Summer Stop เส้นทาง 5 ปีสู่อัลบั้มแรกที่มาพร้อมความแตกต่าง!
หลังจากที่ห่างหายจากการปล่อยเพลงไปถึงสองปี ล่าสุดวงดนตรีสุดเท่ Summer Stop ก็กลับมาพร้อมอัลบั้มเต็มชุดแรก และสามเพลงโปรโมตที่ปล่อยออกมาพร้อมๆกัน โดยหลังจากที่เปิดตัวอัลบั้มพวกเขาก็ได้มาเล่าถึงเบื้องหลังการทำงานของพวกเขาให้ทีมงาน Sanook! ได้ฟังกันด้วย
กลับมาคราวนี้ ทำไมคุณถึงตัดสินใจปล่อยสามซิงเกิ้ลพร้อมกัน
เอย Summer Stop : พวกเราหายไปนานมากจากซิงเกิ้ลที่แล้ว ปล่อยมันเอาไว้อย่างนั้น ประมาณเกือบสองปี ก็เลยอยากให้หายคิดถึง คือเรามี 16 เพลงในซีดี ก็อยากให้คนเห็นทิศทางอัลบั้ม เลยมองว่าเพลงเดียวมันไม่พอ ปล่อยสามเลยดีกว่า
ช่วงสองปีที่ผ่าน สมาชิกไปทำอะไรมาบ้าง
เอิง Summer Stop : ทำอัลบั้มกันตลอดครับ นอนเช้าตลอด (หัวเราะ) แต่จริงๆที่นอนเช้าเพราะเราเริ่มงานช้าด้วย ก็ทำอัลบั้มตลอดครับ มีไปเล่นคอนเสิร์ตบ้าง และทำเพลงอื่นๆ เพลงโฆษณา
เอย Summer Stop : จริงๆมันมีคิวที่ปล่อยซิงเกิ้ลได้ แต่เราอยากทำอัลบั้มให้เสร็จ ทางค่ายก็อยากให้เราปล่อยออกมาทีเดียวเลย ก็ยาวมาสองปีจนเป็นอัลบั้มเลย และก็รอคิวปล่อยเพลงจนได้คิว Summer Stop
ทั้งสามเพลงนี้มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร
เอย Summer Stop : ก็จริงๆตัวเนื้อเพลงไม่ได้แต่งพร้อมกัน แต่เราทำดนตรีให้มันมีสไตล์ชัดเจน และเราทำเอ็มวีที่มีเรื่องราวต่อกัน พระเอกนางเอกคู่เดียวกันทั้งสามเรื่อง เป็นแนวฝันซ้อนฝัน
เอิง Summer Stop : ถ้าดูใน YouTube ก็เป็น Playlist เลย เป็นเพลงที่เชื่อมโยงกัน แต่มุมมองแต่ละตัวละครครับ
เพลงแรกของอัลบั้ม "เจอหน่อย" เพลงนี้มีเนื้อหาพูดถึงอะไร
เอย Summer Stop : เพลงนี้มันมาจากช่วงที่เราเดินทางไปป่าไปต่างจังหวัดแล้วมีคนคอมเม้นต์ว่า สวยจัง อยากไปบ้าง ก็เลยคิดว่าเออหลายคนเขาไม่มีโอกาสได้ไปแบบนี้ เลยทำเพลงอยากชวนคนออกมาจากที่เดิมๆเผชิญโลก ไม่ต้องเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ มาทานข้าว แบบชวนออกมาเจอหน่อย
แล้วซิงเกิ้ลที่สองเพลง "ไปต่อ" มีเนื้อหาอย่างไร
เอย Summer Stop : ผมแต่งเพลงนี้ตอนคนรอบตัวมีปัญหาเยอะมาก แบบเรื่องงานและเงิน ก็เลยอยากแต่งเพลงให้กับคนที่เจอปัญหา จริงๆบางทีปัญหาบางอย่างแก้ไม่ได้จริงๆ เราอาจแค่ปล่อยวาง และรีเฟรชก่อนก้าวต่อไป ทิ้งปัญหาเก่าไปครับ
ได้ยินว่าเพลงนี้มีการใช้วิธีเรียบเรียง Australian Sound ด้วย พออธิบายได้ไหมว่ามันคืออะไร
แมว Summer Stop : มันเป็นการเรียบเรียง ที่ทำให้เสียงฉ่ำและกังวานจากการใส่ Reverb เข้าไป มันจะเป็นดนตรีที่นิยมในประเทศเขาครับ แบบงานเลี้ยงริมทะเล มีดนตรีเล่นกุดๆหน่อยเป็นจังหวะชัดเจน ก็เป็นบรรยากาศของเพลงจากที่นั่น เราฟังแล้วชอบก็เลยเอามาทำ เพราะที่ไทยยังไม่มีใครทำ
เอย Summer Stop
แล้วเพลง "เงื่อนไข" ซิงเกิ้ลสุดท้ายนี้มีความพิเศษอย่างไร
เอย Summer Stop : เพลงรักเพลงเดียวในสามซิงเกิ้ลนี้ คือเราโตมาแล้วต้องสู้ชีวิต ต้องดูแลตัวเอง แต่สักพักมันจะเหนื่อย จนบางทีเจอเรื่องยากก็ตั้งเงื่อนไขไม่อยากทำแล้ว แต่บางทีพอมีคนข้างๆ เข้ามา บางทีเงื่อนไขก็ไม่สำคัญเลย เพลงนี้ก็เป็นเพลงรักสี่คอร์ดแบบที่ผมไม่เคยทำมาก่อน ก็อยากให้มีเพลงแบบนี้ที่มีสี่คอร์ดวนไป ใครที่ฝึกเล่นกีต้าร์และเล่นเป็นสี่คอร์ดก็เล่นได้จบเพลงเลย
มิวสิควีดีโอสามเพลงนี้ จะมีเนื้อหาต่อกันด้วย พออธิบายเรื่องราวได้ไหม
เอย Summer Stop : เพลงแรกก็จะพูดถึงการออกมาเจอและเที่ยว เพลงที่สองก็จะเป็นการรีเฟรชตัวเอง ส่วนเพลงสุดท้ายก็จะเป็นเรื่องราวความรัก ผู้กำกับเอ็มวีเราก็จะเป็นพี่ ยิ้ม มือกลอง Somkiat ก็คุยกับพี่รุ่งผู้บริหารค่ายว่าไม่อยากให้มันตรงๆ เกินไป แบบคนเดินทางถือกระเป๋าไปเที่ยว เราอยากให้เป็นเล่าอ้อมๆ แบบไปเที่ยวค้นหาข้างในตัวเอง ก็เป็นการเที่ยวแบบหนึ่ง
เอิง Summer Stop : มันเป็นการหลุดจากความคิดเดิมๆ และเข้าไปในตัวเอง ใครบางคนที่คิดถึงอยู่ก็จะหลุดไปให้ได้ ส่วนเพลง ไปต่อ ก็เป็นนางเอกที่วิ่งหนีตัวละครลับดำๆ เหมือนเป็นปัญหาเก่าที่ติดในใจ หรือคนรักเก่าแล้วแต่การตีความ เพลงที่สามก็เป็นบทสรุปว่าคนสองคนมาอยู่ด้วยกันและไม่พูดกัน ก็เขียนใส่กระจกและอ่าน คุณยิ้มก็อยากบอกว่าการอยู่ด้วยกันแล้วไม่พูดมันอาจไม่ดี
การทำงานอัลบั้มนี้ก็มีพี่รุ่ง ผู้บริหาร Smallroom มาดูแลด้วย การทำงานเป็นอย่างไร เขาแนะนำอะไรบ้าง
เอย Summer Stop : ก็แนะนำเรื่องเพลง และปรึกษาเนื้อหา เราทำเพลงส่งที่ค่าย เขาก็มาดูว่าเพลงไหนโอเคแล้ว เพลงไหนสามารถช่วยเติมเพลงให้สมบูรณ์ขึ้นได้อีกบ้าง แบบบางทีแก้เนื้อ 20 นาทีก็อัดเพลงเลย
เอิง Summer Stop
กระแสตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง
เอย Summer Stop : ก็ดีกว่าทุกเพลงที่เคยปล่อยมาเลยครับ ก็เริ่มมีคนร้องตามเวลาเรามองลงจากเวที สำหรับสามซิงเกิ้ลนี้นะครับ ส่วนเพลงอื่นยังไม่ได้เล่นเพราะเวลาเล่นโชว์มีจำกัด แต่จะได้เล่นเต็มๆตอนปาร์ตี้เปิดอัลบั้มครับ
ทำไมคุณถึงตัดสินใจตั้งชื่ออัลบั้มว่า Freeze
เอย Summer Stop : คือเราอยากทำเมโลดี้ให้เย็นๆ คือก็มีบรรยากาศอื่นๆบ้าง แต่รวมๆแล้วมันเป็นอารมณ์เย็นๆ และวันนึงเรานั่งคิดชื่อ เราก็เขียนชื่อเพลงไว้บนกระดานดำ ก็มีชื่อเพลงว่าเราเคยรักกัน ชื่ออังกฤษว่า Freeze ก็มีน้องPR บอกว่าทำไมไม่ใช้ชื่อนี้กัน เราก็ตกลงกันครับ
ทางวงใช้เวลาเกือบ 5 ปีในการทำอัลบั้มแรก รู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นผลงานออกมา
เอย Summer Stop : เราอยู่กับเพลงของตัวเองมานานแล้ว ก็อยากให้มันออกไปเจอคนอื่นๆที่ชอบผลงานบ้าง เราอยู่กับเพลงเรา เราต้องชอบมันอยู่แล้วแหละ พอเราทำเสร็จมันก็จบหน้าที่ของเราแล้ว ก็ถึงเวลาที่เพลงจะทำหน้าที่ต่ออย่างไร ก็ต้องดูว่าจะมีอะไรที่ทำให้คนโดนบ้าง
แมว Summer Stop
ระยะเวลา 5 ปีกว่าจะมีอัลบั้มแรกมันก็นานมาก พวกคุณรู้สึกท้อบ้างไหม
เอิง Summer Stop : มันก็มีบ้างในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา เราก็อยู่ในวัยทำงานแล้ว คือในเรื่องรายได้ถ้าเราไม่ประสบความสำเร็จไม่ได้ เราก็สู้เพื่อนไม่ได้ แต่เวลาไปเล่นคอนเสิร์ต เราจะเห็นคนดูให้กำลังใจ ก็รู้สึกว่าเราเลือกเส้นทางถูกตอนนี้เราก็ลุ้นว่ากระแสจะเป็นอย่างไร เพราะยังไม่ได้ออกไปเล่นมาก ก็รอดูกระแสและฟีดแบ็กหลังจากนี้ เพราะพวกเราเล่นดนตรีเป็นหลักเลย มีเพลงของตัวเอง ทำเพลงให้คนอื่นบ้าง แต่ของโดมจะมีธุรกิจครับ
โดม Summer Stop : คนในวงทำงานดนตรีกันหมดครับ แต่ของผมทำงานที่แบ่งเวลาได้ ไม่ได้เข้าออฟฟิศ เป็นนักบำบัดเด็กพิเศษ ก็ต้องเวลาอย่างช่วงบ่าย ก็มีเวลามาทำเพลงเล่นดนตรีบ้าง
คาดหวังกับอัลบั้มนี้อย่างไรบ้าง
แมว Summer Stop : ก็รอดูฟีดแบ็คครับ อย่างถ้าไปเล่นดนตรีก็จะดูกระแสได้เลยจากแฟนๆ จริงๆก็เข้ามาพูดคุยกับแฟนๆได้ ก็เห็นฟีดแบ็กบ้างจากเพจและหลายๆแอพฟังเพลง ก็รอฟังเรื่อยๆ ครับ
โดม Summer Stop : ผมมองว่ามันไม่ต้องยิ่งใหญ่ก็ได้ แต่ถ้ามีคน Inbox มาบอกว่าชอบเพลง และตรงกับชีวิตเราก็ดีใจแล้ว
โดม Summer Stop
ในฐานะที่เราเป็นวงที่เล่นดนตรีที่มีกลิ่นอาย Electronic คิดว่าอะไรคือความยากในการผสมผสานดนตรีแนวนี้
แมว Summer Stop : ผมจะเปรียบมันเหมือนการระบายสี อย่างถ้าวงที่เน้นกีต้าร์ Synthesizer ก็จะเป็นเครื่องดนตรีรอง อย่างกีต้าร์ เบส กลอง คนจะเน้นกีต้าร์และนักร้อง เราเองก็ต้องไปอยู่ในวงให้ได้โดยไม่บดบังใคร ต้องทำให้เด่นด้วย มันยากที่ออกแบบและหาจุดลงตัว ถ้าเราเล่นทับคนอื่นมันก็ไม่ดีครับ
แฟนเพลงหลายคนจะเห็นว่าวง Summer Stop มักจะโต้ตอบแฟนคลับตลอดในโซเชี่ยล คิดว่าโซเชี่ยลมีข้อดีข้อเสียอย่างไร
เอย Summer Stop : มันเป็นเรื่องของยุคมากกว่า เพราะผมว่าศิลปิน 80% ต้องเล่นอยู่แล้ว มันเหมือนการส่งจดหมายและการโทรมาที่ค่ายแล้วฝากขนมไว้ โซเชี่ยลเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว การตอบคอมเม้นต์ก็เหมือนการตอบจดหมายแฟนเพลงครับ
สุดท้ายนี้ ทางวงคิดว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้ Summer Stop ไม่เหมือนใคร
เอย Summer Stop : คงเป็น Synthesizer ครับ เรื่องเมโลดี้ที่ไม่เหมือนใคร เวลาทำเพลงจะเริ่มจากเมโลดี้ อยากทำให้เพราะ คือคนอื่นทำเนื้อก่อน แต่เราทำเมโลดี้ไว้ก่อนให้มันมีความนานาชาติครับ
คลิกฟังเพลงจากอัลบั้ม Freeze ได้ที่นี่
ถึงแม้ว่าจะใช้เวลาถึง 5 ปีกว่าจะมีอัลบั้มเต็มชุดแรกออกมาให้ได้ชมกัน แต่ผลงานชุดนี้นั้นก็มาพร้อมเรื่องราวและซาวด์สุดเก๋จนทำให้กระแสตอบรับออกมาดีเกินคาด ซึ่งแฟนๆสามารถติดตามพวกเขาได้ที่ Facebook Summer Stop และฟังเพลงพวกเขาได้ที่ JOOX และ Sanook! Music ได้เลยครับ
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ