วิจารณ์หนัง MIB 3

วิจารณ์หนัง MIB 3

วิจารณ์หนัง MIB 3
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

mib 3mib 3ถ้าหากรอบๆตัวคุณ มีมนุษย์ต่างดาวเดินเพ่นพ่านเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นที่ตลาดหรือห้างสรรพสินค้า ถ้าจะถามว่ารู้สึกอย่างไร? ก็คงจะตกใจไม่น้อยถ้ามีอย่างนั้นจริงๆ แต่...ก็อาจจะมีอย่างนั้นจริงๆ แล้วก็ได้ในปัจจุบัน แต่ที่เราไม่รู้เรื่อง ก็เพราะว่า ถ้าเราเห็น "มนุษย์ต่างดาว" เมื่อไหร่ ก็จะมี "บุรุษในชุดสีดำ" ถือแท่งโลหะอะไรสักอย่างหนึ่งยาวประมาณ 6 นิ้ว แล้วกดปุ่มเพื่อล้างความทรงจำ ให้แสงวาบกระพริบใส่ดวงตาเรา แล้วเราก็จะลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเห็นหรือเคยรู้มาเกี่ยวกับเรื่องของมนุษย์ต่างดาว ครับวันนี้ผมจะพาแฟนๆ "เว็บสนุก" ไปรู้จักกับภาพยนตร์เรื่อง MIB 3 หรือมีชื่อเต็มๆ ว่า "Men in Black หน่วยจารชนพิทักษ์จักรวาล ภาค 3"

คงไม่ต้องบอกนะครับว่าเรื่องนี้จะสนุกขนาดไหน เพราะว่าเรื่องที่จะแนะนำให้วันนี้เป็นถึงภาคที่ 3 แล้ว ถ้าหนังไม่สนุกคงไม่มีการเดินทางมาถึงภาคที่ 3 อย่างแน่นอน สำหรับในภาคนี้ได้ แบร์รี่ ซอนเนนเฟลด์ (Barry Sonnenfeld) ที่เคยทำ Men in Black ภาคแรก กลับมาทำภาคที่ 3 อีกครั้ง มาในครั้งนี้ก็ได้ยกทีมที่เคยทำในภาคแรกไว้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงนำทั้งสองคน หรือคนที่เขียนบทให้อย่าง โลเวลล์ คันนิ่งแฮม (Lowell Cunningham) คนเขียนบทคู่บุญที่เขียนบทให้ แบร์รี่ ตั้งแต่ Men in Black ภาคแรก และ เดวิด โคเอปป์ (David Koepp) โดยเฉพาะ เดวิด นั้นดีกรีเคยเขียนบทเรื่อง The Lost World: Jurassic Park เมื่อปี 1997, Spider Man เมื่อปี 2002 และ Indiana Jones ภาค 4 เมื่อปี 2008 จึงการันตีได้เลยว่าเรื่อง Men in Black ภาค 3 นี้ต้องไม่ธรรมดาแน่

พอดูหนังเรื่องนี้จบผมนึกถึงหนังเก่าๆ อีกสองเรื่อง คือเรื่อง GHOST BUSTER (บริษัทกำจัดผี) และเรื่อง BACK TO THE FUTURE (เจาะเวลาหาอดีต) เพียงแต่ว่า บริษัทกำจัดผี ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นบริษัทที่รับกำจัดผี แต่ MIB เป็นองค์กรที่ต้องกำจัด พวกมนุษย์ต่างดาว การที่ผู้กำกับต้องการให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังย้อนเวลา เพราะต้องการหาพื้นที่ให้หนัง ในการเล่าเรื่องได้มากขึ้น ซึ่งมันก็จะมีทั้งจุดดีและไม่ดีตามมาด้วยเช่นกัน จุดดีอย่างเช่น เราจะรู้ที่มาที่ไปของตัวละครเพิ่มมากขึ้น รู้ถึงความสัมพันธ์ของ เจและเค ว่าเป็นมาอย่างไร แต่จุดที่ไม่ดีก็คงจะเป็นการเล่าเรื่อง เพราะถ้าย้อนอดีตเมื่อไหร่ ก็จะมีเรื่องเล่าเยอะ และก็เป็นไปตามนั้นจริงๆด้วย ในเรื่องนี้ บทพูดเยอะมาก เยอะจนขนาดที่ว่าฟังๆไปเรื่อยๆ แทบจะหลับ มันคุยกันจัง ผมยังได้ยินคนที่นั่งอยู่ด้านหลังผม ถามเพื่อนเขาว่า หลับยัง แต่ก็ดีตรงที่ยังมีมุกตลกสอดแทรกมาบ้าง เพื่อกันไม่ให้หลับ

mib 3mib3

ฉากต่อสู้มีน้อยมาก ถ้าเทียบกับสองภาคแรก สู้ไม่ได้เลย ฉากต่อสู้เด่นๆ ในภาคนี้ก็เห็นจะเป็นฉากในร้านอาหารจีนเท่านั้น นอกนั้นผมว่าธรรมดา ส่วนเรื่องมนุษย์ต่างดาวหน้าตาแปลกๆ ในภาคนี้ก็น้อยลงไปด้วยเช่นกัน อาจจะเป็นเพราะว่าในภาคนี้เน้นที่ความสัมพันธ์ของ เจ กับ เค มากเกินไปก็ได้ ส่วนอื่นๆ เลยดูเหมือนเป็นองค์ประกอบเล็กๆ น้อยๆ ไปซะหมด ในด้านของมนุษย์ต่างดาวในภาคแรกนั้น ยังคงเป็นอะไรที่สดใหม่ ก็อาจทำให้เรารู้สึกแปลกตาไปและชอบในการจินตนาการของผู้สร้าง แต่พอมาภาค 2 ภาค 3 แล้ว ตัวของมนุษย์ต่างดาวต่างๆ รู้สึกว่าชินตาเสียแล้ว ก็เลยอาจจะดูไปเฉยๆ ภาคนี้เลยทำมนุษย์ต่างดาวน้อยลง ส่วนมากจะอยู่ในสำนักงานของของค์กรมากกว่า ไม่มีการเดินเพ่นพ่านเหมือนภาคแรก

อย่างที่บอก ภาคนี้เป็นเหมือนบทสรุปของไตรภาค จึงมีแต่เรื่องเล่าเยอะหน่อย มุกตลกก็มีสอดแทรกอยู่บ้างเพื่อไม่ทำให้หนังดูน่าเบื่อจนเกินไป ใครที่ชอบ MIB จะต้องประทับใจในฉากจบของภาคนี้อย่างแน่นอน เพราะซึ้งกินใจดี ส่วนฉากที่พระเอกต้องโดดตึกสูงนี่ ถ้าดูในระบบสามมิติ คงเสียวน่าดู(เผอิญผมไมได้ดูในระบบสามมิติ) แต่เพื่อนผมไปดูมาก็บอกว่าเฉยๆ นะครับธรรมดา กับฉากที่ดีที่สุดในระบบ 3D ก็เป็นฉากกระโดดตึกนี้แหละครับ ส่วนนักแสดงเล่นดีกันทุกคน โดยเฉพาะ วิล สมิธ ถ้าไม่มีเขาในเรื่องนี้ คงเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก

mib 3mib 3

สรุปแล้วแฟนๆ บุรุษชุดดำ ที่ต้องรอคอยภาคนี้มาถึง 10 ปี ก็ไม่ได้ทำให้แฟนๆ MIB ผิดหวัง แม้ตัวหนังจะเป็นแบบดราม่ามากกว่า แอ็คชั่นกลางๆ ตลกพอสมควร แต่ถ้าว่าเรื่องนี้มันอาจจะไม่สนุกเหมือนหนังเรื่อง อเวนเจน แต่มันเป็นบทสรุปหนังที่ดีสำหรับคนที่ชอบ MIB เพราะมันเป็นภาคจบที่สมบูรณ์ที่สุดแล้ว

บทวิจารณ์โดย ทชากร
tck05@sanook.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook