ทำความรู้จักโลกใต้สมุทรของ Aquaman

ทำความรู้จักโลกใต้สมุทรของ Aquaman

ทำความรู้จักโลกใต้สมุทรของ Aquaman
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนังซูเปอร์ฮีโร่ภาคแยกคนล่าสุดของจักรวาล DC Universe หลังจากที่ไปปรากฏตัวครั้งแรกใน Batman v Superman: Dawn of Justice ครั้งนี้ก็ถึงเวลาของเขาแล้ว ที่ผู้ชมทั้งโลกจะได้รู้จักกับเจ้าชายแห่งดินแดนแอตแลนติส ผู้รักษาความสงบให้กับโลกใต้ทะเลและดูแลพื้นพิภพให้ปลอดภัยด้วยเช่นกัน 

หนึ่งบุรุษผู้ยืนอยู่ระหว่างผืนน้ำและแผ่นดิน

อาเธอร์ เคอร์รี่ ชายหนุ่มผู้มีหน้าที่หลอมรวมโลกผืนน้ำและบนบกให้กลายเป็นผืนแผ่นเดียวกัน เขาต้องผ่าการทดสอบทั้งเรื่องความกล้าหาญ และความเชื่อมั่นในตัวเอง ไม่เพียงเท่านั้น เพื่อรับสิทธิอันชอบธรรมในการเป็นพระราชาแห่งมหาสมุทร เขาต้องเดินทางเพื่อตามหาตรีศูลที่สาบสูญไปให้กลับคืนมา ซึ่งมีเพียงกษัตริย์แห่งแอตแลนติสตัวจริงเท่านั้น ที่จะสามารถครอบครองและควบคุมอำนาจได้ และในภารกิจครั้งนี้เขาต้องร่วมมือกับมีร่า(แอมเบอร์ เฮิร์ด) เจ้าหญิงแห่งท้องทะเลซีเบลเพื่อทำทุกอย่างให้สำเร็จลุล่วง

หนังดราม่าซูเปอร์ฮีโร่แบบฉบับเรื่อง “ปัญหาครอบครัว”

ย้อนกลับไปในปี 1941 นักอ่านหนังสือการ์ตูน ได้รู้จักตัวละครอควาแมนจากคอมมิกส์ในชื่อ Aquaman ก่อนที่จะได้รับการตีความใหม่และปรับยุคสมัยเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เข้ากับเหตุการณ์ในยุคปัจจุบัน และเมื่อทุกอย่างมาอยู่ภายใต้การเขียนบทของผู้เขียนบทฯ เดวิด เลสลี่ จอห์นสัน-แม็คโกลดริคและวิล บีอัล พวกเขาจึงทำให้หนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องนี้เป็นหนังที่มีการเดินทางพี่ทำภารกิจพิชิตตรีศูล ภายใต้การกำกับของเจมส์ วาน

นอกเหนือจากนั้น หนังยังเน้นย้ำในเรื่อง “ที่มา” ของอควาแมนและการถือกำเนิดของตัวละครนี้ อควาแมนได้พลังมาจากแม่ของเขา ได้ความเป็นมนุษย์มาจากพ่อของเขา ทั้งสองมาจากโลกคนละใบและตกหลุมรักในความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เขาคือผลผลิตที่มาจากความรัก และเติบโตขึ้นมาหลังจากที่ทั้งสองต้องแยกจากกัน ทำให้อาเธอร์ตั้งคำถามว่าโลกใบไหนที่เป็น “พื้นที่ของเขา” กันแน่

เมื่อพิจารณาเรื่องฉากหลัง เราจะพบว่าความสัมพันธ์ของตัวละครของพ่อแม่อาเธอร์นั้นเป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับทั้งสองโลก ตัวละครอาเธอร์จึงรู้สึกว่าเขาเติบโตมากับความไม่ปกติ สิ่งที่อาร์เธอร์น่าจะไม่รู้คือถึงแม้ว่า ราชินีแอตแลนน่า (นิโคล คิดแมน) แม่ของเขาจะทิ้งเขาไปหลังจากเกิดการต่อสู้ครั้งรุนแรงที่บ้านของพวกเขา เธอรู้ว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นกับลูกของเธอ เธอจึงมอบพรสวรรค์ให้เขาในหลายด้าน

เนื่องจากอาเธอร์มีเชื้อสายของแอตแลนติส เขาจึงรู้ตัวตั้งแต่เด็กว่าเขามีความสามารถเหนือมนุษย์ในหลายด้าน เช่น เขาหายใจใต้น้ำได้ ว่ายน้ำได้อย่างว่องไว เขาสามารถอยู่ใต้ทะเลที่มีความลึกจนแทบไม่มีอะไรทำลายเขาได้ และที่แน่ๆ คือ “สามารถคุยกับปลาได้” สามารถสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตใต้น้ำได้ นอกจากความกล้าหาญของเขาที่มีใต้น้ำแล้ว เขายังมีความสามารถเหนือมนุษย์บนภาคพื้นดินอีกด้วย เช่น มีความแข็งแกร่ง มีประสาทสัมผัสที่ไวขึ้น และมีผิวหนังที่ทนทาน ไม่ว่าจะมีการต่อสู้เกิดขึ้นบนภาคพื้นดินหรือท้องทะเล อาร์เธอร์ต้องปกป้องโลกทั้ง 2 ใบเอาไว้... มิเช่นนั้นจะเสี่ยงต่อการพังทลายทุกอย่างลง

เจสัน โมมัวกับบทอควาแมน

การรับบทนำในบทอควาแมน ของเจสัน โมมัว เขาต้องตอกย้ำคาแรกเตอร์นี้ด้วยการซ่อนเร้นความอ่อนแอและแสดงความแข็งแกร่ง ด้วยการพูดจากวนประสาท เสียดสีเก่ง และถ่ายทอดความตลกของเขาออกมาในรูปแบบซูเปอร์ฮีโร่คนใหม่ของค่าย DC

ความลำบากในการยอมรับสถานะของตัวละครอาเธอร์นั้น เหตุผลที่เจสัน โมมัวเหมาะสมกับบทอควาแมนนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องรูปร่างภายนอกเท่านั้น แต่เมื่อพิจารณาประวัติส่วนตัวของเขาแล้ว ก็จะพบว่า การที่เขาเป็นคนฮาวายและเดินทางมาเติบโตในอเมริกากลาง ทำให้ตัวเขาเองก็รู้สึกว่า ตัวเขานั้นก็ไม่ได้รู้สึก “เหมาะสม” กับเมืองไหนเลยเช่นกัน

ในด้านการศึกษา เจสัน โมมัวเคยเรียนด้านชีววิทยาทางทะเล ตอนที่เขาเติบโตมารัฐไอโอว่าอีกต่างหาก ไม่เพียงเท่านั้น เวลาว่างๆของเขาก็จะชอบไปเล่นเซิร์ฟบอร์ดแถวทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิค นอกฝั่งบ้านชายทะเลของเขาที่โกลด์โคสต์ ประเทศออสเตรเลียช่วงที่ถ่ายทำภาพยนตร์

อควาแมนในเวอร์ชั่น 2018

เมื่อพิจารณาจากรูปร่างลักษณะของตัวละครอควาแมนในเวอร์ชั่นคอมมิกส์เราจะพบว่ามีการดัดแปลงและแตกต่างอยู่ไม่น้อย ทีมผู้สร้างเลือกที่จะให้เจสัน โมมัว ถ่ายทอดตัวตนออกมาเพื่อเป็นอควาแมนในเวอร์ชั่นของเรา และเจสันก็สร้างบุคลิกใหม่ขึ้นมา ฉันคิดว่ามันมีความแปลกใหม่ ทันสมัย เท่ และต่างจากอควาแมนเวอร์ชั่นอื่นๆ เหนือกว่าที่เราคาดหวังจากหนังสือการ์ตูน แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าไม่ผิดเพี้ยนจากหนังสือ

 

แอตแลนติสดินแดนท้องทะเลแห่งจินตนาการ

โลกของ “อควาแมน” เป็นดินแดนที่มีความกว้างขวาง ทีมงานจึงต้องถ่ายทอดโลกใต้ทะลอย่างแอตแลนติส ให้มีบรรยากาศแตกต่างจากท้องทะเลในแบบที่ผู้ชมไม่เคยเห็นมาก่อน “นี่เป็นโลกที่อยู่ห่างไกลจากเราไป เหมือนเป็นโลกอีกใบหนึ่ง มีเพียงจินตนาการเท่านั้นที่จำกัดเราเอาไว้ เราไม่รู้เลยว่าข้าวของต่างๆ เวลาอยู่ใต้น้ำจะมีหน้าตาแบบไหน เส้นผมจะเคลื่อนไหวยังไง สำหรับชาวแอตแลนติสแล้วน้ำเปรียบเสมือนอากาศของพวกเรา นั่นคือสภาพที่พวกเขาโตขึ้นมา

ทุกอย่างที่อยู่ในโลกใต้น้ำในเวอร์ชั่นของชาวแอตแลนติสต้องต่างจากที่อื่น แอนแลนติสเป็นเหมือนกับกรุงโรมที่ไม่มีวันล่มสลาย ที่นั่นมีทั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยและสิ่งที่มีความเก่าแก่ แถมยังมีสนามประลองการต่อสู้อีกด้วย ซึ่งเป็นสถานที่ที่แสดงออกถึงชัยชนะและมีความโดดเด่น มีความล้ำสมัยแต่ก็ยังมีส่วนที่คงความเก่าแก่เอาไว้ในตัวนั่นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook