รีวิว Han Solo: A Star Wars Story ฮาน โซโล 101 ที่ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่

รีวิว Han Solo: A Star Wars Story ฮาน โซโล 101 ที่ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่

รีวิว Han Solo: A Star Wars Story ฮาน โซโล 101 ที่ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

 

ความสนุกสนานและความน่าสนใจของการสร้างภาคแยกในฟรานชายส์ Star Wars นั้น คือหนังเหล่านี้จะมีลักษณะที่แตกต่างไปจากมหากาพย์ Star Wars ภาคหลักที่มุ่งเน้นไปในเรื่องของสงครามระหว่างฝ่ายจักรวรรดิและฝ่ายสาธารณรัฐ อันมีเจไดผู้พิทักษ์ แต่ในหนังภาคแยกเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น Rogue One: A Star Wars Story ที่ดำเนินเรื่องราวเป็นหนังแนวไซไฟ-จารกรรม ซึ่งทำให้เกิดความแปลกใหม่แบบที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อนในจักรวาลนี้

 

เช่นเดียวกันกับ Han Solo: A Star Wars Story ที่เป็นหนังภาคแยก แต่ดำรงอยู่ภายใต้จักรวาลเดียวกับมหากาพย์ Star Wars โดยเลือกจะเล่าไปที่จุดเริ่มต้นอย่างตัวละครฮาน โซโล (ซึ่งใน Episode IV A New Hope ที่รับบทโดยแฮริสัน ฟอร์ดนั้น เป็นช่วงเวลาที่เขาผ่านช่วงชีวิตมาประมาณหนึ่งแล้ว) หนังภาคนี้จึงเปรียบเสมือนการไขความลับ ความเป็นมาว่าเขามีจุดกำเนิดมาจากที่ไหน เป็นใครและผ่านชีวิตอะไรมาบ้าง

 

 

ในหนังภาคนี้เราจึงได้เห็นช่วงชีวิตในวัยรุ่นของฮาน โซโล (อัลเดรน เออร์เรนริช) ที่เติบโตมาภายใต้สถานการณ์ปากกัดตีนถีบ และต้องเอาชีวิตรอดจากแวดวงอาชญากรรมที่ผลักดันให้เขา เป็นคนที่มีอุปนิสัยมีไหวพริบ ฉลาด บ้าบิ่น กล้าได้กล้าเสีย และเลือกความท้าทายมากกว่าจะดำเนินชีวิตไปในเส้นทางปกติ

 

ด้วยความลำบากทำให้เขามองหาอนาคตที่ดีกว่าอยู่เสมอ ในช่วงเปิดเรื่องของหนัง เราจะเห็นได้ว่าฮานพยายามเอาชีวิตรอดจากวงเวียนการเป็นโจรด้วยการโบยบินไปในจักรวาลผ่านการเป็นนักบิน เขาพบรักกับคีร่า (เอมิเลีย คลาร์ก) และคิดที่จะหนีไปจากแวดวงอาชญากรรมซ้ำซาก แต่ปรากฏว่าแทนที่ทั้งคู่จะหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน กลายเป็นพวกเขาต้องพลัดพรากจากกัน ฮานกลายไปเป็นทหารของฝ่ายจักรวรรดิ ส่วนคีร่าถูกจับกลับไปอยู่ในวงการอาชญากรรมเดิมๆ

 

 

 

เหตุการณ์ต่อจากนี้เราจะได้เรียนรู้ชีวิตของฮาน โซโลว่าทำไมเขาถึงได้พบกับมิตรสหายตลอดกาลอย่างชิวบาคก้า อะไรที่หล่อหลอมให้ฮานเติบโตขึ้นมา และทำไมเขาถึงมาขับยานมิลเลเนียมฟอลคอน และรักครั้งแรกของเขายืนยาวหรือจบลงอย่างไร

 

สิ่งที่ปรากฏใน Han Solo: A Star Wars Story นั้นเราจะเห็นได้เลยว่า หนังมี “ตะเข็บ” ของความไม่ลงตัวอยู่ในหนังหลายประการ มองในแง่หนังตลกขบขันก็ไปไม่สุดสักทาง (หลายครั้งเราจะพบว่ามุกตลกนั้นกลายเป็นมุกแป้ก) ในแง่ของฉากแอ็คชั่นก็ไม่ได้แปลกใหม่หรือน่าตื่นตาตื่นใจสักเท่าไหร่ สาเหตุเหล่านี้อาจจะมีจุดเริ่มต้นมาจากการที่แคทเธอรีน เคเนดี้ โปรดิวเซอร์ใหญ่ของดิสนีย์ตัดสินใจไล่สองผู้กำกับคนเก่งอย่างฟิล ลอร์ดและคริสโตเฟอร์ มิลเลอร์ออกแล้วตัดสินใจจ้างผู้กำกับรอน โฮเวิร์ดมาถ่ายหนังเรื่องนี้ซ่อม (และเหตุการณ์เปลี่ยนผู้กำกับกลางคันและถ่ายซ่อมไม่ได้เกิดขึ้นกับหนังดิสนีย์เรื่องนี้เป็นครั้งแรก แต่ Rogue One: A Star Wars Story ก็เช่นเดียวกัน)

 

 

ปัญหาในภาพรวมคือ สำหรับเรามองว่าอัลเดรน เออร์เรนริชไม่มีเสน่ห์มากพอที่จะโอบอุ้มบทฮาน โซโล และเคมีของเขาก็ไม่เขากับเอมิเลีย คลาร์ก หลายครั้งที่ เอมิเลีย คลาร์กปรากฏตัวร่วมจอกับอัลเดรน เราจะเห็นได้เลยว่าออร่าของฝ่ายหญิงนั้นกลบฝ่ายชายซะเรียบ

 

น่าเสียดายที่การหยิบเอาตัวละครที่เปี่ยมไปด้วยสีสันตัวหนึ่งของจักรวาลสตาร์วอร์ จะออกมา “จืด” กว่าที่ควรจะเป็น และภาพรวมของหนังเรื่องนี้ก็สนุกน้อยกว่าที่จะเป็นได้ด้วยเช่นเดียวกัน ยังไม่รวมถึงความพยายามของผู้กำกับรอน โฮเวิร์ดที่พยายามจะใส่กลิ่นอายของหนังคาวบอยตะวันตกเข้ามาในเรื่อง ก็จัดว่าค่อนข้างล้มเหลว

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook