ดูแล้วบอกต่อ วิจารณ์หนัง League of Gods มหากาพย์เทพซีจี

ดูแล้วบอกต่อ วิจารณ์หนัง League of Gods มหากาพย์เทพซีจี

ดูแล้วบอกต่อ วิจารณ์หนัง League of Gods มหากาพย์เทพซีจี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ต้นปีที่ผ่านมามีหนังอย่าง God of Egypt ที่เรียกได้ว่าหยิบเอาบรรดาตำนานทวนเทพของลุ่มแม่น้ำไนล์เอามาตีรันฟันแทง รบรากันอย่างไม่เกรงใจมนุษย์ แม้ว่าในประเทศอเมริกาหนังจะไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร แต่ดูเหมือนว่าในตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะเอเชีย หนังเรื่องนี้จะได้รับการตอบรับไปในทิศทางที่ดี แต่ท้ายที่สุดแล้วหนังกลับทำเงินทั่วโลกไปแค่ 145 ล้านเหรียญจากทุนสร้าง 140 ล้านเหรียญ เรียกได้ว่าหักลบค่าทำการโปรโมตแล้วจัดได้ว่าหนังเรื่องนี้ขาดทุนยับ

ทว่า League of Gods หรือหนังจีนที่หยิบตำนานสถาปนาเทพเจ้า” หรือ “ตำนานวีรกรรมผู้กล้า” (ฮ่องสิน) เอามาเล่าเรื่องราวใหม่ที่ว่าด้วยการทำสงครามระหว่างสองอาณาจักร ซึ่งแต่ละฝ่ายก็มีเทพเจ้าหนุนหลังตนเองอยู่ เรื่องราวในหนังอิงช่วงเวลาของพระเจ้าซางโจ้ว กษัตริย์โจ้วอ๋อง (เหลียงเจีย ฮุย) ผู้บ้าอำนาจและหลงใหลนารีจนไม่เป็นอันบริหารบ้านเมือง ไม่เพียงเท่านั้นเขายังขลุกอยู่กับสนมเอกอย่าง ต๋าจีจี  (ฟ่านปิงปิง) โดยที่เขาไม่รู้ว่านางคือปีศาจจิ้งจอกปลอมตัวมา 

ระหว่างที่เล่ยเซยเสี่ย(แจ็คกี้ เหลียง) ผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายจากชนเผ่านก กลายเป็นผู้ทำภารกิจช่วยชีวิตเชลยศึกจากเมืองของโจ้วอ๋องโดยพวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากเจียงจื่อหยา (เจ็ต ลี) ผู้วางแผนการพิชิตศึกครั้งนี้ ยิ่งไปกว่านั้นภารกิจครั้งนี้เล่ยเซยเสี่ยต้องออกตามหา “กระบี่แห่งแสง” ที่จะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับชัยชนะ 

League of Gods เล่าเรื่องตามสูตรสำเร็จแบบทุกกระเบียดนิ้ว (จริงๆวิธีการเล่าเรื่องเหมือนกับ God of Egypt แทบทุกอย่างแค่เปลี่ยนฉากหลังและบริบท ไม่ได้พยายามจะบอกว่าหนังเรื่องนี้ลอกเรื่องนั้น แต่พล็อตแนวนี้มันถูกบังคับด้วยสูตรสำเร็จแบบนี้อยู่แล้ว) มันเริ่มต้นด้วยฉากแอ็คชั่นตระการตา ก่อนจะตามาด้วยการเดินทางของวีรบุรุษ (เล่ยเซยเสี่ย) ที่ต้องค้นหาของวิเศษ เจอมิตรภาพใหม่ (นาจา, ลันดี้ หุ่นกระบอกมีชีวิต) ก่อนจะเรียนรู้คุณค่าในตัวเอง ค้นพบความสามารถที่แอบซ่อนในตัว และเดินทางกลับมาปกป้องอาณาจักร 

ตัวหนังใช้เทคนิคพิเศษด้านภาพเกือบ 100% คาดหวังตัวหนังทั้งเรื่องถ่ายทำในสตูดิโอทั้งหมด ดังนั้นทุกอย่างที่เราได้เห็นเป็นฉากหลังนั้นจึงเป็นภาพที่สร้างขึ้น การแสดงของเหล่านักแสดงจึงต้องเล่นกับจินตนาการเป็นหลัก แต่ก็ดูเหมือนว่าบรรดานักแสดงเองก็จะถูกผู้กำกับบรีฟว่าให้เล่น “ใหญ่ๆ” เข้าไว้ก่อน ดังนั้นการแสดงของนักแสดงในหนังเรื่องนี้เลยเหมือนกับการที่เรานั่งดูละครเวทีบนจอภาพยนตร์เอามากๆ 

League of Gods เป็นหนังจีนที่คนดูคาดหวังความสนุกได้พอประมาณ มันบันเทิง ไม่มีอะไรชวนตกผลึกหลังหนังจบ และน่าเสียดายคือมันเป็นหนังฟอร์มยักษ์ที่ควรจะ “สนุก” ได้มากกว่านี้ ถ้าหากหนังจะให้เวลาคนดูทำความรู้จักและ “รัก” ตัวละครมากกว่าจะทำให้พวกเขามีสภาพเหมือน “ตัวละครที่หลุดมาจากหนังสือการ์ตูน” แบบที่เป็นอยู่  

@พริตตี้ปลาสลิด 

3 คะแนนจาก 5 คะแนน

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ ดูแล้วบอกต่อ วิจารณ์หนัง League of Gods มหากาพย์เทพซีจี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook