดงและเล่าเรื่องก็มีการโชว์เพลงคั่น “ที่ดูว่าผมหยิ่ง ที่จริงน่ะผมอาย”, “โสด”, “คิดมาก”, และการสุ่มเพลงที่คนดูอยากฟังทั้ง “ไม่ซื้อ”, “เรื่องจริง” และมีการแถมเพลง “ถ้าเทียบกับใจฉัน” กับ “ปาฎิหารย์ครั้งสุดท้าย” ด้วย ซึ่งพาร์ทนั้นมีการพูดคุยกับคนดังที่อยู่ในฮอลล์อย่าง เจนนี่ ปาหนัน และ แก้ม วิชญาณี กับลัคกี้แฟนที่จับชื่อเพลงด้วย และจากนั้นก็มีเมดเล่ย์เพลงแอโรบิคที่มี “โอมจงรวย” ผลงานไวรัลดังของ พัด ชนุดม ปิดท้าย ก่อนจะตามด้วยพาร์ทที่แดนร้องเพลง “HONEY LATTE” ของตัวเอง ตอนที่บีมทำเครื่องดื่มให้แฟนๆ และอีกเซอร์ไพรส์อย่างการที่บีมเล่นระนาดเพลง “ตามหาหัวใจ” ร่วมกับแดนที่ร้องเพลง 

D2B ETERNITY CONCERT

ปกติแล้วแฟนๆ ที่ฟังเพลงแดน-บีม ในคอนเสิร์ต D2B จะได้ฟังเวอร์ชั่นแดนกับบีม แต่งานครั้งนี้ทุกคนกลับได้ยินเพลง “เวลาไม่เคยพอ”, “ใต้หมอน” ที่มีเสียงของ D2B ทั้ง 3 คน และเพลง “ใช้เบอร์เดิม” เวอร์ชั่นเพิ่มท่อนแร็ปแบบพิเศษของ แดน-บีม และยังมีพาร์ทการแร็ปในเสียงของบิ๊ก จนแฟนๆ กรี๊ด โดยท่อนแร็ปของบิ๊กได้มากับเนื้อภาษาอังกฤษด้วย และตามด้วยเพลง “อยากเป็นคนนั้น (ในใจเธอ)” ที่ปูส่งต่ออย่างสวยงามให้กับเพลง “คนใจอ่อน (อ่อนใจ)” ที่เป็นเพลงประจำตัวบิ๊ก

ช่วงท้ายของงานก็เป็นการเข้าสู่เพลงเร็วอย่าง “CIA(ค้นใจ)”, “คิดถึงตามระเบียบ (เรียบร้อยโรงเรียนเธอ)”, “ไปน่ารักไกลๆหน่อย” และ “Call Me Daddy” กับ “แช่แวบ(ไม่อยากเป็นพระ)” ก่อนที่จะถึงช่วงท้ายที่เราได้ฟังเพลง “แค่หนึ่งนาที” และฟังความในใจของ 2 หนุ่มที่มองว่างานครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้าย และอาจจะไม่ได้เกิดอีกเร็วๆ นี้ ก่อนถึงโชว์เพลง “ไม่มีเธอวันนั้น..ไม่มีฉันวันนี้” พร้อมภาพข้อความจากหนุ่มที่ถูกโปรยลงมาจากด้านบน และช่วงอังกอร์ที่เป็นเพลง “ตั้งแต่วันที่ฉันรักเธอ” 

ในงานครั้งนี้ D2B ทั้งบีมและแดน ก็เอาอยู่สุดๆ ด้วยเสียงสดที่เต็มไปด้วยพลัง การเอนเตอร์เทนและมุกแพรวพราว ซึ่งนอกจากจะเป็นมุกที่สุภาพแล้ว ยังมีการดึงแฟนๆ เข้ามามีส่วนร่วมอย่างดี ซึ่งนี่ยังไม่นับพาร์ทการเต้นและโชว์อื่นๆ อีก เรียกได้ว่าพวกเขาเติบโตจากทีนไอดอลสู่สตาร์ขวัญใจมหาชนหลายวัยได้อย่างสมบูรณ์ โดยจุดที่เราชอบสุดคือการใช้ Running Gag หรือมุกที่เป็นธีมอย่างความที่แฟนๆ ของวงไปชอบศิลปินอื่น โดยสองหนุ่มเอาเรื่องนี้มาแซวเรื่อยๆ ในแบบไม่ซ้ำทางเดิมทั้งงาน ทั้งตอนงัดหลักฐานจากทวิตเตอร์ การเล่นโจ๊กกับเพลง “ใช้เบอร์เดิม” ให้แฟนๆ ติดต่อกลับมาหาได้เสมอ รวมถึงการทำเป็นเข้าใจว่าแฟนๆ มีหน้าที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองต่างแดน ก่อนจะทิ้งท้ายว่า D2B จะรักทุกคนเสมอไม่ว่าแฟนๆ จะอยู่ที่ไหน และอินกับศิลปินคนไหนนอกเหนือจากพวกเขา 

D2B ETERNITY CONCERT

ส่วนพาร์ทที่ไม่ธรรมดาของงานครั้งนี้ คือเทคโนโลยีในการนำบิ๊กมาอยู่บนเวที ซึ่งแฟนๆ ได้เห็นเขาร้องและพูดกับแฟนๆ ภายใต้กราฟฟิคหลากหลายรูปแบบตลอดงาน จนหลายคนอดหลั่งน้ำตาไม่อยู่ โดยคนที่เราต้องขอบคุณสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือแดนที่บันทึกเสียงบิ๊กด้วยตัวเอง และพยายามเก็บรายละเอียดของพี่ชายที่เขารักอย่างดีที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยพาร์ทโปรดักชั่นงานครั้งนี้ได้ทำให้ภาพของบิ๊กออกมาสมบูรณ์มากเมื่อเทียบกับงานก่อนหน้านี้

สำหรับสคริปต์งานครั้งนี้ แม้งานครั้งก่อนจะมีความประทับใจจนเรายกให้เป็นคอนเสิร์ตในดวงใจ แต่งานครั้งนี้ก็ยังคงสร้างความประทับใจในอีกรูปแบบที่ดีไม่แพ้กัน โดยมีพาร์ทเคป็อป พาร์ทแซวแฟนๆ ไปจนถึงการย้อนวันวานที่ไม่ได้อยู่ในคอนเสิร์ตก่อนหน้า และการทำ VLOG ก่อนจะตามด้วยเพลงเร็วและการปิดท้ายงานด้วยความซึ้ง ซึ่งความสามารถของ แดน กับ บีม ก็ทำให้ทุกสิ่งที่อยู่ในสคริปต์เกิดขึ้นได้ตามภาพที่วางไว้ แต่ขณะเดียวกันการแสดงที่ยาวถึง 4 ชั่วโมง และการพูดคุยก็ทำให้เรามองว่าคอนเสิร์ต D2B คือพื้นที่ที่เหมาะกับคนที่รักวงจริงๆ และอยากเก็บทุกนาที เพราะสำหรับบางคนที่ไม่ได้ตามวง อาจจะมีช่วงที่ทำให้รู้สึกยืดยาว

D2B ETERNITY CONCERT

ทางด้านโปรดักชั่น RS ก็ยังคงจัดเต็มสุดๆ ทั้งจอภาพ แคปซูล และทีมแดนเซอร์ ไปจนถึงกราฟฟิคบนจอที่เราบอกเลยว่า นี่คือคอนเสิร์ตที่ภาพกราฟฟิคสวยและจัดเต็มสุดๆ งานหนึ่งที่เราเคยชมเลย เพราะทุกเพลงแทบไม่มีภาพซ้ำ และตอน VLOG ก็มีการจำลองสถานที่ที่วงได้ไปอย่างรวดเร็วและลื่นไหลมาก แถมช่วงท้ายก็มีกระดาษโปรยที่ระลึก ซึ่งนอกจากที่กล่าวมางานนี้ก็มีแท่งไฟให้แฟนๆ และโปสเตอร์อีกด้วย และตัวซาวด์ดนตรีก็ออกมาดี จนเราขอขอบคุณผู้จัดและสปอนเซอร์ที่ลงทุนใส่เต็มกับงานขนาดนี้ 

D2B ETERNITY CONCERT

แม้ว่า แดน บีม จะมองว่างาน D2B ETERNITY CONCERT 22 ปีนับตั้งแต่วันที่ฉันรักเธอ จะมองว่างานครั้งนี้อาจจะเป็นคอนเสิร์ตทิ้งทวน แต่เรามองว่าสำหรับแฟนๆ แล้ว ทุกคนยังพร้อมดูการแสดงของพวกเขา และเราเชื่อว่าเทคโนโลยี กับไอเดียใหม่ๆ บวกกับสิ่งที่พวกเขามี น่าจะทำให้งานครั้งต่อไปมีความพิเศษยิ่งขึ้นไปอีก