เปิดใจ "เต้ ดาวิชญ์" มุมมองความฟีลกู้ด จากจุดเริ่มต้นที่ติดลบ

เปิดใจ "เต้ ดาวิชญ์" มุมมองความฟีลกู้ด จากจุดเริ่มต้นที่ติดลบ

เปิดใจ "เต้ ดาวิชญ์" มุมมองความฟีลกู้ด จากจุดเริ่มต้นที่ติดลบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บอกเลยว่าหนุ่มๆ แก๊งทูมูนส์ หลังจากแจ้งเกิดยกแก๊งในซีรีส์ "เดือนเกี้ยวเดือน 2Moons The Series" ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ออกงานทีแฟนคลับตามไปให้กำลังใจเยอะมากกก จนได้มีแฟนมีตติ้งในต่างประเทศกันแล้ว ด้วยความบังเอิ๊ญ บังเอิญ "เจ๊จี" มีโอกาสได้เจอหนุ่มหล่อหน้าคม "เต้ ดาวิชญ์ กรีพลฤกษ์" หลังงานเดินแบบชื่อดัง ก็ขอฉกตัวมานั่งคุยกันแบบสบายๆ พูดถึงความรู้สึกหลังงานแฟนมีตติ้งต่างประเทศครั้งแรกของเขาและเพื่อนๆ กันสักหน่อย

 

การไปจีนครั้งนี้ได้ข่าวว่ามีเรื่องมาเล่าเยอะมากกกกกก ไหน.. ไปเจออะไรมาบ้าง เล่าให้เจ๊จีฟังหน่อยสิคะคุณหลวง

ไปจีนก็สนุกมากครับ เป็นการไป Asia Tour ครั้งแรกของ 6 คนนะครับ แล้วก็ไม่คิดว่าจะมีกระแสตอบรับดีขนาดนี้ เราไม่เคยเห็นภาพที่นู่นเลย เราไม่เคยไปเลยโดยเฉพาะเต้ เต้ไม่เคยไปจีนเลยนะ เราไม่รู้ว่าที่นู่นเขารู้จักเราแค่ไหน ปรากฏว่าพอไปถึงแล้ว เราถึงดึกมาก ตอนตีหนึ่งตีสอง พวกเขาก็ยังรอที่สนามบินอยู่เยอะมากๆ เขาเรียกว่าอะไรอ่ะ เขาปลื้มเรามาก วิ่งเข้ามาทับๆ จนกระจกที่สนามบินแตก เป็นประสบการณ์ใหม่มากๆ แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดี เรารู้สึกดีที่เขาชื่นชมเรา ก็ตกใจนะครับ เราไม่เคยเจอไง เราเคยเจอแต่แฟนคลับชาวไทยหรือว่าชาวจีนที่เขาบินมาไรงี้ แต่พอไปที่นู่นเหมือนเขาแบบ...ด้วยความที่เขาไม่เคยเจอตัวจริง เขาเลยรู้สึกประทับใจเป็นพิเศษไรงี้ ก็เลยมีการบุกเข้ามานิดนึง แต่ว่าก็มีการ์ดที่เขาคอยคุมอยู่

ในประเทศจีนกระแสคู่เรา เต้-ตี๋ (โฟร์ท-บีม) ถือว่าเป็นยังไง

ต้องบอกว่าดีกว่าที่คิด ด้วยความที่ว่าโฟร์ทกับบีมอ่ะ มันไม่ค่อยมีบทด้วยกันเลย ยังไม่มีเรื่องราวด้วยกัน อย่างก็อตบาสต้องมีเยอะเป็นพิเศษอยู่แล้ว แต่ว่าของเต้ตี๋ก็ยังมีนะ เขาแบบทำรูป ทำป้าย ทำอะไรให้ อาจจะด้วยเพราะเราออกรายการ ออกไปเล่นเกมด้วยกัน เรามี EP พิเศษที่เกิดโมเม้นท์ แล้วเขาก็เอาปริ้นท์ออกมาให้เราดู อะไรแบบนี้ จริงๆอยากขอบคุณแฟนคลับชาวจีนมากๆเลยครับ เพราะว่าเราก็เทคแคร์เขาได้ไม่เท่าแฟนคลับไทย เพราะเราอยู่ไกลกัน แต่เขาก็ยังรักเราขนาดนี้ ทั้งบินมาหาเรา เราประทับใจมากๆ

ไปกับเพื่อน 6 คน ... มันดีมั้ย?

จริงๆมันมีโมเม้นท์เยอะมาก มันสนุกตรงที่มันไปกัน 6 คนด้วยครับ มันเหมือนแก๊งเพื่อนที่ออกไปเที่ยวต่างประเทศ ระหว่างทางที่เดินขึ้นรถ แฟนคลับเขาก็จะพยายามเข้าหาเรา ตกใจนิดนึง ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น เรื่องเบียดเสียดเพราะว่าเราเป็นคนที่ถูกดูแล คนที่มาดูแลอาจจะมีฟกช้ำบ้าง เพราะคนที่ดูแลเราเขาอยู่วงนอก แต่คือเราไม่ได้รู้สึกกลัวขนาดนั้น เขาก็น่ารักในแบบของเขา ขับรถตามเรา เราขึ้นรถตู้ไปแล้ว ข้างหลังมีรถขับตามเจ็ดแปดคันเป็นขบวนอ่ะ อันตรายตรงที่มันอาจจะเกิดอุบัติเหตุรถชนได้ ด้วยความที่เขาขับจี้



ทริปแรกก็เจอเรื่องเซอร์ไพรส์แอบหวาดเสียวตามติดขนาดนี้ มีอะไรอยากจะบอกแฟนคลับจีนมั้ย​ 

'อยากขอบคุณมากกว่า เราเข้าใจเขานะ โอกาสที่เราจะได้เจอกันมันน้อย เขาก็เลยอยากจะใช้จังหวะที่เราอยู่ให้ได้มากที่สุด เราอยากจะขอโทษเขาด้วยซ้ำที่เราเทคแคร์เขาได้ไม่เต็มที่ เรารู้สึกว่าเขาน่ารักมากๆ ไม่ได้รู้สึกไม่ดีเลย'

 

แค่เริ่มต้นก็มีความสนุกเกิดขึ้นแล้วสิ การไปทำงานต่างประเทศครั้งแรกของพวกเขาทั้ง 6 มีเรื่องสนุกๆ โมเมนท์ประทับใจเหมือนการออกเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกกับแก๊งเพื่อน แถมยังต้องเซอร์ไวเวอร์กับการติดตามของแฟนคลับจีน ที่ต้อนรับพวกเขาอย่างอบอุ่น ตามติดทุกที่ ไปไหนไปกัน แม้กระทั่งตอนเข้านอน...เรื่องนี้ทำเอาหนุ่มเต้ถึงขั้นต้องเปลี่ยนห้องกลางดึกเลยทีเดียว

การไปต่างประเทศกับเพื่อนๆ ครั้งแรกสำหรับเราเป็นยังไง

การที่เราไปอยู่ด้วยกัน กินนอนด้วยกันหกคน มันทำให้เราสนิทกันมากขึ้นครับ ทริปที่แล้ว(ทะเล) เรารู้สึกแบบ.. เรารู้จักกันแล้ว แต่ครั้งนี้เหมือนเราไปอยู่ด้วยกันแล้วเรารู้จักกันมากขึ้นไปอีก มันทำให้เราทั้งหกคนรักกันมากขึ้น อาจจะมีบาสวันสุดท้าย ที่ไม่ได้ไปด้วยกัน เพราะเขาติดภารกิจเรื่องงานที่เมืองจีน ยังมีทริปอีกเยอะมากๆ เราคงสนุกอีกมาก แต่ว่าแอบเสียดายตรงที่ว่าเราไปเมืองจีนแล้วเราไม่ค่อยได้เที่ยว ด้วยความที่เวลามันน้อย แล้วก็ทีมงานเขาห่วงเรื่องความปลอดภัย ก็เลยอยากไปนู่นไปนี่ สุดท้ายก็ขอเขาไป ให้พาไปนิดนึง เขาก็เลยพาไปตลาดที่เป็นเหมือนแลนด์มาร์ค ที่นั่นสวยมาก แฟนคลับก็ไปด้วยกันเลยครับ เดินไปไหนไปกัน (ไม่รู้สึกวุ่นวายเหรอ) มันตลกดีครับ เห้ย เหมือนมันเป็นประสบการณ์อ่ะ เราไม่เคยเจออะไรแบบนี้ คือเรารู้สึกแปลกดี

ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันยังไงในต่างแดน

คือจริงๆอ่ะ ห้องมันนอนได้สองคนไง เขาก็คิดอะไรไม่ออก ให้เรานอนตามคู่ที่เราแสดงด้วยกันนั่นแหละ คือตกดึกมันก็เดินมาหากันอ่ะ วันนี้ห้องไหน ห้องไร มานั่งคุยนั่งไรกัน เพราะว่าเขาไม่ให้เราออกไปไหนไง เราก็ต้องเอ็นเตอร์เทนกันเองอยู่ในห้อง (หัวเราะ) (มีแฟนคลับที่ตามมาถึงที่ห้องไหม) มีครับ ของเต้ต้องโดนย้ายห้องเพราะว่าเขามาอยู่ห้องตรงข้าม มีมาเคาะห้องบ้าง แต่เอาจริงๆ เต้ไม่ได้รู้สึกกลัวเขานะ เต้ว่ามันตลกดี เออ เราเป็นผู้ชาย เราไม่ได้มีอะไร คือว่ามันตลกดีมากกว่า แต่ว่าทีมงานเขาก็เป็นห่วงเราไง ธรรมดาเนอะ เขาก็ต้องเป็นห่วงความปลอดภัย

ในมีตพูดจีนได้ด้วย

อ๋อ ใช่ จริงๆ เต้เคยเรียนภาษาจีนมาประมาณสองสามปีแล้ว ก็เลยมีพื้นพอสมควร จริงๆ ที่บ้านก็มีเชื้อจีนนะ! ทั้งๆ ที่หน้าแบบไม่จีนเลย(หัวเราะ) ที่บ้านก็มีพูดจีนบ้าง ตี๋ก็เรียนเหมือนกัน ก็เลยกลายเป็นว่าเต้ตี๋จะเอ็นเตอร์เทนแฟนคลับเป็นภาษาจีนได้มากกว่าคนอื่น เพราะว่าเราไปแล้ว เราก็อยากทำมันออกมาให้ดีที่สุด เอาใจเขาให้ได้มากที่สุด อยากเทคแคร์อะไรแบบนี้

เผาเพื่อนหน่อย ไปจีนรอบนี้ใน 6 คนมีใครก่อวีรกรรมแสบมั้ย

ตี๋ก่อนเลย เขาสั่งห้าม ห้ามออกไปข้างนอกเพื่อความปลอดภัย เพื่อที่จะได้ดูแลง่ายๆ ทุกคนหลับหมดปุ๊บ เช้ามาตี๋อัดคลิปมาอวดทุกคน ไปมินิมาร์ทมาครับ ซื้อของด้วย ถ่ายรูปไอติมมาให้ดู ไปคนเดียวด้วย! ลากแตะไปด้วย! เป็นคนจริงครับคนนี้ (แล้วกลับมาไม่โดนดุเหรอ) ก็โดน (หัวเราะ) ตามระเบียบไปครับ แต่มันก็ขำอ่ะ (ขำยาว 555555) แล้วก็... อันนี้ทุกคนเลย ไปเมืองจีนแล้วแบบ อาหารไม่ใช่ไม่อร่อย เราแค่ไม่ชินไง มันมีอาหารชื่อหมาล่า หมาล่ารสชาติของมันจะเผ็ดๆชาๆ กินแล้วปากเจ่อนิดนึง เพราะมันจะทำให้ชาปากไรงี้ ทุกคนก็แบบพอกินเสร็จแล้วก็ทำปากเจ่อใส่กัน แฟนคลับจีนก็น่ารักมากนะครับ กลัวเรากินไม่อิ่มไง ก็เลยซื้อหมาล่ามาให้อีก (หัวเราะ) ก็ขำกันไรงี้


ต่อไปต้องไปที่ไหนอีก

ยังเหลือประเทศจีนอีก 4 มณฑล อีก 4 รอบครับ แล้วก็มีฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ตอนนี้ก็เริ่มเตรียมโชว์สำหรับอีกประเทศแล้วครับ แล้วก็อาจจะมีดีเทลไม่เหมือนกันเพราะว่าภาษาวัฒนธรรมไม่เหมือนกัน ก็จะพยายามทำให้เข้ากับวัฒนธรรมเขาที่สุด

เจอแฟนคลับเข้ามาหาเยอะๆแบบนี้ ต่อไปต้องเตรียมตัวรับมือยังไงมั้ย

เต้ว่ามันจะยิ่งชินอ่ะ ว่าแบบอ๋อๆ แบบนี้ เหนื่อยก็ตรงต้องแบกของแล้ววิ่งอ่ะ นึกออกป่ะ ไปขึ้นเครื่องสนามบินไม่ทันแล้วก็ต้องวุ่น จริงๆแล้วทีมงานไปเยอะนะครับ เหมือนเขาให้มีที่เป็นการ์ด 30 คน แล้ววันงานจริงก็มีเป็นร้อยเลย จริงๆก็เยอะแล้ว แต่บางทีอ่ะเนอะ คนก็กรูกันเข้ามา บางทีเขาก็เอาไม่อยู่เหมือนกัน

มีประเทศไหนที่เราอยากไปมั้ย

จริงๆประเทศที่อยากไปคืออยากไปหมดเลย เพราะไม่เคยไป มันเหมือนได้ไปเปิดหูเปิดตาเราด้วย ที่ไปจริงๆก็มีแค่ญี่ปุ่นกับฮ่องกงเอง เกาหลีก็ยังไม่เคย เต้ว่าทุกที่มันมีความสนุกของมันเอง ความสนุกของบ้านเขา เราดีใจที่จะได้ไปเจอแฟนคลับ เพราะว่าเราดูเหว่ยป๋อ เราดูทวิตเตอร์ เราดูอินสตราแกรม เราเห็นภาษาของเขา เราเห็นเขาส่งข้อความส่งอะไรมา แต่เราแบบไม่ได้เจอเขา ยกตัวอย่างเช่นประเทศอินโดนีเซีย เขาถ่ายรูปสมาชิกในบ้าน มีป้ายแบนเนอร์มีอะไรแบบนี้ คือเขามีบ้านเราขนาดนี้แล้วแต่เราไม่เคยเจอเลย ก็อยากไปเจอครับ ดีใจที่จะได้ไปเจอ

นอกจากประเทศที่บอกมา มีประเทศอื่นที่ติดต่อมาอีกมั้ย

จริงๆมีค่อนข้างเยอะมากเลย ไม่ใช่แค่ในเอเชียด้วย จริงๆมีทั้งยุโรปทั้งอเมริกาด้วย แต่ว่าผู้ใหญ่เขาก็มองในเรื่องการเดินทาง เรื่องตารางงาน เพราะแค่ที่มีอยู่ตอนนี้ก็ยาวไปถึงปีหน้าแล้ว คือเราพยายามเมเนจ แต่มันก็อาจจะรับได้ไม่หมด

แล้วส่วนตัวเต้เอง มีผลงานอัพเดตมั้ย

ก็มีผู้ใหญ่ติดต่อเข้ามา แต่ว่ายังอยู่ในขั้นที่เราลองไปแคสไปดูบทอะไรหลายๆอย่าง แต่ยังไม่มีผลงานที่แบบ เราลงเรื่องนี้นะ ยังไม่คอนเฟิร์ม ยังอยู่ในช่วงที่คุยกันครับ แล้วอีกอย่างเราทัวร์ Asia Tour ก็เยอะแล้ว แล้วพอสิ้นปีเราอาจจะต้องถ่ายซีซั่นสองต่อ ตอนนี้ก็เลยคิดว่าเรายังมีงานต้องทำอยู่ (ซีซั่นสองคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว) จริงๆไม่อยากคอนเฟิร์ม ผู้ใหญ่เขาต้องเตรียมงาน แล้วตัวนักแสดง จากซีซั่นหนึ่งเราคือหน้าใหม่ไง ซีซั่นสองเราต้องดีกว่าเดิม เราต้องไม่ใช่หน้าใหม่แล้ว มันก็ต้องทำการบ้าน เราต้องไปฝึกความสามารถให้มากขึ้น ก่อนหน้านี้ที่จะมาแสดงกัน ก็มีเรียนมาก่อนที่จะเริ่มซีซั่นหนึ่ง อาจจะเรียนมาไม่เท่ากัน เรียนแล้วก็มีครูต้าเข้ามากรองให้อีกทีนึง ตอนนี้ครูต้าก็บอกอาจจะต้องเรียกทุกคนมาเวิร์คชอปกันหน่อยนะ เหมือนต้องเริ่มตั้งแต่เนิ่นๆ

 

ฟังไป (มองหน้าไป) ก็เพลินมากนะ เสียงทุ่มละมุนของหนุ่มเต้ เล่าถึงความประทับใจในต่างแดน มีแต่ความรู้สึกดีๆ อบอวนไปหมด เรื่องราวในต่างแดนว่าฟินแล้ว เจ๊จีขอชวนหนุ่มเต้ย้อนกลับไปพูดถึงความประทับใจครั้งแฟนมีตติ้งครั้งแรกที่ประเทศไทยกันบ้าง กับความรู้สึกที่ชวนให้หลั่งน้ำตากันยกแก๊ง เจ๊จีแอบสังเกตสีหน้าหนุ่มๆวันนั้นได้ น้ำตาคลอหน่วยกันทุกคนพ่อคุณเอ๊ย พูดถึงเรื่องนี้หนุ่มเต้ก็มีความรู้สึกในใจอยากพูดออกมาถึงเหตุการณ์นั้นเช่นกัน 

 

ยังจำความรู้สึกวันมีตติ้งที่ไทยได้มั้ย รู้สึกอะไรถึงร้องไห้กันขนาดนั้น

ซึ้งนะ เขาเรียกว่าอะไรอ่ะ คือมันเป็นภาพที่เราประทับใจ เขาเซอร์ไพรส์ไง เราหันมาก็แบบ ไม่รู้ว่าเขาจะเตรียมเซอร์ไพรส์เอาไว้ แล้วร้องเพลงด้วยกัน คือโมเม้นท์นั้นมันซึ้งอ่ะ จริงๆตอนแรกเต้กลั้นไว้อยู่ไง เต้ไม่อยากจะให้มันเศร้า แต่หันมาเห็นก็อตบาสไปแล้วครับ คือเห็นปุ๊บแล้วมัน.. คือเข้าใจใช่มั๊ย พอเห็นเพื่อนร้องแล้วเราก็ยิ่งรู้สึกเซ็นท์ซิทิฟขึ้นมา สุดท้ายก็กลั้นน้ำตาไม่ไหว มันไม่ใช่น้ำตาที่เศร้านะ จริงๆมันรู้สึกซาบซึ้ง ตื้นตัน อย่างเต้แล้วก็ใครหลายๆคนไม่เคยเต้น เต้นไม่เป็นเลยอ่ะ แล้วเราไปเต้นมันเป็นประสบการณ์

 

ด้วยจุดเริ่มต้นของเราเจอกระแสฟีดแบคมาเยอะด้วยหรือเปล่า ถึงทำให้เกิดน้ำตา

ตัวเต้ตอนที่แคสมา เต้เองเป็นคนที่ยังไม่... คือด้วยความที่ยังไม่พร้อม บุคลิกเรายังไม่ดีหลายๆอย่าง ก็อาจจะเป็นกระแสไม่ดี เป็นกระแสลบกับตัวเรา แต่เราไม่ได้โกรธเขานะครับ เพราะว่าเรายอมรับว่าตอนนั้นเราไม่พร้อมจริงๆนะครับ เพียงแต่ว่าผู้ใหญ่เขามองว่าเราสามารถดีขึ้นได้และให้โอกาส แล้วก็พอมันผ่านความกดดันมา

'เราเริ่มจากศูนย์อ่ะ เราเริ่มจากติดลบด้วยซ้ำ แล้วมาถึงวันที่เราหันกลับมาแล้วมีแฟนคลับอยู่ข้างๆเราเยอะขนาดนี้ มันเป็นอะไรที่เราอธิบายไม่ได้ มันเกินกว่าคำว่าขอบคุณ มันเลยเป็นโมเม้นท์ส่วนหนึ่งที่ทำให้เราหลั่งน้ำตา'

แฟนคลับเป็นแรงผลักดัน ไม่ใช่แค่แรงผลักดันสิ บางทีเราท้อหรืออะไร เราเข้าไปอ่าน...บางทีเราทำงานแล้วเราเหนื่อย แล้วหันไปเห็นว่ามีบ้านของเรา มีบ้านของพวกเราหกคนอะไรแบบนี้ มันเหมือนชุบชีวิตให้เราวางความทุกข์ทุกอย่างได้ มีความสุขที่ได้เห็นเขาอยู่ข้างๆ


ตอนนี้ให้คะแนนตัวเองกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว

เรื่องประสบความสำเร็จ คือจะบอกว่ามันมาไกลกว่าที่ฝันไว้แล้วอ่ะ ไม่เคยคิดเลยจริงๆนะ ไม่เคยคิดเลยว่าอยากจะมีชื่อเสียง เหมือนเรามาลองทำเพราะเราอยากรู้ว่าเราชอบมั๊ย เราอยากลองแสดงออกมาให้ดีที่สุด เราคิดตรงนี้ แต่วันนี้เหมือนกลายเป็นว่ามีคนรักเราขนาดนี้ เต้ว่ามันเกินร้อยอ่ะ มันเกินกว่าที่คิดไว้เยอะมากๆ

อยากบอกอะไรทุกคน...

จริงๆไม่มีอะไรมาก อยากขอบคุณมากกว่า ขอบคุณสำหรับที่ผ่านมา มันมาไกลกว่าเราคิดมากๆ ไม่คิดว่าบ้านของพวกเราจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆและมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มันคือความสุขของเต้และเพื่อนๆนะ ขอบคุณที่อยู่ข้างๆกัน หวังว่าพวกเราจะให้ความสุขกับทุกคนได้ต่อไปเรื่อยๆเหมือนกัน

ฮีลหัวใจด้วยความรู้สึกฟีลกู้ดจากผู้ชายสายละมุนคนนี้ "เต้ ดาวิชญ์" จากจุดเริ่มต้นที่ติดลบ มาจนถึงวันที่มีคนรักมากมาย แต่ทุกสิ่งสำหรับตัวเขา ถือเป็นประสบการณ์และความสุขที่ทำให้ได้ก้าวเดินต่อในเส้นทางนี้ พลังจากแฟนคลับกลายเป็นแรงพลักดันให้กับตัวเขา ... เชื่อว่าตัวหนุ่มเต้เองก็เป็นวิตามินแรงใจให้ใครหลายๆคนเช่นกัน

ครั้งหน้าเจ๊จีจะเปิดใจคนดังคนไหนอีก รอติดตามนะจ๊ะ ตอนนี้เจ๊จีขอนอนฟังเสียงนุ่มๆละมุนของหนุ่ม #เต้ติสชีวิตโลเทค วนไปก่อนละกัน ฮุฮุ

by เจ๊จี

 

อัลบั้มภาพ 47 ภาพ

อัลบั้มภาพ 47 ภาพ ของ เปิดใจ "เต้ ดาวิชญ์" มุมมองความฟีลกู้ด จากจุดเริ่มต้นที่ติดลบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook