รีวิว SLUMBER หนังผีขี้อำ

 

 

อันที่จริงแล้ว SLUMBER อาจจะเป็นหนังที่มีส่วนผสมระหว่างหนังวิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์ แต่ด้วยความ “ไม่ไปไหนสักอย่าง” ของหนังเรื่องนี้ จึงกลายเป็นหนังที่มีพล็อตเรื่องน่าสนใจแต่นำเสนอได้แบนราบและค่อนข้างน่าเบื่อไม่น้อยเลยทีเดียว

 

หนังเปิดเรื่องมาที่อลิซในวัยเด็กที่เผชิญหน้ากับเหตุการณ์เศร้าสลด เมื่อพี่ชายของเธอมีอาการนอนละเมอและตกจากหน้าต่างลงมาจนเสียชีวิต เมื่อเติบโตขึ้น (แม็กกี้ คิว) อลิซจึงกลายเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญหาในการนอนหลับ โดยระหว่างทำงานนั้นเธอได้พบกับผู้ป่วยครอบครัวหนึ่งที่ต้องเผชิญหน้ากับอาการนอนละเมอยกครอบครัว

 

 

ความพิลึกพิลั่นยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่ออลิซค้นพบว่า ครอบครัวนี้ยามที่พวกเขาหลับ ลูกชายคนเล็กของบ้านมักจะมีอาการเกร็ง ชัก ราวกับถูกผีอำ ในขณะนั้นทุกคนในบ้านที่เหลือจะเกิดอาการนอนละเมอและมีพฤติกรรมน่าขนลุก ไม่ว่าผู้เป็นพ่อที่จะมีอารมณ์ฉุนเฉียว แม่ที่กำลังปั่นน้ำผลไม้แบบไม่รู้ตัวจนจะยัดมือเข้าไปในเครื่องปั่น หรือลูกสาวคนเล็กที่มักจะไปหยิบของมีคมมาเล่น เป็นต้น

 

ความเป็นจริงอาการนอนละเมอทางการแพทย์นั้นระบุ ว่าพฤติกรรมเช่นนี้ ผู้ป่วยอาจจะมีพฤติกรรมในการลุกเดินไปมา ระหว่างที่ร่างกายอยู่ภายใต้สภาวะหลับลึก หรือมีการเปลี่ยนแปลงจากช่วงหลับลึกเป็นหลับตื้น จึงทำให้ไม่รู้ตัวส่วนใหญ่อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นในวัยเด็กช่วงอายุ 4-8 ขวบ และอาการจะหายไปในช่วงวัยรุ่น มีผู้ใหญ่ส่วนน้อยที่มีอาการเหล่านี้  โดยอาการนั้นมักจะเกิดหลังจากที่ร่างกายหลับไปแล้วประมาณ 1-2 ชั่วโมงและอาการมักจะเกิดเป็นเวลาสั้นๆ

 

 

แม้อาการทางวิทยาศาสตร์อาจจะไม่ได้ดูน่าขนลุก แต่หนังก็เลือกจะหยิบตำนานปรัมปราที่เกี่ยวกับปีศาจ ใส่เข้ามาในหนังให้ดู “มีอะไร” มากกว่าเดิม ทว่าส่วนผสมระหว่างวิทยาศาสตร์กับไสยศาสตร์นั้น หนังเล่าเรื่องออกมาไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่นัก หรือพูดง่ายๆว่าเป็นพล็อตเรื่องที่ค่อนข้างซ้ำซากเดินเรื่องด้วยสูตรสำเร็จหนังสยองขวัญทุกประการอาทิ ตัวเอกมีปมในวัยเด็ก เติบโตมาทำอาชีพที่พิสูจน์ความจริงในวัยเด็ก ได้เผชิญหน้ากับเรื่องราวเหนือธรรมชาติ จากนั้นเธอพยายามทำความเข้าใจต้นตอของเหตุการณ์ทั้งหมดและสามารถผ่านพ้นวิกฤตชีวิตไปได้ในที่สุด ซึ่งระหว่างทางของหนังก็เรียกได้ว่าค่อนข้างราบเรียบออกจะน่าเบื่อด้วยซ้ำไป

 

ยังไม่รวมไปถึงการที่หนังไม่มีคำอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในเรื่องว่า ทำไมปีศาจเหล่านี้จึงต้องเลือกสิงสู่ วิธีการเอาชนะปีศาจ หรือกระทั่งแรงผลักดันที่ทำให้ตัวละครทำพฤติกรรมแบบในหนัง กระทั่งฉากหักมุมตอนท้ายเรื่องที่เหมือนผู้กำกับสักแต่ว่าทำให้จบๆไปและไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่เหนือความคาดหมายเลยสักนิดเดียว