10 เหตุผลทำไมคุณถึงต้องฟัง CNBlue

ท่ามกลางกระแส K-POP โหมกระหน่ำในบ้านเรา ประเทศเพื่อนบ้าน เอเชีย ไปจนถึงยุโรป อเมริกา และถ้าจะให้พูดอย่างไม่โอเวอร์เลยก็ต้องบอกว่าตอนนี้ K-POP ดังไกลทั่วโลกเรียบร้อยแล้ว ศิลปินเกาหลีต่างโผล่หน้ามาให้เราได้เห็นทุกช่องทาง แม้แต่คนไทยยังอยากจะเป็นสมาชิกของวงเกาหลีเลย ถ้าให้ไล่เรียงชื่อวงเกาหลีก็ต้องขอโบกธงขาวยอมแพ้ เพราะเยอะมากจนนับไม่หวาดไม่ไหวจริงๆ
แต่ทำไมเราถึงอยากให้ชาว Sanook! Music รู้จักกับวงที่มีชื่อเท่ๆ ว่า CNBlue? งั้นก็มาทำความรู้จักกับเขากันเลย

10 เหตุผลทำไมคุณถึงต้องฟัง CNBlue

1. อันดับแรก รู้ไว้ก่อนนะว่า CNBlue (ชื่อเต็ม Code Name Blue) ไม่ใช่บอยแบนด์สายร้อง-เต้น แต่เป็นวงดนตรีที่เล่นดนตรีจริงจัง เหมือนวงดนตรีทั่วไป ถ้าให้เห็นภาพง่ายๆ ก็เหมือน Maroon 5 นั่นแหละ

2. อย่าดูถูกสไตล์เพลง K-POP ว่าจะเป็นเพลงป็อปแดนซ์ ที่รับอิทธิพลมาจาก J-POP อีกที เพราะขอบอกเลยว่า CNBlue ถูกหูคนฟังหลากหลายแนว มีทั้งป็อปร็อค เอเชียนิดๆ ตะวันตกหน่อยๆ และแนวดนตรีก็ก้าวล้ำโกอินเตอร์ได้สบาย

3. ถ้าจะให้อะเมซซิ่งยิ่งไปอีก CNBlue เปิดตัวครั้งแรกที่ญี่ปุ่น เริ่มต้นด้วยการตระเวนแสดงสดตามสถานที่สาธารณะต่างๆ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เสริมความมั่นใจจนพร้อมที่จะกลับมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่เกาหลี

4. ถึงพวกเขาจะเป็นที่รู้จักในช่วงแรกๆ ด้วยการเป็นวง F.T. Island วงที่สอง (F.T. Island เป็นวงป็อปร็อคที่อยู่ในค่ายเพลงเดียวกัน) แต่แนวเพลงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะ CNBlue มาแนวสายพาวเวอร์ป็อป แต่ F.T. Island จะแนว J-Rock อย่างเห็นได้ชัด

5. สมาชิก CNBlue โดยเฉพาะนักร้องนำ “ยงฮวา” แต่งเพลงเองเกือบ 100% ทั้งคำร้อง ทำนอง เขาเคยแต่งเพลงมากถึง 17 เพลงภายใน ระยะเวลา 6 เดือน นอกจากนี้คนอื่นๆ ในวงก็แต่งเพลงเองสำหรับอัลบั้มของ CNBlue ด้วยเช่นกัน

6. CNBlue มีนักร้อง 2 คน ถ้าชอบนักร้องเสียงหลัก ที่เสียงดังฟังชัด เอนเตอร์เทนเก่ง แร๊พไม่มีหลุด ก็ต้องเลือกยงฮวา ถ้าชอบนักร้องเสียงรอง ที่น้ำเสียงนุ่ม แน่น เป็นเอกลักษณ์ ร้องเพลงเร็วก็สนุก ร้องเพลงช้าก็บาดลึกทุกคำ ก็ต้องชอบเสียงของจงฮยอนแน่นอน (จองชิน เล่นเบส มินฮยอคตีกลอง)

7. บอกแล้วว่าผลงานของ CNBlue โกอินเตอร์ได้สบาย เพราะนอกจากจะร้องเป็นภาษาเกาหลีแล้ว ยังมีเวอร์ชั่นญี่ปุ่น และอังกฤษด้วย ใครไม่ไหวฟังเวอร์ชั่นเกาหลี จะลองเวอร์ชั่นอังกฤษดูก็ได้ นอกจากเลือกฟังตามภาษาได้แล้ว ยังเลือกฟังตามแนวได้อีกด้วย ถ้าคุณเป็นขาร็อค เลือกอัลบั้มญี่ปุ่น แต่ถ้าคุณเป็นขาป็อป เลือกอัลบั้มเกาหลี (ถ้าชอบป็อปร็อคก็ฟังให้หมด แฮ่!)

8. ด้วยอิทธิพลทางด้านการฟังเพลงสากลของสมาชิกแต่ละคน เนื้อเพลงก็จะมีภาษาอังกฤษปนอยู่เยอะมาก แฟนเพลงต่างชาติอย่างเราๆ ก็งับเนื้อเพลงตามได้ไม่ยาก โดยเฉพาะท่อนคอรัส ฟังแป๊บเดียวก็ร้องตามได้แล้ว

9. แนวดนตรีมีความหลากหลายมากอย่างที่บอกไปข้างต้น เพราะยงฮวา คนที่แต่งเพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้ม ชอบฟังเพลงหลากหลาย ตั้งแต่เมนสตรีมอย่าง NSYNC, Backstreet Boys, Jason Mraz, Maroon 5, Bon Jovi, Pharrell และ Kanye West ไปจนถึงศิลปินอินดี้อย่าง Fenech-Soler และ Passion Pit เพราะฉะนั้นเพลงจึงฟังติดหูง่าย แต่ไม่ตลาดจนเกินไป มีทั้งท่อนร้องหนัก ร้องเบา ไปจนถึงแร็พรัวๆ โดยเฉพาะท่อนแร๊พ ท่อนสร้อยนี่มีทุกเพลง ยงฮวาจองท่อนแร็พเองหมด จนกลายเป็นซิกเนเจอร์ที่เราจะเจอในทุกๆ เพลงของวงนี้ เพลงร็อคก็ทำได้ร็อคจริง เพลงป็อปช้าๆ ก็ทำได้บาดลึก เข้มข้นถึงอารมณ์มากเช่นเดียวกัน

10. CNBlue เล่นสดไม่เป็นสองรองใคร แต่ละคนจริงจังกับการแสดงคอนเสิร์ตมาก บัตรขายหมดเกลี้ยงหลายครั้ง และสิ่งที่สมาชิกในวงถูกถามว่าเป็นช่วงเวลาไหนเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของชีวิต พวกเขาจะตอบว่า “เวลาได้ขึ้นแสดงสดบนเวที” ด้วยประสบการณ์หลากหลายตั้งแต่โชว์เล็กๆ ข้างถนน ไปจนถึงเวทีใหญ่ระดับอินเตอร์ ทำให้พวกเขาเป็นที่ยอมรับทั้งจากแฟนเพลง และศิลปินท่านอื่นๆ มากมาย

อ่านจบแล้ว อยากทำความรู้จักกับเพลงของพวกเขาให้มากขึ้นหรือยัง? กดฟังเพลย์ลิส Best of CNBlue ไปพลางๆ ก่อน แล้วไปดูคอนเสิร์ตตัวเป็นๆ กันได้ ในวันที่ 16 มกราคม 2558 นี้ค่ะ

รายละเอียดคอนเสิร์ต คลิก!