"Voice สัมผัสเสียงมรณะ" ซีรีส์ไทยรีเมคเกาหลีที่ต้องใช้คำว่า "หมดข้อกังขา"

"Voice สัมผัสเสียงมรณะ" ซีรีส์ไทยรีเมคเกาหลีที่ต้องใช้คำว่า "หมดข้อกังขา"

"Voice สัมผัสเสียงมรณะ" ซีรีส์ไทยรีเมคเกาหลีที่ต้องใช้คำว่า "หมดข้อกังขา"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ท่ามกลางความซบเซาเข้าขั้นเงียบของวงการละครไทยในช่วงปลายปีแบบนี้ "เสียง" เล็กๆ ที่ค่อยๆ ดังของซีรีส์ไทยที่คนกำลังพูดถึงกันกระหึ่มโซเชียลในตอนนี้อย่างเรื่อง Voice สัมผัสเสียงมรณะ ทางช่อง True4U ก็เรียกความสนใจจากหลายๆ คนให้หันไปมองได้ และเมื่อได้ลองเปิดดูก็ต้องบอกอย่างเต็มปากเลย ว่าซีรีส์ไทยเรื่องนี้ เป็นความเหนือชั้นที่ควรติดตาม ตอกย้ำว่านี่คือความก้าวหน้าของวงการละครซีรีส์ในบ้านเรา

Voice สัมผัสเสียงมรณะ ซีรีส์แนวระทึกขวัญ สืบสวน-สอบสวน เรื่องราวของความแค้นจากการสูญเสีย นำมาสู่การออกตามล่าฆาตกรโรคจิต และมีเพียง "เสียง" ที่เป็นเบาะแสสำคัญในการตามล่าครั้งนี้ และมีเพียง "เธอ" เท่านั้น ที่เป็นคนได้ยิน

หากใครที่เป็นคอซีรีส์เกาหลี ต้องร้องอ๋ออย่างแน่นอนกับชื่อเรื่อง Voice ที่ทาง ทรูซีเจ หยิบมาทำการรีเมคให้เป็นเวอร์ชั่นไทย พร้อมใส่โปรดักชั่นฟอร์มยักษ์ทุ่มทุนสร้างระดับอินเตอร์ ...จากซีรีส์ที่คว้าเรตติ้งอันดับหนึ่งของเกาหลี จะมาเป็นเวอร์ชั่นไทยทั้งที ก็เป็นความคาดหวังของคนดู และความกดดันของทีมสร้าง ที่จะทำยังไงให้เรื่องนี้ออกมาอย่างสมศักดิ์ศรีไม่ทิ้งห่างจากต้นฉบับ งานหนักน่าจะเป็นของผู้กำกับ ปีเตอร์-นพชัย ชัยนาม ที่พักการแสดงมานั่งแท่นกำกับเรื่องนี้ อีกทั้งยังขนนักแสดงนำระดับแถวหน้ามาถ่ายทอดเรื่องราวในเรื่องอย่าง แอนดริว เกร้กสัน และ แพนเค้ก เขมนิจ ที่ปล่อยของแบบสุดๆ เล่นจนคนดูเชื่อว่านี่คือเหล่าตำรวจจากหน่วยพิเศษที่กำลังช่วยกันปิดคดีเหตุด่วนเหตุร้ายต่างๆ อย่างจริงจัง

อย่างที่บอกไปว่าเรื่องนี้หยิบซีรีส์เกาหลีมารีเมค แต่การหยิบมารีเมคให้เป็นเวอร์ชั่นไทยครั้งนี้ ก็ไม่ได้เอาต้นฉบับมาทั้งดุ้นแบบหลายๆ เรื่องที่เคยได้เห็นกัน แต่มีการปรับและเสริมบริบทแบบไทยๆ เข้าไปโดยยังคงเส้นเรื่องเอาไว้ได้อย่างดี อย่างการปรับใช้ความเป็นไทยเข้าไปในเรื่อง เห็นได้ชัดจากการใช้ชีวิตของพระเอกที่เป็นตำรวจ หลังจับผู้ร้ายมาดึกๆ ของเวอร์ชั่นเกาหลีจะไปนั่งกินข้าวกันที่ร้านปิ้งย่าง ส่วนของไทยไปที่ไหน... ไปจบที่ร้านข้าวต้มโต้รุ่ง ให้ความรู้สึกสมจริงและเข้าถึงวิถีชีวิตแบบคนไทยสุดๆ รวมทั้งความเชื่อมโยงของการลงพื้นที่ตรวจสอบของตำรวจนอกเขตเมือง บางวันก็อาจจะมีงานรื่นเริงที่ดึงทีมตำรวจไปดูแลความปลอดภัยจนกำลังเสริมของตำรวจมีน้อย เป็นการเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ค่อนข้างสมจริงทีเดียว

ตัวละครหลักอย่าง ผู้หมวดอารัญ ตำรวจสายสืบเลือดร้อนสุดบ้าบิ่น กล้าได้กล้าเสียที่ชีวิตพลิกทันทีเมื่อภรรยาสุดที่รักถูกฆาตกรรมอย่างโหดร้าย เสียสูญได้ไม่นานเขาต้องสืบล่าตัวฆาตกรโรคจิตมารับโทษให้ได้ ซึ่งรับบทโดย แอนดริว เกร้กสัน บทแอ็คชั่นตำรวจสายลุยที่มีลูกบ้ามาพร้อมความกวนเรียกว่าเข้าทางแอนดริวเลย อีกทั้งบทพูดยังเป็นอะไรที่สมจริงมากๆ ที่ดูไม่เหมือนบทพูดในละคร ให้ความรู้สึกเหมือนการสนทนาจริงๆ ของคน ไม่รู้ว่าเป็นบทจากละครจริงๆ หรือแอนดริวด้นสด แต่นั่นทำให้การปั้นตัวละครของผู้หมวดเลือดบ้าคนนี้ มีมิติสมจริงขึ้นไปอีกระดับ ส่วนนางเอกอย่าง แพนเค้ก เขมนิจ ก็ไม่น้อยหน้า ในบทร้อยตำรวจหญิง ไอริน ที่มีสัมผัสพิเศษทางการได้ยิน สืบคดีจาก "เสียง" และเป็นคนเดียวที่ได้ยินเสียงของฆาตกรที่ฆ่าพ่อของเธอคืนเดียวกันกับที่ภรรยาหมวดอารัญเสียชีวิต ทำให้เธอต้องร่วมมือกับผู้หมวดอารัญในการทำคดีและสืบหาฆาตกรโรคจิต การรับบทนี้ของแพนเค้กที่สวมมาดตำรวจหญิงผู้มีความจริงจังในการทำงานจากหน่วย Golden Time ที่ใจเย็น ฉลาดสุขุมและเฉียบขาด ที่ไม่ค่อยได้เห็นเธอในบทบาทแบบนี้เท่าไร แต่ถือว่าเปลี่ยนภาพสาวสวยมาเป็นผู้กองสาวได้อย่างสมจริง เคมีสองตำรวจที่บุคลิกขัดกัน แต่ต้องทำงานสืบคดีร่วมกัน ถือเป็นความขัดที่ลงตัวดีทีเดียว

อีกหนึ่งอย่างที่ต้องถือว่าทำออกมาได้ว้าวสุดๆ ก็คือโปรดักชั่นภาพ การตัดต่อ และโลเคชั่นสถานที่ถ่ายทำ ทุกองค์ประกอบต่างๆ เรียกว่าโปรดักชั่นระดับอินเตอร์แต่ให้บรรยากาศแบบไทยๆ อยู่ตลอดทั้งเรื่อง อีกทั้งโลเคชั่นที่ใช้ยังเปิดมุมมองใหม่ๆ ของกรุงเทพ ที่ดูไปก็ต้องคิดตามว่าบ้านเรามีสถานที่เหล่านี้อยู่จริงๆ หรือ ภาพสวยมุมเจ๋งจนต้องยกนิ้วให้ทีมงานเลยจริงๆ

ตั้งแต่จุดเล็กๆ ไปจนถึงภาพรวมใหญ่ก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีเยี่ยมมากๆ แต่ใช่ว่าจะไม่มีจุดให้รู้สึกขัดๆ ความรู้สึกเลย อย่างเช่นห้องทำงานของหน่วย Golden Time ที่เต็มไปด้วยความล้ำของเทคโนโลยีต่างๆ เมื่อมีเหตุด่วนเหตุร้าย นางเอกของเรื่องก็จะกดปุ่มเปิดสัญญาณไฟสีแดงพร้อมเวลานับถอยหลังถือเป็นการเริ่มปฏิบัติการทำงาน ที่ดูแปลกตาและแปลกใจ(ด้านเวลา ของทำภารกิจในเมืองที่การจราจรย่ำแย่อย่างประเทศไทยแบบนี้ จะไปถึงจุดเกิดเหตุทันหรือ?) แต่ก็คิดว่าพล็อตจากทางเกาหลีมาแบบนี้ ถึงจะมีจุดที่ล้ำกว่าความเป็นจริงอยู่บ้าง แต่ก็เป็นจุดเล็กๆ ที่ไม่ได้ตัดมู้ดให้รู้สึกประหลาดใจมากมายเท่าไร ยังเสริมให้คนดูรู้สึกกดดันตามเวลาที่วิ่งไปแต่ละวินาที ว่าจะสามารถช่วยเหลือเหยื่อได้ทันเวลาหรือไม่! 

ยังมีอีกหลายความรู้สึกที่บรรยายออกมาไม่หมด รอให้คนดูไปสัมผัสเอง ออกอากาศมา 8 ตอนเรื่องราวทุกอย่างกำลังขีดเส้นให้เราเข้าใกล้ตัวฆาตกร ลุ้นระทึกไปตามตัวละครที่ท้ายที่สุดจะไม่เพียงแค่เฉลยว่าใครคือฆาตกรโรคจิต แต่จะพาเราเข้าไปถึงยังจิตใจที่บิดเบี้ยวของตัวคนร้ายที่กลายเป็นตัวอันตรายสุดๆ ในเรื่องนี้

ใครยังไม่ได้ดูก็ชี้เป้าไปติดตามดูย้อนหลังรวดเดียวได้ที่ Netflix ส่วนใครที่ตามทันแล้วกลัวจะโดนสปอยล์ก่อน ก็รอดูสดได้ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 21.30 น. ทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 แล้วไปสัมผัสความเหนือชั้นของซีรีส์รีเมคที่ไร้ข้อกังขาเรื่องนี้กับ Voice สัมผัสเสียงมรณะ ...

อัลบั้มภาพ 30 ภาพ

อัลบั้มภาพ 30 ภาพ ของ "Voice สัมผัสเสียงมรณะ" ซีรีส์ไทยรีเมคเกาหลีที่ต้องใช้คำว่า "หมดข้อกังขา"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook