นักแสดงกับการเปลี่ยนแปลง ทุ่มเทเพื่อ "ความสำเร็จ"

นักแสดงกับการเปลี่ยนแปลง ทุ่มเทเพื่อ "ความสำเร็จ"

นักแสดงกับการเปลี่ยนแปลง ทุ่มเทเพื่อ "ความสำเร็จ"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook


บางครั้งการแต่งหน้าก็สามารถเปลี่ยนนักแสดงคนหนึ่ง ให้เป็นอีกคนตามบทบาทที่ได้รับ เหมือนกับที่เราเห็นใน "Cloud Atlas" ซึ่งนักแสดงแต่ละคนสวมกันหลายบทบาท และแต่ละบทบาทนั้นแตกต่าง จนถ้าไม่เฉลยก็จับไม่ได้เลยว่าแสดงโดยคนเดียวกัน


ข่าวดาราข่าวดารา
อย่างไรก็ตาม มีบางอย่างที่การแต่งหน้าไม่สามารถช่วยได้ ดังนั้น ถ้าอยากให้สมบทบาทก็ต้องอาศัยความทุ่มเทของตัวนักแสดง

 

แบบที่ "เเมทธิว เเมคคอนาเฮย์" ที่เมื่อต้องเล่นเป็นผู้ป่วยโรคเอดส์ใน "The Dallas Buyers Club" ก็ต้องลดน้ำหนักตัวเองลงราว 13 กิโลกรัม (กก.) เพื่อให้ดูทรุดโทรมกว่าปกติ โดยเขาใช้วิธีงดอาหาร แต่ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ร่างกายเผาผลาญเอาสารอาหารที่มีอยู่ในร่างกายออกมาใช้



ขณะ "เเอนน์ แฮทธาเวย์" ซึ่งเล่นเป็นโสเภณียากจนใน "Les Miserables" นอกจากต้องหั่นผมจนสั้นกุดแล้ว ยังต้องควบคุมปริมาณอาหารในแต่ละวันให้ไม่เกิน 500 กิโลแคลอรี่ พูดง่ายๆ คือวันทั้งวันกินได้แค่ข้าวหมูแดง 1 จาน เพื่อให้ร่างกายซูบผอม



เช่นเดียวกับ "คริสเตียน เบล" ที่ เคยลดน้ำหนักลงกว่า 30 กก. ให้เหลือเพียง 49.5 กก. ใน "The Machinist" และอีกครั้งใน "The Fighter"

 

"แมท เดมอน" ก็มักจะเปลี่ยนรูปร่างของตัวเองเพื่อภาพยนตร์ของเขาเสมอ เขาทำตัวเองให้อ้วนขึ้นใน "The Informant" ผอมลงมากใน "Courage Under Fire" แล้วก็บึกบึนขึ้นตอนเล่น "Bourne"


"ชาร์ลิซ เธอรอน" กับบทบาทฆาตกรต่อเนื่องที่เธอได้รับรางวัลออสการ์ใน "The Monster" ก็อ้วนขึ้นถึง 13 กก.


"เรเน่ เซลเวเกอร์" ก็ต้องกินๆๆ เพิ่มน้ำหนักกว่า 10 กก. เพื่อเล่น "Bridget Jones Diary"

 ข่าวดาราข่าวดารา

 

ต่างกันสิ้นเชิงกับ "50cent-เคอร์ติส เจมส์ แจ๊คสัน ที่ 3" แร็พเปอร์ผิวหมึกร่างกำยำที่ต้องลดน้ำหนัก 23 กก. ภายใน 9 สัปดาห์ เพื่อรับบทนักฟุตบอลเป็นมะเร็งใน "Things Fall Apart" จนออกมาเหมือนจะเป็นคนละคนเลยทีเดียว

 

แต่ที่ทำให้คนดูหนังจำไม่ได้ เลยคือ "อีริค บาน่า" กับบทอาชญากรใน "Chopper" ที่ทั้งเพิ่มน้ำหนักจนไม่เหลือเค้าเดิม แถมยังมีรอยสักเต็มตัวอีกต่างหาก

 

ใช่แต่แค่เรื่องรูปร่าง อย่างอื่นก็ต้องทุ่มเทด้วยเหมือนกัน โดย "นาตาลี พอร์ตแมน" นั้นก่อนคว้ารางวัลออสการ์จาก "Black Swan" เธอก็ต้องลดน้ำหนักจนได้รูปร่างผอมเหมือนนักบัลเลต์ แล้วยังต้องซ้อมเป็นปีกว่าจะเต้นบัลเลต์ได้สวยงาม เพื่อที่จะได้ไม่ต้องใช้ตัวแสดงแทนมากนัก


"แต่เพราะทุ่มเทขนาดนี้ไง ทั้งตัวหนังและตัวนักแสดงจึงประสบความสำเร็จอย่างที่เห็น"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook