เต็มอิ่ม!! กับเพลงในตำนานคอนเสิร์ตที่รวมพลคนยุค 90 ไว้มากที่สุดแห่งปี!!

“ออกเทป” ใครเกิดทันประโยคนี้กันบ้างไหมคะ ถ้าคุณพยักหน้า แปลว่าคุณต้องอายุ 25 อัพแน่ๆ และแน่นอนว่าคุณต้องเคยใช้วอล์คแมน หรือเครื่องเล่นเทปพกพา คุ้นเคยกับหน้า A หน้า B ของตลับเทป แล้วยังเคยประสบปัญหา “เทปยาน” กันอีกแน่นอน ใครไม่ได้ซื้อเทป กว่าจะได้ฟังเพลงที่ชอบ ต้องโทรไปขอดีเจหน้าไมค์ ลุ้นแสนลุ้นว่าจะโทรติดหรือไม่ติด พยายามจะกดอัดเพลงที่ชอบลงเทปไว้ฟังวันหน้า ก็มีเสียงดีเจแทรกขึ้นมาอีก อารมณ์เสีย! (อินๆ)

ถ้าคุณพยักหน้าแล้วรู้สึกอินไปกับเราด้วยทุกตัวอักษรด้านบน คุณก็คงเข้าใจว่าทำไมเราถึงตะโกนร้องเพลงกันจนเสียงแหบ เหงื่อชุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า เล่นเอาเหนื่อยจนเดินกลับบ้านไม่ไหว ในคอนเสิร์ต 90’s Concert FirstAlbum “กำเนิดอินดี้รุ่นพี่ออกเทป” ที่มีโต้โผใหญ่ คือ สหภาพดนตรี และ สิงห์คอร์เปอเรชั่น นำศิลปินยุค 90 ชื่อดังมากมายกว่า 20 วง

ขนเพลงฮิตจัดเต็มกว่า 55 เพลงจาก “อัลบั้มแรก” สมัยที่นับยอดขายจากเทปตลับ คอนเซ็ปต์แสนเก๋แบบนี้ทำให้งานคอนเสิร์ตในวันนั้นเป็นเสมือนงานเลี้ยงรุ่นของวัยรุ่นยุค 90 พร้อมใจกันร้องเพลงที่แทบจะไม่ค่อยได้ยินตัวศิลปินเองร้องที่ไหนมาก่อน ย้อนวัยกันจนภาพเก่าๆ ลอยวนไปมาในหัวไม่หยุดตลอดเกือบ 6 ชั่วโมง

Friday เปิดโชว์พร้อมสมาชิกทั้ง 3 คนครบทีม โดยมีมือกีต้าร์ที่เพิ่งหายจากไข้เลือดออกขึ้นโชว์สปิริทของวัยรุ่นยุค 90 อย่างน่าลุกขึ้นปรบมือให้ ซึ้งๆ กับเพลงจากอัลบั้มแรกอย่าง “ฉันมีความสุข” “รอฝน” “เหนื่อย” “สุขล้ำ” “นิดนึงพอ” โดย บอย ตรัย ได้กล่าวว่าวงเราได้เล่นก่อนเพราะวงเราเด็กกว่า อย่างน้อยก็เด็กกว่าโมเดิร์นด๊อก ทำให้ผู้ชมฮากันทั้งฮอล

ไมเคิล สวัสดิ์เสวี มาด้วยเพลง “เจ็บคราวนี้” และ “พูดลาสักคำ” พี่ยังเสียงดีและดูดีใจที่ได้เจอแฟนๆ เพื่อนๆ อีกครั้งอย่างเห็นได้ชัด ถึงจะออกแค่อัลบั้มเดียว แต่แฟนเพลงก็ร้องตามกันได้ทั้งฮอลแบบไม่ยากเย็นเลย

บานาน่าโบ๊ท มากับเพลง “เคยไหม” และ “ห่วงหา” ที่โบ๊ทแอบแซวตัวเองว่า วงอื่นเขามีเพลงฮิตกัน 4-5 เพลง แต่วงเรามีเพลงดังอยู่ครึ่งเพลง (คือเพลง ห่วงหา” ที่มีเสียงผู้หญิงร้องไปครึ่งเพลงอีกต่างหาก วันนั้นจึงมีโรสแมรี่มาแจมท่อนผู้หญิงให้อย่างน่ารักน่าเอ็นดูด้วย

เชษฐา ยารสเอก มาพร้อมเพลง “ไม่อยากหลับตา” และ “แค่อยากร้องไห้” ระหว่างโชว์ยังแอบแซวตัวเองว่า “ผมเป็นคนที่ค่อนข้างมีความสุขในชีวิตแต่เพลงฮิตของผมมักเป็นเพลงเศร้า” แล้วก็ไม่ลืมที่จะเป็น “อินดี้สายแบ๊ว” ขอถ่ายเซลฟี่กับคนดูทั้งฮอล

P.O.P จัดสมาชิกมาครบวง พร้อมด้วย สมเกียรติ์ อริยะชัยพานิช ที่มาพร้อมกับเพลง “คนดี” “แค่ได้พบเธอ” “รักของเธอมีจริงหรือเปล่า” “ลมหายใจ” “ไม่มี” พร้อมปิดโชว์ด้วยข่าวดีว่าจะมีคอนเสิร์ตในปีหน้าอีกด้วย

โรสแมรี่  #ตื่นเต้นหนักมาก ที่ได้เจอแฟนเพลง ทุกคนจึงช่วยเธอร้องเพลง “ให้ฉันทำอย่างไร” และ “ใจเป็นของเธอ” กันกระหึ่มฮอล ทำเอาโรสแมรี่ยิ้มแก้มปริเลยทีเดียว

Tea for Tree แค่อินโทรเสียงเปียโนของเพลง ทุกคนก็กริ๊ดรับเพลง “ลมหนาว” กันทุกโซนแล้ว ยิ่งเจอเพลง “แด่คนเคยรัก” ทำเอาบรรยากาศปกคลุมไปด้วยความซึ้ง น้ำตารื้น นึกถึงสมัยตัวเองเป็นวัยรุ่นอกหักกันเป็นแถว

ถังเบียร์ AF10 รับหน้าที่มาร้องเพลงให้กับวง วาเคชั่นแบนด์ โชว์พลังเสียงอลังการ ในเพลง “คืนใจ” ซึ่งเป็นเพลงฮิตในยุคนั้น สะกดคนดูได้ตลอดทั้งเพลง (เราไม่พลาดที่จะเห็นป้ายไฟเชียร์หนุ่มคนนี้ด้วย)

ฟอร์ด แอนด์ เฟรนด์ นอกจากการแต่งตัวจะเฟี้ยวฟ้าวด้วยเสื้อฮู้ตดำแดงแล้ว ยังชิคๆ คูลๆ ด้วยโซโล่แซกโซโฟน ทั้งร้องทั้งเล่นในเพลง "ขอเพียงแค่นั้น” “รักเธอ” “ตราบใด” ซึ่งได้ โก้-มิสเตอร์แซกส์แมน มาแจมด้วยในตอนท้าย จากนั้นฟอร์ดก็ปล่อยให้โก้ได้โซโล่ต่อกับเพลงยอดฮิตอย่าง ”ภาวนา”

จนสุดท้ายปิดโชว์ในช่วงของตัวเองด้วยการเปิดตัว จุ๊บ-วุฒินันท์ ภิรมย์ภักดี ที่มากับเพลง “รักฉันบ้างหรือเปล่า” ที่ออกตัวว่าชอบเพลงนี้มากเป็นพิเศษจริงๆ BOXER เปลี่ยนอารมณ์เศร้าซึ้ง มากระโดดโยกคอกันจนเมื่อย กับเพลงมันส์ๆ พร้อมมาดกวนๆ ของนักร้องนำอย่าง “เสียดายเวลา” ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลงซึ้งๆ อย่าง “เพียงแค่มีเธอ” เรียกได้ว่าครบรสจริงๆ

Dr.Kids เรียกเสียงกริ๊ดได้สนั่นฮอล เมื่ออารมณ์ทุกคนมาเต็ม กับเพลง “ข่าวร้าย” และ “Butterfly” ที่โชว์สเต็ปเต้นกันอย่างพร้อมเพรียง ถึงจะมากันแค่ 3 คน แต่ชนะใจคนดูไปเต็มๆ พร้อมส่งท้ายข่าวดีว่าปีหน้าเจอกันอีกแน่นอน

XL Step ถึงแม้จะเหลือสมาชิก คือพี่เอ๋แค่คนเดียว แต่ก็ได้ บี้ KPN มาช่วยร้องในเพลง “เหนื่อยใจ” และเพลงมันส์ๆ อย่าง “ชายในฝัน” ที่ถูกเรียบเรียงขึ้นใหม่เพื่องานนี้ ซึ่งบี้ก็ทำได้ดีมาก ทั้งร้องทั้งเอนเตอร์เทนได้ดีเลยทีเดียว

อู๋ ธรรพ์ณธร เสียงทรงพลังอันเป็นเอกลักษณ์ของเขายังอยู่ครบ แฟนๆ พร้อมใจกันร้องเพลงตามได้ทุกเพลง อย่าง “เกิดเป็นผู้ชาย” และ “ล่ำลา” ใครที่ไม่ได้ฟังเสียงของพี่อู๋นาน งานนี้พี่เค้าจัดให้เต็มๆ

The Must เปิดตัวด้วยเสื้อวอล์มกางเกงดำ พร้อมแทมบูรีน ขาตั้งไมค์ เอามือพาดหลังเหมือน Liam Gallagher วง OASIS ยังไงยังงั้น ใส่พลังกับเพลง “สองทาง” แจกฟริสบี้ (หรือจานร่อน) ให้คนดู และต่อกับเพลงสุดฮิต “องศาที่ต่างกัน” ที่มีกิมมิคกับท่อนแร็พใหม่ที่เพิ่มขึ้น แต่งโดย กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ พร้อมกับพูดติดตลกว่า

จะเปลี่ยนชื่อเพลงนี้เป็น “องศาที่แตกต่าง” (เพราะเคยมีคนมาทักเขาด้วยชื่อเพลงผิด) โดยคราวนี้เขาถือโอกาสถอดเสื้อ โชว์เสื้อกล้าม พาดผ้าขนหนูบนบ่า แล้วลงมือเป็นแร๊พเปอร์หน้าใหม่ ร้องท่อนแร็พเองเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เรียกได้ว่าปลุกระดมพลังคนดูในฮอลกันอย่างเต็มที่

เต็น Smile Buffalo เต็นมาเป็นตัวแทนของวง ทั้งร้องเองและเล่นกีต้าร์เอง พร้อมออกตัว ว่าร้องอาจไม่ดีเท่าดิษฐ์นักร้องนำ แต่ด้วยดนตรีและความมันส์ของเพลง “ดีเกินไป” ก็ทำให้ผู้ชมโดดกันได้ทั้งฮอล แอบเสียดายที่ไม่ได้ฟังเพลง “ฟ้ายังฟ้าอยู่” และ “ขอให้โชคดี” ซึ่งเป็นเพลงเพราะในอัลบั้มแรกเช่นกัน แต่ก็หวังว่าจะได้ดูกันในโอกาสหน้าเนอะ

ป้าง นครินทร์ กิ่งศักดิ์ เป็นศิลปินอีกคนที่ทุกคนรอคอย พี่ป้างเปิดตัวด้วยเพลง “สบายดี” ซึ่งเป็นเพลงที่สร้างชื่อของอัลบั้มนี้ และเพลง “ประตู” “ที่ว่าการอำเภอ” “คุยกับตัวเอง” และตามด้วย “เอื้อมไม่ถึง” ซึ่งถึงแม้จะไม่มีปี่สก๊อตซ์อย่างเคย แต่ก็ทำให้ผู้ชมสามารถดำดิ่งถึงอารมณ์ของเพลงนี้ได้ไม่ยาก และปิดท้ายด้วยเพลง “อยากเด็ก” สุดมันส์ที่ทุกคนกำลังเครื่องร้อน พร้อมใจกันโดดยับเลยทีเดียว

อัยย์ พรรณี อีกหนึ่งศิลปินคุณภาพ มาด้วยลุคน่ารักสดใส (และดูไม่แก่ลงเลย) มาพร้อมเพลง “บอกเขาว่าเจอฉัน” และ “นานเหลือเกิน” ซึ่งเราเองก็ไม่ได้ฟังเพลงนี้นานเหลือเกินจริงๆ ได้ยินแล้วก็คิดถึง เสียงและวิธีร้องของอัยย์ยังคงเปี่ยมไปด้วยความสดใสและพลังเช่นเดิม ขนาดที่ในยุคสมัยนั้นมีคนกล่าวว่าเพลงของ อัยย์ ทำให้นึกถึง Alanis Morissette เลยทีเดียว

สุกัญญา มิเกล ศิลปินสาวมาดเท่ห์รวยอารมณ์ขันมาพร้อมเพลง “รักเธอจริงๆ” และ “ดีๆกันไว้” ด้วยความน่ารักและเป็นกันเองของเธอ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอจึงมีแฟนเพลงที่รักและติดตามอย่างเหนียวแน่น

โมเดิร์นด็อก ปิดท้ายคอนเสิร์ตในครั้งนี้ด้วยพี่ป็อด พร้อมสมาชิกในวงที่พร้อมใจกันแต่งตัวด้วยเสื้อลูกเสือพร้อมบั้ง ถูกใจแฟนเพลงขาอัลเทอเนทีฟ ที่พูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าโมเดิร์นด็อกเป็นวงอัลเทอเนทีฟตัวพ่อในยุค 90 จริงๆ โดยทางวงก็ไม่พลาดที่จะนำเพลงฮิต ถูกใจคนส่วนใหญ่อย่าง “บุษบา” และ “ก่อน”  ซึ่งถือเป็นเพลงชาติของเขามาร้องด้วย แต่นอกจากนี้ยังพิเศษกับมีเพลงดีๆ หาฟังยาก

อย่าง “กะลา” “บางสิ่ง” “หมดเวลา” “เธอ” ถูกใจสาวกโมเดิร์นด็อกกันถ้วนหน้า ถึงแม้ลิสเพลงจะหมดแล้ว แต่เมื่อแฟนเพลงตะโกนขอ และไม่มีใครยอมกลับบ้านกันง่ายๆ วงเลยจัด “ตาสว่าง” แถมให้คนดูได้กระโดดโยกหัว ร้องตามกันสุดเสียงเป็นการปิดท้ายอย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ

ถึงแม้จะยืน จะร้องกันตลอดตั้งแต่หัวค่ำยันเกือบตี 1 แต่ทุกคนเดินออกมาจากฮอลด้วยรอยยิ้ม อิ่มเอม ที่ได้ซึมซับบรรยากาศของเพลงยุค 90 ที่ทุกคนโหยหา ไม่ง่ายเลยที่จะได้สัมผัสบรรยากาศเพลงดีๆ ในยุคนั้น พร้อมกับศิลปินอีกหลายท่านที่ก็คงโหยหาบรรยากาศเก่าๆ แบบนี้ไปไม่น้อยกว่าเรา ถือว่าประทับใจ และจะเป็นความทรงจำที่ดีของพวกเราไปได้อีกนานอย่างแน่นอน “ไว้ไปกอดคอตะโกนร้องเพลงด้วยกันอีกนะ”