ตราบลมหายใจสุดท้าย บทเพลงสอนใจเรื่องสังขารจาก "ปาน ธนพร"

จัดว่าเป็นศิลปินที่เป็นกระบอกเสียงด้านคำสอนของศาสนาพุทธอีกคนหนึ่งเลย สำหรับคุณ ปาน ธนพร ศิลปินมากความสามารถที่ได้มาเป็นผู้ถ่ายทอดบทเพลง ตราบลมหายใจสุดท้าย ที่เป็นบทเพลงสอนใจคนฟัง เรื่องสังขารและการทำความดีที่ปลุกกระแสฮืฮาอย่างมากในโลกโซเชี่ยล 

โดยบทเพลงนี้นั้นได้ แรงบันดาลใจจากคติธรรมขอ­งพระนางเขมาเถรี อัครสาวิกาเบื้องขวาผู้เลิศทางมีปัญญามาก ที่มีความหมายสอนใจเรื่องการอย่ายึดติด ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนทำผิดพลาด และได้มีการผสานคำสอนเข้ามาในบทเพลงด้วย และการถ่ายทอดบทเพลงผ่านเสียงร้องของปานก็ยังคงคุณภาพไม่เปลี่ยน  

คลิกฟังเพลง ตราบสิ้นลมหายใจ ได้ที่นี่

โดยในข้อความอธิบายใต้มิวสิควีดีโอเพลงนี้ได้กล่าวว่า "สำหรับคีตธรรมตราบลมหายใจสุดท้าย แต่งขึ้นจากฉากเหตุการณ์ที่พระนางเขมานั้น­ได้สดับพระธรรมเทศนาองค์สมเด็จพระสัมมาสัม­พุทธเจ้าถึงความไม่เที่ยงแท้ของกายและสรรพ­สิ่ง และได้พิจารณาธรรมตามพระคาถาที่ทำให้พระนา­งได้บรรลุธรรมว่า “ชนเหล่าใดถูกราคะย้อมแล้ว ย่อมตกไปตามกระแสตัณหา เหมือนแมงมุมตกไปที่ใยอันตัวทำไว้ ฉะนั้น ชนผู้มีปัญญาทั้งหลายตัดกระแสตัณหานั้นแล้­ว เป็นผู้หมดความห่วงใย ละเว้นทุกข์ทั้งปวงไป”

โดยคำร้องนอกจากแสดงฉากเหตุการณ์และพระคาถ­าสำคัญที่เกิดขึ้นแล้วนั้น ยังสะท้อนถึงความไม่เที่ยงแท้ของกายและสรร­พสิ่งในโลก โดยมีวันและเวลาเป็นผู้กลืนกินทุกๆ สิ่งให้เสื่อมสิ้นไปในที่สุด อยู่ที่ว่าใครจะเป็นผู้มีปัญญาพิจารณาได้อ­ย่างลึกซึ้งว่าควรจะประพฤติตนให้ไม่ประมาท­ในวัยและเวลา เหมือนดังคำร้องท่อนสุดท้ายที่เป็นบทสรุปแ­ละเป็นชื่อคีตธรรมว่า “เปิดดวงเห็นความสัตย์จริง จากความจริงของเมืองแห่งกาย ตราบที่ลมหายใจสุดท้ายจะคืนสู่ดิน” 

และมิวสิควีดีโอเพลงนี้ก็ได้มีการผสานเรื่องราวของการเกิดและดับไปซึ่งเตือนสติคนได้มาก ทำให้หลายคนได้เข้ามาชมมิวสิควีดีโอชุดนี้จนมียอดวิวหนึ่งแสนวิวภายในเวลาหนึ่งวัน เรียกได้ว่าการทำผลงานครั้งนี้ของพี่ปานนั้นได้เข้าถึงหลายคนจริงๆ 

ภาพจากมิวสิควีดีโอ ตราบลมหายใจสุดท้าย ที่แสดงถึงการเกิดและดับของสังขาร 

คลิกชมมิวสิควีดีโอเพลง ตราบลมหายใจสุดท้าย - ปาน ธนพร 

และการทำงานครั้งนี้ของพี่ปานเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานในกลุ่ม จิตอาสากลุ่มบัวลอย  ภายใต้การดูแลของ โครงการปทุมมามหาสิกขาลัย วัดปทุมวนาราม ที่แสดงให้เห็นว่าการทำงานด้านการศาสนานั้นไม่ได้จำกัดด้วยการเทศนาเสมอไป ซึ่งทางเราต้องขออนุโมทนาบุญครั้งนี้ด้วยครับ 

ขอบคุณภาพจาก Facebook Parn Thanaporn