รีวิว The I-Land จับคนคลั่งมาปล่อยเกาะ

รีวิว The I-Land จับคนคลั่งมาปล่อยเกาะ

รีวิว The I-Land จับคนคลั่งมาปล่อยเกาะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ซีรีส์แนวไซไฟลึกลับเรื่องใหม่จากสตรีมมิ่ง Netflix ที่บอกเล่าถึงคนแปลกหน้า 10 คนที่ตื่นขึ้นอย่างงุนงงบนเกาะร้างห่างไกล พวกเขาจดจำอะไรไม่ได้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ทำไมถึงมาอยู่บนสถานที่แห่งนี้ พวกเขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทุกอย่างลางเลือนไปหมด พวกเขาต้องค้นหาสาเหตุว่าทำไมตัวเองถึงมาอยู่ที่นี่และจะเอาตัวรอดอย่างไร

 

แม้ว่าอ่านพล็อตเรื่องแล้วหลายคนอาจจะนึกย้อนกลับไปถึงซีรีส์อย่าง Lost ว่าด้วยคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเครื่องบินพาณิชย์ตกลงบนเกาะลึกลับและซุกซ่อนปริศนาเอาไว้มากมาย แต่สำหรับ The I-Land นั้นมีความ “คล้ายคลึง” กับซีรีส์เรื่องดังกล่าว แค่เพียง 2 EP แรกเท่านั้น เพราะเหตุการณ์หลังจากนั้น ซีรีส์นี้ได้เฉลยความจริงทันทีว่าทำไมตัวละครเหล่านี้ถึงต้องมาอยู่ที่เกาะแห่งนี้

 

เพื่อไม่ให้เป็นการสปอยล์และเสียอรรถรสจนมากเกินไป เราจะขอเล่าเฉพาะ 2 EP แรกที่ตัวละครตื่นขึ้นมาและแต่งตัวคล้ายๆกันไปหมด พวกเขาสวมชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงขายาว มีป้ายชื่อของแต่ละคนอยู่ที่ปกคอเสื้อ หลังจากเริ่มออกสำรวจเกาะ พวกเขาก็พบกับสิ่งของอันดูไม่น่าจะมาอยู่บนสถานที่แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น หนังสือเกาะปริศนา (The Mysterious Island ของจูลส์ เวิร์น) อาวุธเช่นมีดพก ขวาน หรือกระทั่งหอยแตรสังข์! ยังไม่รวมไปถึงเหตุการณ์ประหลาดที่ฉลามโผล่ขึ้นมาจู่โจมหนึ่งในผู้รอดชีวิตที่กำลังเล่นน้ำจนหายตัวไปเหลือไว้แค่คราบเลือด และความฝันอันแปลกประหลาดของเชส (นาตาเลีย มาติเนซ) ที่เธอฝันว่าตัวเองกำลังถือปืนแล้วลั่นไกใส่ผู้หญิงปริศนาจนถึงแก่ความตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า  

 

 

ไม่นานนักเชสก็เริ่มค้นพบสิ่งของบางอย่างอาทิแพชูชีพ ที่มีกล่องปฐมพยาบาลและกล่องไอเท็มบางอย่างที่ต้องอาศัยรหัสในการเปิด เหตุการณ์น่าฉงนไม่จบลงแค่เพียงเท่านั้น เมื่อพายุฝนเริ่มตั้งเค้าจะพัดถล่มเกาะ บรรดาคนแปลกหน้าจึงเริ่มมีปากเสียงทะเลาะกันจนนำไปสู่เหตุการณ์บานปลายเลยเถิดและเหตุการณ์ฆาตกรรม!

 

ส่วนตัวแล้วมีความรู้สึกน่าเสียดายอยู่ไม่น้อยที่ The I-Land นั้นออกแบบตัวละครในซีรีส์มาค่อนข้างน่ารำคาญ พวกเขาค่อนข้างโหวกเหวกโวยวายและดูไม่ค่อยมีสตินัก (แม้ว่าตอน EP 3 ซีรีส์จะรีบเฉลยว่าพวกเขาเป็นใครมาจากไหนเพื่อทำให้เราเข้าใจตัวละครมากขึ้นก็ตาม) แต่กลวิธีในการสร้างปริศนาในซีรีส์นี้ก็ดูไม่ได้น่าสนเท่าที่ควร (เพราะเมื่อเรานึกย้อนกลับไปถึงซีรีส์ Lost แล้ว ก็เรียกได้ว่าเรื่องนี้เดินรอยตามจนเกือบครบถ้วน)

 

 

อย่างไรก็ตามถ้าดูแบบไม่ได้คิดอะไรมากมาย เปิดทีวีฆ่าเวลาให้ห้องไม่เงียบจนเกินไป The I-Land ถือเป็นซีรีส์โปรดักชั่นกลางๆที่พอดูแก้เบื่อไปได้ความยาว 7 EP เพียงแต่พอเราดูไปสักพักก็จะคาดเดาจุดพลิกผันของเรื่อง หรือกระทั่งตอนจบ ที่คนดูหนังไซไฟมาจำนวนหนึ่งคงไม่ได้รู้สึกเซอร์ไพรส์อะไรมากนักถึงวิธีการหักมุมของเรื่อง เพราะนอกจากจะเชยแล้วยังดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ด้วยซ้ำไป

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook