จบหักมุม! ฉากอวสานละครไทย สะเทือนใจคนดู

 

 

ละครทุกเรื่องต้องมีบทสรุป หรือมี่ภาษาทั่วไปเรียกว่า "ตอนจบ" เรื่องราวตั้งแต่จุดเริ่มต้น ผ่านอุปสรรคและปัญหามากมาย จนนำมาสู่จุดจบของเรื่อง แต่สำหรับละครไทยหลายๆ เรื่อง จากหลายๆ ยุคที่ผ่านมา มักจะมีบทสรุปที่ลงเอยด้วยความสุขสมหมาย

 

ตอนจบแบบ แฮปปี้เอ็นดิ้ง กลายเป็นสูตรสำเร็จที่ทำให้ผู้ชมได้มีอารมณ์ร่วมในเหตุการณ์ตอนท้ายของละคร อีกทั้งยังเป็นการเคล็ดอย่างหนึ่ง ที่จะไม่ทำให้ผู้ชมรู้สึกสะเทือนใจหรือฉีกอารมณ์พลิกผันมากเกินไป และในตอนจบของละครหลายเรื่อง มักแฝงคติและข้อคิดเอาไว้อยู่เสมอ

 

แต่ใช่ว่า..ในหน้าประวัติศาสตร์ละครไทย จะมีแต่ตอนจบที่สมบูรณ์แบบ บางครั้งความโหดร้ายและเศร้าใจก็ถูกเลือกมาใช้เป็นบทสรุป ละครบางเรื่องเคยทำให้คนดูรู้สึกช็อกและประทับใจไปพร้อมๆ กัน กับเรื่องราวในตอนท้ายที่หักมุม พลิกแพลง และเหนือความคาดหมาย จนได้รับการพูดถึงเป็นวงกว้างและกลายเป็นปรากฏการณ์ในสังคม

 

ย้อนกลับไปดู บทสรุปหักมุมของละครไทย จุดจบที่ยังอยู่ในใจ ทำร้ายความรู้สึกคนดู และเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์

 

(Spoiler Alert! เนื้อหาต่อไปนี้เปิดเผยรายละเอียดสำคัญของละคร)

 

 

 

"เธอกับเขาและรักของเรา" เรื่องราวความรักต้องห้าม ระหว่าง "อาเปา" กับ "คุณหนูแป้งร่ำ" กลายเป็นประเด็นโจษจันในสังคมเพียงชั่วข้ามคืน เมื่อละครเรื่องนี้ดำเนินมาถึงตอนจบ บทสรุปสุดท้ายที่สะเทือนใจ ถึงแม้ว่าผู้ชมพอจะคาดเดาถึงชะตากรรมของอาเปา ที่คงหนีไม่พ้นเหยื่อความรักความแค้นของ "คุณใหญ่" แต่ฉากสุดท้ายของ คุณหนูแป้งร่ำ ที่ตัดสินใจปลิดชีพตัวเองตามคนที่รัก กลางชานชาลาในสถานีรถไฟ เป็นการหักมุมที่ยังค้างคาใจ แม้ว่าจะขึ้นคำว่า "อวสาน" แล้วก็ตาม

 

 

 

บางคนอาจจะไม่คุ้นชื่อละครเรื่องนี้ "ถนนสายหัวใจ" ละครดีๆ ที่ฉายทางช่องไอทีวี เมื่อปี 2545 ได้รับกระแสนิยมแบบวงจำกัด ในยุคที่โลกออนไลน์ยังไม่เฟื่องฟูนัก ละครที่แฝงด้วยข้อคิดและสอดแทรกอารมณ์ได้ครบรส ทั้งรัก ทั้งตลก ทั้งเศร้า เรื่องราวของ "มะเฟือง" กับ "ภาวัช" นิสิตเกษตรศาสตร์ ที่รู้จักกันดีในฐานะเพื่อนสนิท แต่ต่างก็ไม่รู้ใจตัวเอง เส้นทางชีวิตทั้งสองมักจะคลาดเคลื่อนกันเสมอ จนกว่าจะรู้..ก็สายเกินไปแล้ว ฉากพบความจริงที่สวิตเซอร์แลนด์..ว่าเจ็บปวดแล้ว เจอฉากสุดท้ายที่เชียงราย ทรมานใจผู้ชมเป็นที่สุด!

 

 

 

ละครเกี่ยวกับความรักระหว่าง "หญิงผู้สูงศักดิ์" กับ "องค์รักษ์หนุ่ม" มักจะหักมุมและขยี้ใจคนดู จนกระทั่งนาทีสุดท้าย... เช่น "เลือดขัตติยา" ความรักที่ยอมเสียสละของ "อโณทัย" กับ "ทิพย์รัตน์ดารากุมารี" นำไปสู่โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่  เพื่อต้องการปกป้องคนที่รัก หรือใน "อยากหยุดตะวันไว้ที่ปลายฟ้า" สัมพันธ์ของ "น้ำเชี่ยว" และ "องค์หญิงนภัสราวดี" ถึงแม้จะรักกันเพียงใด แต่ก็มิอาจหนีพ้นความแตกต่างในยศถาบรรดาศักดิ์ คงคล้ายๆ กับเรื่องราวของ "เจ้าหญิงจัสมิน" กับ "อริน" ใน "ดาวหลงฟ้า ภูผาสีเงิน" ที่จำใจต้องแยกจาก...

 

 

 

"นารีสโมสร" ละครซิทคอมที่ขึ้นแท่นเป็นที่สุดของ "ตำนาน" ละครหักมุมแห่งยุค ถ้าใครเคยพลาดไปจะเล่าแบบย่อๆ ว่า เรื่องราวความรักของผู้หญิง 4 คน ที่มีรูปแบบแตกต่างทั้ง 4 แบบ คู่รักหวานๆ คู่รักหนุ่มสาว หรือ คู่รักระหองระแหง ถูกถ่ายทอดเป็นละครแบบตอนเดียวจบ ได้รับกระแสนิยม จนสร้างออกมาถึง 2 ฤดูกาล แต่ฉากสุดท้ายของละครเรื่องนี้ ชาวเน็ตต่างยกให้เป็น "โศกนาฏกรรม" เพราะตัวละครที่ร่วมกันฝ่าฝันอุปสรรคมาหลายครั้ง บทสรุปทั้งหมดที่แท้จริงแล้ว กลายเป็น "เรื่องราวในความฝัน"

 

 

 

"เมืองดาหลา" หนึ่งในละครน้ำดีของช่อง 7 สี เมื่อปี 2546 ละครจากค่าย เป่า จิน จง ที่เรียกกระแสนิยมและทำเรตติ้งกระฉูด เรื่องราวความแค้นที่นำพาความรักมาสู่หนุ่มสาวต่างชาติต่างภาษา และการฝ่าฟันต่อสู้กับขบวนการยาเสพติดแถบชายแดน "เสือเพียงฟ้า" กับ "วันใส" ความรักกำลังสดใสท่ามกลางสมรภูมิความขัดแย้ง แต่ภาพรถยนต์ของนางเอก ระเบิด..ตู้ม!! กลายเป็นฉากนจบที่ทำร้ายจิตใจผู้ชมทั้งประเทศ ถูกวิจารณ์หนักถึงขั้นต้องแทรกตอนจบแบบใหม่ ฉบับแฮปปี้เอ็นดิ้ง เมื่อละครได้นำกลับมาฉายรีรันอีกครั้ง

 

 

 

จุดจบของละครน้ำดีแห่งยุค "แม่อายสะอื้น" ทั้งกินใจและเศร้าเคล้าน้ำตา "ดาวนิล" สาวทะเยอทยาน ที่มุ่งมั่นไปสู่หนทางแห่งความสำเร็จ เชิดหน้าเดินไปข้างหน้า จนหลงลืมชีวิตเดิมของบุพการีคนสำคัญ ผู้ปลุกปั้นสร้างอาชีพ กลายเป็นโศกนาฏกรรมชีวิตครั้งใหญ่ ที่กว่าจะรู้ได้ก็สายเกินไป ท้ายของเรื่องผู้ชมต้องน้ำตาท่วมจอ ดาวนิลกับลีลาการรำดาบให้พ่อเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อถึงท่าสีไคลจึงตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง ต่อหน้าภาพพ่อผู้มีพระคุณ

 

 

 

"รักในรอยแค้น" ผลงานละครชิ้นโบว์แดงและละครเรื่องแรกของค่าย เอ็กแซ็กท์ ที่ถูกนำขึ้นหิ้งไว้ให้จดจำ เรื่องความรักระหว่างหนุ่มสาว "พัดยศ นิเวศวัตร" กับ "องค์อร ธานินทร์นิมิตร" ที่ก่อตัวขึ้นท่ามกลางความบาดหมางและขัดแย้งของ 2 ตระกูล ที่เดิมเคยปรองดองกัน ละครที่ถูกยกให้เป็น โรมิโอ-จูเลียต ฉบับเมืองไทย นำไปสู่บทสรุปที่กัดกินใจผู้ชมไปหลายวัน ฉากโศกนาฏกรรมจุดจบของ พัดยศ ที่สิ้นลมเพราะความแค้น แม้พยายามจะไปหาคนรัก แถมยังหักมุมกับฉากสุดท้าย องค์อร เดินเวิ้งว้างลงสู่ท้องทะเล ...ต้องเสียน้ำตาให้เป็นลิตร

 

 

 

อีกหนึ่งเรื่องราวโศกนาฏกรรมของความรักใน "ดอกโศก" บทประพันธ์เลื่องชื่อที่ถูกสร้างเป็นละครหลายครั้ง เรื่องราวความรักที่กลายเป็นสงครามรักระหว่างแม่กับลูก "ดอกโศก" กับ "ปรียากมล" เมื่อหลงชายคนเดียวกันอย่าง "อัศนัย" คนหนึ่งเขาคืออดีตคนรักที่ยังห่วงหา ส่วนอีกคนเขาคือชายอบอุ่นที่รักหมดทั้งใจ แต่ฉากที่ทำให้ผู้ชมกล้ำกลืน เมื่อ ดอกโศก ตัดสินใจแต่งงาน แต่กลับพลิกแพลงเดินหนีความรัก เพราะไม่อาจครองคู่อยู่กับคนรักคนเดียวกับผู้เป็นแม่ได้ ฉากสุดท้ายที่ อัศนัย ยืมมองตามคนรักเดินจากไป ทั้งที่นิ้วนางข้างซ้ายสวมแหวนอยู่ ทั้งสะเทือนใจและขมขื่นจริงๆ