แนวคิดเบื้องหลังการสร้าง Pacific Rim – สงครามอสูรเหล็ก

แนวคิดเบื้องหลังการสร้าง Pacific Rim – สงครามอสูรเหล็ก

แนวคิดเบื้องหลังการสร้าง Pacific Rim – สงครามอสูรเหล็ก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

pacific rimpacific rim

 

ไคจู (ไคจู, ภาษาญี่ปุ่น) สัตว์ประหลาดยักษ์    


เยเกอร์ (เยเกอร์, ภาษาเยอรมัน) นักล่า



“ตอนเด็กเวลาที่รู้สึกอ่อนล้าหรือโดดเดี่ยว  ผมจะเงยหน้าดูดาว และสงสัยว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่บนนั้นมั้ยปรากฏว่าผมมองผิดทิศ”



มหาสมุทรที่มีความลึกล้วนมีเสน่ห์ตรึงใจทุกคนได้เสมอ แต่เราคิดทุกครั้งว่าความประหลาดและอันตรายที่มีมาจากโลกของเรา   เราคิดผิดแล้ว!!



สมมุติฐานที่สร้างความน่าสนใจทำให้เกิดภาพยนตร์ของวอร์เนอร์ บราเดอร์ส และเลเจนดารี่ พิกเจอร์ส เรื่อง “Pacific Rim” ขึ้นมา ภาพยนตร์เริ่มจากการเกิดรอยแยกใต้มหาสมุทรแปซิฟิคทำให้เกิดแผ่นดินไหวที่คร่าชีวิตผู้คน

 

pacific rimpacific rim


ผู้กำกับฯ กิลเลอร์โม เดล โตโร ทำหน้าที่ร่วมเขียนบทและอำนวยการสร้างภาพยนตร์เล่าว่า “แม้ว่าจุดเริ่มต้นจะมาจาก ไคจู สิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่ โหดร้ายทารุณกว่าที่เราเคยพบ แต่เพื่อการรับมือกับมัน มนุษย์ต้องนำทรัพยากรทุกอย่างมาประดิษฐ์อาวุธที่มีขนาดใหญ่ มีพลัง และมีความสามารถรอบด้านกว่าที่เคยสร้างขึ้นมา พวกเขาสร้างชุดคำสั่งเยเกอร์ขึ้นมา ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่มีความสูงเท่าตึก 25 ชั้น แต่ละตัวต้องใช้เจ้าหน้าที่ควบคุม 2 คน โดยจะมีการเชื่อมโยงประสาทเข้าด้วยกัน”


เขาเล่าต่อว่า “นี่คือโปรเจ็กต์ที่รวมทุกอย่างตามที่ผมต้องการมารวมเข้ากัน ทั้งภาพ บรรยากาศ อารมณ์ความรู้สึก …การผจญภัยสุดระทึกใจของสัตว์ประหลาดและหุ่นยนต์ที่ยากจะต้านทาน มันเป็นอะไรที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน”


ผู้อำนวยการสร้างฯ โธมัส ทัล เล่าว่า “แค่บรรยายว่า ‘สัตว์ประหลาดยักษ์สู้กับหุ่นยนต์ยักษ์’ ก็ทำให้เราสัมผัสได้ถึงขนาดและขอบเขตแล้ว ยังไม่พูดถึงการแสดงและความสนุกสนานนะ และยังมีเรื่องราวปริศนาที่เรายังไม่รู้อีกว่า ทำไมไคจูต้องบุกโจมตี พวกมันต้องการอะไรและมนุษย์จะรับมืออย่างไร? มีความเป็นไปได้แค่ไหนที่เราจะป้องกันตัวจากพวกมัน?”


เรื่องราวเริ่มจากที่ผู้เขียนบทฯ เทรวิส บีแชม ซึ่งอยู่ใน Pacific Rim ของจริงบนชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย ช่วงที่องค์ประกอบสำคัญของภาพยนตร์เริ่มเป็นรูปร่าง เขาเล่าให้ฟังถึงตอนนั้นว่า “ผมจำได้ว่ากำลังเดินอยู่บนชายหาดทที่ซานตาโมนิก้า เป็นช่วงเช้าที่มีหมอกหนาเป็นพิเศษ มีบางอย่างที่มีลักษณะเหมือนเสาอยู่ในหมอกโผล่ขึ้นมาจากน้ำ... มีภาพสัตว์ประหลาดยักษ์ผุดขึ้นมาในความคิดผม สัตว์ประหลาดที่ขึ้นมาบนฝั่งเพื่อต่อสู้กับหุ่นยนต์ยักษ์

 

pacific rimpacific rim


แต่ถึงอย่างไร” บีแชมรู้ดีว่า “ผมรู้ว่ามันไม่ใช่ประเด็นของเรื่องราว ความสนุกของเรื่องสำหรับผมอยู่ที่การนึกภาพว่าใครจะมาบังคับหุ่นยนต์ จนในที่สุดตัดสินใจได้ว่าต้องมีคนบังคับ 2 คน ซึ่งสองคนนี้ต้องรู้ใจกันจนบังคับเจ้าหุ่นยักษ์นี้ได้ นั่นคือจุดที่องค์ประกอบเริ่มเป็นรูปร่างของสิ่งมีชีวิตขึ้นมา”


หลังจากที่เคยร่วมงานกับผู้อำนวยการสร้างฯ โทมัส ทัล และ จอน แจชนี่ ผู้เขียนบทฯ ในเรื่อง “Clash of the Titans” มาแล้ว บีแชมเล่าไอเดียแหวกแนวเกี่ยวกับผู้ชนะได้ทุกสิ่ง ที่เป็นมนุษย์กับเครื่องจักรร่วมกันต่อสู้กับสัตว์ประหลาดที่ไม่ได้บุกมาจากนอกโลก แต่อุบัติขึ้นมาจากทะเลลึกให้พวกเขาฟัง


“ผมสนใจตั้งแต่วินาทีแรกที่เทรวิสเล่าให้พวกเราฟัง” ทัลกล่าว “ภาพยนตร์เป็นเรื่องราวของมนุษย์ต้องต่อสู้กับสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายและมีพลังอย่างมหาศาล พวกเขาจะร่วมกันต่อสู้ได้อย่างไร เราคิดกันว่าแนวคิดที่เราอาจถูกบุกรุกจากสิ่งที่อยู่ในโลกเป็นคอนเซ็ปต์ที่น่าสนุกมาก”


“เราไม่มีทางหนีมันไปได้ เพราะพวกมันมาจากสถานที่แห่งหนึ่งในโลกซึ่งไม่มีทางหนีพ้น” บีแชมเล่าต่อว่า “เสน่ห์ของมหาสมุทรอยู่ที่มันซ่อนปริศนาเอาไว้ มีตำนานหลายเรื่องที่เกี่ยวกับสัตว์ทะเล งูยักษ์ และอีกหลายอย่างที่คนเชื่อกันว่ามีอยู่เบื้องล่าง ผมว่ามันมีความน่ากลัวตรงที่ความชั่วร้ายจะปรากฏออกมาในรูปแบบไหน”

 

pacific rimpacific rim


การสร้างให้เกิดการคุกคามครั้งยิ่งใหญ่ “เป็นเรื่องเดิมพันทั้งโลกอย่างมหาศาล” แจชนี่กล่าว “แต่การเริ่มจากการเดิมพันอย่างมหาศาลก็ทำให้เราหาทางสร้างให้มันดูสมจริงบนโลกมนุษย์ งานถนัดด้านการปรับทุกอย่างลงให้เข้ากับอารมณ์เป็นหนึ่งในพรสวรรค์หลายด้านของกิลเลอร์โม เดล โตโร… ยังไม่รวมที่เขาเป็นผู้ชำนาญด้านนี้นะ เขาเหมือนกับสารานุกรมเรื่องสัตว์ประหลาดไคจูและ ‘มีชะ’ เขาสามารถถ่ายทอดมุมมองที่เข้าใจง่ายและมีความสนุกสนานของทั้งสองอย่างออกมาได้ ตอนที่เราแชร์ความคิดกับเขา แลกเปลี่ยนความคิดกับเทรวิส เขาให้ความร่วมมืออย่างทันควัน”


เมื่อเดล โตโร เริ่มร่างบทภาพยนตร์กับบีแชม เขาอินไปกับโลกที่พวกเขาสร้างขึ้นมาอย่างเต็มที่ เขายืนยันว่า “ยิ่งเราพัฒนาโลกใบนั้นขึ้นมา ผมเองก็ยิ่งทุ่มเทกับเรื่องราว ตัวละคร สัตว์ประหลาด หุ่นยนต์ และทุกอย่างมากขึ้นเพื่อให้มันดูสมจริง ผมอดใจรอแทบไม่ไหวแล้ว”


“การได้ร่วมงานกับกิลเลอร์โมเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ” บีแชมกล่าว “เขามีไอเดียที่ชัดเจนและมีประกายแห่งความอัจฉริยะออกมาจากทุกเสี้ยวความคิด แถมเขายังรักพวกหนังสัตว์ประหลาดอีกด้วย เหมือนเราได้นั่งเล่นอยู่ในสนามเดียวกับเขาเลย” เขาหัวเราะ “เขามาร่วมงานในโปรเจ็กต์ด้วยความหลงใหลในเนื้อเรื่อง ซึ่งผมคิดว่ามันสำคัญต่ออารมณ์ของหนัง


ความกระตือรือร้นของเดล โตโร ไม่ได้แพร่กระจายเผื่อทุกคนที่มีส่วนร่วมในหนังเท่านั้น แต่นั่นยังเป็นเหตุผลหลักที่เขาสร้างความสนใจให้แฟนๆ แนวนี้ได้อีกด้วย อันที่จริงเขาน่าจะเป็นคนแรกที่ถูกนับว่าเป็นที่รู้จักในบรรดาแฟนๆ ที่เป็น “เด็กผู้ชาย”

 

pacific rimpacific rim


ผู้อำนวยการสร้างฯ แมรี่ แพเรนท์ เล่าว่า “กิลเลอร์โมเชื่อมโยงกับผู้ชมได้เป็นพิเศษ เพราะเขาถือว่าตัวเองเป็นผู้ชมเหล่านั้น และนั่นทำให้เกิดความแตกต่างอย่างยิ่งหญ่ เขาตื่นเต้นกับโลกสุดอัศจรรย์ที่สร้างขึ้นมาไม่ต่างกับเราที่จะได้เห็นมัน เขากำลังจะได้ถ่ายทอดความตื่นเต้นที่อยู่ในเรื่องออกมาให้ชมกัน”


แต่ถึงอย่างไรก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้สร้างภาพยนตร์ต้องให้ความสำคัญต่อการสร้างสมดุล ระหว่างฉากแอ็คชั่นกับเรื่องราวของมนุษย์ที่ถือเป็นหัวใจหลักของภาพยนตร์ แจชนีเล่าว่า “ประเด็นสำคัญของภาพยนตร์คือความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ของมนุษย์ ไม่ว่าจะเกิดการคุกคามยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม”


ภาพโดยรวมของต่อสู้กับไคจูสะท้อนในการออกแบบ การลงสี และการตกแต่งเยเกอร์ ซึ่งทุกอย่าง เคารพในประเทศที่มาของพวกเขา เยเกอร์ 4 ตัวหลักที่เห็นต่อสู้ในภาพยนตร์คือ Gipsy Danger จากสหรัฐฯ; Crimson Typhoon จากจีน; Cherno Alpha ของรัสเซีย และ Striker Eureka จากออสเตรเลีย

 

pacific rimpacific rim


การสร้างไคจูที่น่ากลัวและเป็นตัวแทนของการทำลายก็ได้รับความเอาใจใส่ไม่น้อยไปกว่ากัน เดล โตโร เรียกสุดยอดผู้ชำนาญด้านคอนเซ็ปต์ในวงการมาออกแบบสิ่งที่เขาเรียกว่า “สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวแต่มีความยิ่งใหญ่กว่าที่เราจะนึกภาพออกได้” โดยแต่ละตัวมีโครงร่างที่แตกต่างกันและมีความสามารถที่ทำให้ตายได้


เยเกอร์และไคจูโลดแล่นบนจอภาพยนตร์ได้โดยผู้ชำนาญด้านวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์จาก Industrial Light & Magic (ILM) ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเคยร่วมงานกับเดล โตโร เป็นครั้งแรก พวกเขาร่วมกันสร้างฉากต่อสู้สุดอลังการที่เกิดขึ้นบนพื้นดิน ในทะเล และกลางอากาศ


ภาพยนตร์ยังมีความโดดเด่นจากทีมนักแสดงระดับโลก นำทีมโดย ฮันแนม, ไอดริส อัลบ้า, ริงโก้ คิคูชิ, ชาร์ลี เดย์, ร็อบ คาซินสกี้, แมกซ์ มาร์ตินี่, คลิฟตอน คอลลินส์ จูเนียร์, เบิร์น กอร์แมน และ รอน เพิร์ลแมน


“เราอยากให้ทุกคนอินไปกับภาพี่น่าตื่นเต้น เสียงดนตรี และความโกรธแค้นเดล โตโร เล่าว่า “แต่ทั้งหมดสื่อถึงความกล้าหาญของตัวละครสำคัญทั้งหลาย โดยขนาดร่างกายแล้วมนุษย์มีขนาดเล็กที่สุดในหนัง แต่ความมุ่งมั่นของพวกเขามีมากกว่าสิ่งอื่นใด พวกเขาจะทำให้คุณเห็นถึงการสร้างฮีโร่ที่แท้จริงขึ้นมา”


การถ่ายทำที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นกับทุกฉากที่ Pinewood Studios ในโตรอนโต รวมถึงฉากถ่ายทำที่กว้างสุด 2 ฉากในโลก ฉากหนึ่งเรียกว่า Conn-pod ถูกสร้างขึ้นบนวงแหวนขนาดยักษ์ เพื่อให้นักแสดงสวมชุดพิเศษที่สร้างขึ้นมาโดย Legacy Effects ทำให้รู้สึกเหมือนพวกเขาอยู่ในการรบจริงๆ “เราอยากพาผู้ชมไปอยู่บนที่นั่งของผู้ควบคุม คุณจะสัมผัสได้เลยว่าเวลาสวมชุดเชื่อมต่อเข้ากัน และการบังคับให้หุ่นยนต์เคลื่อนที่ไปมันรู้สึกอย่างไร”


Pacific Rim – สงครามอสูรเหล็ก  11 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น



 

อัลบั้มภาพ 17 ภาพ

อัลบั้มภาพ 17 ภาพ ของ แนวคิดเบื้องหลังการสร้าง Pacific Rim – สงครามอสูรเหล็ก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook