รีวิว The Happytime Murders ความต่ำตมที่คุณสัมผัสได้

รีวิว The Happytime Murders ความต่ำตมที่คุณสัมผัสได้

รีวิว The Happytime Murders ความต่ำตมที่คุณสัมผัสได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

 

The Happytime Murders คือหนังที่เข้าชิงรางวัล Razzie Awards ในปี 2019 ทั้งสิ้น 6 สาขาอันประกอบไปด้วยสาขาภาพยนตร์ยอดแย่ นักแสดงสมทบชายยอดแย่ (โจเอล แมคเฮล) ฉากประกบคู่ยอดแย่ ผู้กำกับยอดแย่ (ไบรอัน เฮนสัน) บทภาพยนตร์ยอดแย่ แต่ท้ายที่สุดหนังเรื่องนี้คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดแย่ (เมลิซซ่า แม็กคาร์ธี) มาครอง

 

หนังบอกเล่าเรื่องราวของจักรวาลที่มนุษย์และหุ่นผ้า (มัพเพทส์) อาศัยอยู่ร่วมกัน หุ่นเชิดนักสืบเอกชนและอดีตตำรวจ ฟิล ฟิลลิปส์ (บิล แบร์เร็ตต้า) กำลังตามล่าฆาตกรต่อเนื่องที่ลงมือสังหารทีมนักแสดงจาก The Happytime Gang รายการทีวียอดฮิตยุค 80 และ อดีตคนรักของฟิล เจนนี่ (อลิซาเบธ แบงค์ส) กำลังเป็นรายต่อไป ทำให้ฟิลจำต้องกลับมาร่วมมือกับศัตรูตลอดกาลอย่าง นักสืบเอ็ดเวิร์ดส (เมลิซซ่า แม็กคาร์ธี) ฉายาอาเจ๊สายโหด แต่การกลับมาฟอร์มทีมครั้งนี้ไม่ง่ายเลยเพราะความไม่ลงรอยระหว่างทั้งสองต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าจะสมานแผลได้ แต่กว่าที่แผลจะแห้งคงสายเกินไป

 

 

ความ “ต่ำ” ที่เราจั่วหัวไว้ตั้งแต่ชื่อบทความ คือหนังเลือกจะเล่นมุกตลกสกปรกเกี่ยวกับของเหลวในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำลาย ขี้มูก อ้วก อุจจาระ ปัสสาวะ ลามเลยไปจนถึงการหลั่งน้ำกามของหุ่นผ้า! (ฉากที่น่าสะอิดสะเอียนและอุบาทว์ที่สุดคือฉากฟิลร่วมเพศกับหุ่นเชิดอีกตัวและถึงจุดสุดยอดในห้องทำงาน) ยังไม่พอตลอดทั้งเรื่อง ตัวละครก็ได้แต่สบถคำหยาบคายโดยไร้เหตุผล อารมณ์อยากจะด่าก็ด่า ซึ่งไม่ได้สร้างความตลกขบขันให้กับตัวเรื่องราวแม้แต่น้อย ผลลัพธ์ที่ออกมาคือตรงข้ามเพราะกลายเป็นความน่ารำคาญเหลือทน

 

อันที่จริงแล้วตัวหนังเปิดเรื่องมาได้น่าสนใจ เมื่อฟิล หุ่นผ้าได้ตัดพ้อความไม่เท่าเทียมกันระหว่างมนุษย์และหุ่นผ้า บรรดามนุษย์มักจะถือตนว่าตัวเองเป็นชนชั้นที่สูงกว่าและปฏิบัติกับหุ่นผ้าเป็นเหมือนของเล่นหรือแย่กว่านั้น คือมนุษย์สามารถทำร้ายหุ่นผ้าได้อย่างไร้ความประนีประนอม น่าเสียดายแค่จบการจั่วหัว หนังก็กระโดดเข้าสู่ความงี่เง่า ทั้งที่หนังมีแกนหลักของเรื่องที่ว่าด้วยการสืบสวนสอบสวนคดีฆาตกรรมปริศนาที่เกี่ยวโยงกับอดีตของฟิล

 

 

ระหว่างทางที่ฟิลและเอ็ดเวิร์ดสต้องสืบคดี จัดได้ว่าก็มีสีสัน แต่ปัญหาอยู่ตรงที่วิธีการเล่าสถานการณ์เหล่านี้แทนที่จะดูลึกลับ ตื่นเต้น หรือ ตลก ผลลัพธ์กลับออกมาตรงกันข้ามและกลายเป็นความน่ารำคาญ จนเราก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องนั่งทรมานตัวเองเพื่อดูหนังให้จบ แถมเมื่อหนังเฉลยคนร้ายตัวจริงออกมา ก็ไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย ถ้าหากคุณผ่านตากับหนังแนวสืบสวนสอบสวนสักเรื่อง คนร้ายนั้นมักจะอยู่ “ใกล้ตัว” กว่าที่คิด

 

The Happytime Murders มีความยาวเพียงแค่ 91 นาที แต่ดูนาฬิกาครั้งแล้วครั้งเล่า หนังก็ยังไม่จบเสียที นี่สินะที่เราควรเรียกว่าเป็นความทรมานบันเทิงได้อย่างเต็มปากเต็มคำ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook