ย้อนวันวาน! การกลายร่างของ "ตูน บอดี้สแลม"
"ร็อกสตาร์" น่าจะเป็นคำเรียกที่เหมาะกับตูน บอดี้สแลม หรือ อาทิวราห์ คงมาลัยอย่างที่สุด (ต่อไปนี้จะขอเรียกว่าพี่ตูนด้วยความเคารพรัก) ด้วยระยะเวลาเกือบ 20 ปีในวงการเพลง ตั้งแต่ผลงานการประกวดวงดนตรี Hot Wave Music Award สมัยมัธยมจนถึงปัจจุบัน พี่ตูนได้ผลิตผลงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานเพลง พรีเซนเตอร์โฆษณา และมัดใจคนดูทั่วถิ่นไทยด้วยการแสดงบนเวทีคอนเสิร์ตที่ดุเด็ดเร้าใจ ในระยะเวลาอันยาวนานนี้ เราจึงได้เห็นภาพลักษณ์ของพี่ตูนในหลากหลายรูปแบบ ที่เปลี่ยนผ่านไปตามกาลสมัย เรามาดูกันดีกว่า ว่าพี่ตูนได้แปลงร่างสลัดมาดมากี่ลุคแล้ว
ยุคละอ่อน พ.ศ.2539 – พ.ศ.2541
เป็นวงแรกของพี่ตูน ที่ฟอร์มขึ้นกับเพื่อนๆโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยเพื่อประกวดวงดนตรี Hot Wave Music Award และได้รับรางวัลชนะเลิศ พูดถึงเสื้อผ้าหน้าผม ณ เวลานั้น ให้อารมณ์เหมือนกลุ่มเพื่อนมาล้อมวงเล่นดนตรีกันตอนไปเที่ยวทะเล ได้ฟิลลิ่งของยุค 90s ที่โหยหากันนักหนา มีการไว้ผมแสกกลาง แลดูเต๋า สมชายมั่กๆ ให้มาดซื่อๆ สมชื่อ ‘ละอ่อน’ ซึ่งในภาษาเหนือหมายถึง เด็กน้อย จริงๆ
คลิกฟังเพลงของตูน ในฐานะสมาชิกวง ละอ่อน ได้ที่นี่
ยุคบอดี้สแลมช่วงต้น พ.ศ.2545 – พ.ศ.2549
ขอรวมลุคในช่วงอัลบั้มบอดี้สแลม กับไดรฟ์ และบีลีฟ ไว้ด้วยกัน เพราะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากจนผิดสังเกต ก็จะมีแค่กางเกงที่เริ่มเปลี่ยนจากกางเกงขาใหญ่มาเป็นทรงสกินนี่ (แต่ยังไม่เดฟเท่าปัจจุบัน) รวมถึงเสื้อผ้าที่เริ่มคุมโทนเป็นสีหม่นๆตามขนบชาวร็อก และผมที่เริ่มยาวขึ้นประบ่า มีความชี้เก้กังของปลายผม 15 ซม. ที่หนุ่มร็อกไม่น่าจะได้ดูแลเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เป็นไร สำหรับวัยรุ่นยุคนั้น ก็ต้องถือว่าพี่ตูนเฟี้ยวฟ้าวสุดแล้ว
คลิกฟังเพลงจากอัลบั้ม Believe ได้ที่นี่
ยุค Save My Life พ.ศ. 2550 – พ.ศ. 2551
ทีเด็ดมันอยู่ตรงนี้!!! มาถึงช่วงที่พี่ตูนมีภาพลักษณ์ติดตาประชาชีมากที่สุด ด้วยการไว้ผมยาวถึงหลัง โคตรเท่ ได้ใจกันไปเต็มๆ นอกจากนี้ ในด้านการแต่งตัวกันโดดเด่นเช่นกัน จะเห็นได้ว่าชุดดำสไตล์ชาวร็อกก็เริ่มมาให้เห็นติดตาเป็นภาพจำกันแล้วในยุคนี้
คลิกฟังเพลงจากอัลบั้ม Save my life ได้ที่นี่
คลิกชมมิวสิควีดีโอเพลง ยาพิษ จากอัลบั้ม Save my life ได้ที่นี่
ยุคคราม พ.ศ. 2552 – พ.ศ. 2555
มาถึงยุคนี้ ความเป็นชาวร็อกรุงรังเริ่มจางหาย พี่ตูนมาด้วยมาดกระฉับกระเฉงผมหั่นสั้น ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และที่ฮือฮาที่สุด ย่อมหนีไม่พ้นการถอดเสื้อโชว์รอยสักให้สาวๆได้กริ๊ดแตกไปตามๆกัน แต่พี่ตูนจะมีแค่นี้เหรอ ไม่สิจ๊ะ ในคอนเสิร์ต Live in คราม พี่ตูนสร้างความเซอร์ไพร์สแฟนๆ สลัดภาพจำของหนุ่มผมยาวดำขลับลงไปกองกับพื้น ด้วยการเปิดตัวบนเวทีด้วยผมสีทองราวกับการกลายร่างของโงกุนไปเป็นซุปเปอร์ไซย่ายังไงยังงั้น ตอนนั้นพี่แกเล่นเอาคนช็อกกันทั้งราชมังคลากีฬาสถาน เลยทีเดียว
คลิกฟังเพลงจากอัลบั้ม คราม ได้ที่นี่
คลิกชมมิวสิควีดีโอเพลง คราม - Bodyslam
ยุค ดัม-มะ-ชาติ พ.ศ. 2556 – พ.ศ. 2558
หลังจากห่างหายไปนาน ตูนกลับมาอีกครั้งกับผมยาวที่เป็นภาพติดตาของใครหลายๆคน อัลบั้ม Save My Life กับผมที่ว่ายาวแล้ว อัลบั้ม ดัม-มะ-ชา-ติ ยาวยิ่งกว่า จะว่าไปก็ดูเหมือนฤๅษี ที่ไปจำศีลในป่าอยู่เหมือนกัน ส่วนเรื่องเสื้อผ้า ก็ยังคุมความมินิมอลไว้ด้วยโทนสี ดำ เทา พร้อมกางเกงยีนส์สกินนี่สีดำ สมกับเป็นผู้นำชาวร็อก ท้ายสุดของการปิดอัลบั้มนี้ ที่คอนเสิร์ต B13 พี่ตูนได้ทำเซอร์ไพรส์แฟนๆอีกครั้ง ด้วยการหั่นผมยาวสลวยทิ้ง ให้แฟนๆได้เห็นหน้าคาตาชัดๆกันอีกครั้ง ซึ่งผมทรงนี้ก็น่าจะเหมาะกับกิจกรรมในชีวิตของพี่ตูนในช่วงหลังที่มักมีการเสียเหงื่อให้กับไตรกีฬาและการวิ่งมาราธอนด้วย เพราะดูคล่องตัวกว่าเป็นไหนๆ
คลิกฟังเพลงจากอัลบั้ม ดัม-มะ-ชาติ ได้ที่นี่
คลิกชมมิวสิควีดีโอเพลง ดัม-มะ-ชาติ ได้ที่นี่
ยุคต่อไป???
พี่ตูนจะมีการเปลี่ยนมาดมาในรูปแบบไหน เราคงต้องรอติดตามกันต่อไปนะแจ๊ะ
ขอขอบคุณภาพจาก Genie Rock และ Bodyslam
Story : กรพัฒน์ ปานอ่อน