10 เรื่องน่ารู้ก่อนดู The Mummy เวอร์ชั่นปี 2017

10 เรื่องน่ารู้ก่อนดู The Mummy เวอร์ชั่นปี 2017

10 เรื่องน่ารู้ก่อนดู The Mummy เวอร์ชั่นปี 2017
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

 

          มัมมี่ หนึ่งในอสูรกายที่คนทั่วโลกรู้จัก ผ่านทางวรรณกรรมมากมายไม่ว่าจะเป็นทั้งนิทาน การ์ตูน เรื่องสั้น นวนิยาย ภาพยนตร์ กระทั่งทีวีซีรีส์ อสูรกายตนนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก และนี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เรื่องราวของมัมมี่ได้กลับมาโลดแล่นบนจอเงินอีกครั้งภายใต้ชายคาของสตูดิโออย่างยูนิเวอร์แซล

 

 

1.เปิดจักรวาลอสูรกายของค่ายยูนิเวอร์แซล

          ปัจจุบันเราต้องยอมรับว่าความอยู่รอดและวิธีการสร้างกำไรของบรรดาสตูดิโอภาพยนตร์หลายค่ายนั้นอาศัยวิธีการสร้างจักรวาลหนังของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น จักรวาลซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวลหรือดีซี จักรวาลของสตาร์วอร์ จักรวาลหนังผีของเดอะคอนเจอริ่ง จักรวาลหนังสัตว์ประหลาดอย่าง Cloverfiled ซึ่งในแต่ละจักรวาลนั้นเริ่มต้นมาจากความสำเร็จในแต่ละภาค ก่อนได้รับการต่อยอดในภาคถัดมา

เช่นเดียวกับอสูรกาย แฟรงเกนสไตน์ สัตว์ประหลาดจากแบล็คลากูน มนุษย์หมาป่า มนุษย์ล่องหน มัมมี่ ที่ว่ามาทั้งหมดนี้คืออสรูกายชื่อดัง ทั้งจากยุคอดีตและปัจจุบันของยูนิเวอร์แซล ซึ่งเคยเป็นภาพที่ตามหลอกหลอนคนดูจนยากจะลืมเลือน และยังติดค้างอยู่ในใจของคุณไปชั่วชีวิต มัมมี่คือหนังเรื่องแรกที่จะเปิดจักรวาลอสูรกายที่ว่านี้

 

2.การคืนชีพมัมมี่

ผู้กำกับอเล็กซ์ เคิร์ตซ์แมน และผู้อำนวยการสร้าง คริส มอร์แกน แน่ใจว่าพวกเขาจะต้องนำเสนอโทนและอารมณ์ออกมาให้แม่นยำที่สุด สิ่งที่ทีมงานพยายามสร้างกันในที่นี้ก็คือ รายละเอียดและโทนของเรื่องที่ฝังรากลึกในงานคลาสสิกสยองขวัญของยูนิเวอร์แซล ขณะที่อีกส่วนหนึ่งของเรื่องราวต้องอยู่ในโลกยุคใหม่ด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นการให้เกียรติกับงานคลาสสิกเหล่านั้น ขณะที่ปลุกอสูรกายเหล่านี้ให้ฟื้นคืนชีพในยุคใหม่สำหรับคนดูทั่วโลก

 

 

3.เมื่อมัมมี่กลายเป็นเพศหญิง

        ทีมงานได้เลือกตั้งคำถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากตัวร้ายของหนังเป็นมัมมี่เพศหญิง เธอถูกทรยศและต้องการจะล้างแค้น ความแค้นที่สั่งสมกว่าหลายร้อยปีได้ถูกปลดปล่อยให้กลายเป็นอิสระในยุคปัจจุบัน ในขณะที่ตัวหนังเต็มไปด้วยความน่าหวาดกลัว แต่ทีมงานก็เลือกที่จะแสดงให้เห็นถึงด้านที่เป็นมนุษย์ของพวกเชาด้วยเช่นกัน เพื่อจะสร้างอารมณ์ร่วมให้กับผู้ชม ไม่ว่าจะรู้สึกรักตัวละครร้ายและหวาดกลัวพวกเขาไปพร้อมๆกัน

 

 

4.ทอม ครูซกับบทพระเอก (อีกครั้ง)

          ทอม ครูซมารับบทเป็นนายทหารรับจ้างที่ชื่อนิค มอร์ตัน เขาทำมาหากินด้วยการปล้นขุมทรัพย์โบราณเพื่อนำมาขายต่อ ขณะที่เพื่อนของเขา (คริส เวล) ถูกผู้ก่อการร้ายโจมตีในตะวันออกกลาง ระหว่างที่พวกเขากำลังสู้รบพวกเขาบังเอิญไปพบสุสานฟาโรห์อียิปต์ที่ต่อมาพวกเขารู้จักในชื่ออาห์มาเน็ต นิคไม่ใช่เพียงคนที่ต้องรับผิดชอบต่อการปล่อยอาห์มาเน็ตให้เป็นอิสระ เขายังเติมเต็มโชคชะตาที่เขาเองก็คาดไม่ถึง บัดนี้ เขาเป็นเพียงคนเดียวที่จะหยุดเธอจากการครองโลก และทำให้มนุษย์ทั้งหมดกลายเป็นทาส

 

 

 

5.มัมมี่หญิงสุดเซ็กซี่

          โซเฟีย บูเทลล่า กับการรับบทราชินีมัมมี่อาห์มาเน็ต เธอถูกเลี้ยงดูมาให้เป็นนักรบและเป็นรัชทายาทของพระบิดา เธอถูกวางตัวให้เป็นฟาร์โรห์หญิงคนแรก แต่สุดท้ายเมื่อฟาร์โรห์ได้ลูกชาย อาห์มาเน็ตถูกทอดทิ้ง ด้วยความแค้นที่เหมือนโดนทรยศ เธอถูกฝังเพื่อให้มีชีวิตนิรันดร์โดยผู้คนที่สาบานว่าจะภักดีกับเธอ แล้วชะตากรรมของเธอเป็นเช่นไร อาห์มาเน็ตเหมือนถูกลบจากประวัติศาสตร์ และบังเอิญถูก นิค มอร์ตัน ปลุกให้ฟื้นขึ้นมา อสูรร้ายที่ทรงพลังผู้นี้จึงมุ่งมั่นที่จะช่วงชิงอาณาจักรที่เคยถูกขโมยไปจากมือของเธอ และเพื่อให้ได้รับตำแหน่งอันชอบธรรมในฐานะฟาโรห์ ด้วยอำนาจที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อาห์มาเน็ตได้สร้างความเกี่ยวพันที่ยากจะทำลายกับนิค และโชคชะตาของเขาและเธอได้ถูกผูกพันเกี่ยวร้อยเข้าด้วยกัน

 

 

 

6.อีกหนึ่งหญิงตัวแปรของหนัง

          แอนนาเบลล์ วอลลิส เข้ามารับบทเจนนี่ ฮัลซีย์ เจ้าหน้าที่ชาวอังกฤษขององค์กรมรดกทางวัฒนธรรม เธอได้รับการติดต่อจากนิคให้มาช่วยจัดการเรื่องการขนส่งหีบศพที่ทำจากหิน แม่ของนักโบราณคดีด้านอียิปต์ผู้นี้แน่ใจมานานแล้วว่าเคยมีฟาโรห์หญิงที่ถูกลบออกจากประวัติศาสตร์ บัดนี้ เจนนี่ได้พบเจ้าหญิงที่เธอเคยได้ยินชื่อมาจากตำนานและเรื่องเล่าขาน เมื่อเจนนี่, นิค และเวล ไต่ลงไปยังห้องขนาดใหญ่ที่เผยตัวออกมาเนื่องจากสงคราม พวกเขาได้ปลดปล่อยเจ้าหญิงอาห์มาเน็ตให้เป็นอิสระ จนทำให้เกิดปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติมากมาย

 

 

7.รัสเซลล์ โครว์กับตัวละครลึกลับ

          รัสเซลล์ โครว์รับบท ดร.เฮนรี่ เจกิลล์ ที่แสนลึกลับ เป็นผู้ดูแลกลุ่มโพรดิเจี้ยม องค์กรลับที่คอยตามหา ทดสอบ กักกัน และทำลายปีศาจในโลกของเรา สุภาพบุรุษชาวอังกฤษผู้นี้แฝงตัวอยู่ในโลกสมัยใหม่ เขาไม่เพียงแต่ปกป้องโลกจากอสูรกาย แต่เขายังปกป้องอสูรกายจากโลกนี้ด้วย ตกลงแล้วเจกิลล์ คือเพื่อนหรือศัตรูกันแน่ เช่นเดียวกับตัวละครหลักของเรื่องทุกตัว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับมุมมองของคุณ และเป้าหมายของพวกเขา

 

 

8.ฉากสำคัญที่มาของสุสานมันมี่

          การเปิดตัวมัมมี่ในหนังเวอร์ชั่นนี้จะต้องเป็นการเปิดตัวที่ยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม เมื่อนิคที่ลื่นไถลลงายังห้องโถงที่มีเทวรูปเฝ้าอยู่ 16 ตัว โดยเป็นเทวรูปครึ่งคน ครึ่งสัตว์ หรือที่เรียกว่า “อานูบิส” ซึ่งเป็นเทพเจ้าอียิปต์โบราณที่เกี่ยวพันกับการทำมัมมี่ โลกอเวจี และชีวิตหลังความตาย กำแพงอักษรอียิปต์โบราณภายในห้องโถงของสุสานนี้คือสิ่งที่บอกเล่าเรื่องราวของอาห์มาเน็ต และในที่สุด มันถูกระเบิด จนทั้งสามคนสามารถสำรวจสุสานในขั้นต่อไปได้ นี่คือจุดที่โลงศพตั้งอยู่ในสระปรอทซึ่งสร้างด้วยเทคนิคซีจีไอ และโลงถูกตรึงเอาไว้ที่จุดตรงกลางด้วยโซ่งู รูปปั้นอานูบิสยืนหันหน้าเข้าไปด้านในสุสาน เพื่อให้แน่ใจว่าอาห์มาเน็ตจะไม่สามารถหลบหนีจากสุสานนี้ได้ อาห์มาเน็ตถูกขังอยู่นาน 3 พันปีเพื่อไม่ให้เธอก่อเรื่องร้ายๆ และไม่ควรมีใครหาเธอพบ คนอียิปต์เชื่อว่าปรอทคือตัวป้องกันที่ต้านปีศาจได้อย่างทรงอำนาจ โดยปล่อยให้โลงศพหินลอยอยู่ในปรอทนั้น

 

 

 9.การออกแบบตัวร้ายมัมมี่ผ่านองค์ประกอบศิลป์

          ภาพลักษณ์ของอาห์มาเน็ตในยุคอียิปต์โบราณ มีความสำคัญในการออกแบบทรงผมและการแต่งหน้าว่าเธออยู่ในอียิปต์ยุคสมัยใด และสัญลักษณ์ใดที่จะเหมาะกับเธอ ตัวอักษรรูนบนตัวอาห์มาเน็ตเริ่มปรากฎให้เห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ บนตัวของเธอ เมื่อเธอยิ่งถล้ำลึกสู่ด้านมืดมากขึ้นเรื่อยๆ รอยสักอักษรรูนที่วาดด้วยมือนี้ ถูกสักลงบนใบหน้าของอาห์มาเน็ตทีละตัว และตามร่างกาย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนักแสดงอย่างโซเฟีย บูเทลล่า ต้องตื่นขึ้นมาเพื่อทำผมและแต่งหน้าตั้งแต่ตีสาม เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการถ่ายทำ

 

 

10.ซีจีไอกับมัมมี่

            อาห์มาเน็ตในช่วงแรกๆ จะดูไม่เหมือนมนุษย์ ในแง่ของการเคลื่อนไหว และร่างกายของเธอจะเป็นงานดิจิตอลล้วนๆ เธออยู่ในสภาพเน่าเปื่อยแห้งเหี่ยว ทีมผู้สร้างใช้โซเฟียแสดงในชุดโมชั่นแค็ปเจอร์ หรือใช้นักดัดตนที่ต้องใส่ชุดโมชั่นแค็ปเจอร์เช่นกัน เพื่อจับท่วงท่าการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นปกติ เพื่อถ่ายทอดการเคลื่อนไหวร่างกายให้กับมัมมี่ในช่วงแบเบาะ เมื่ออาห์มาเน็ตพัฒนาจนเข้าสู่ช่วงมัมมี่ขั้นสุดท้าย ทีมงานแทบไม่ต้องอาศัยงานซีจีไอเลย มัมมี่สร้างพัฒนาการที่เป็นไปอย่างมีเหตุผล โดยไม่เป็นการก้าวกระโดดจนคนดูจำมัมมี่ที่เปลี่ยนแปลงไปไม่ได้ ซึ่งขั้นตอนในการเปลี่ยแปลงนั้นเริ่มจากมีตัวละครแต่กระดูกและผ้าพันแผล เมื่อเธอดูดวิญญาณจากเหยื่อ ทำให้เธอเริ่มมีกล้ามเนื้อ และเธอเริ่มแข็งแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลับคืนสู่ร่างมนุษย์ในองก์ที่ 3

 

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ 10 เรื่องน่ารู้ก่อนดู The Mummy เวอร์ชั่นปี 2017

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook