ชีวิตที่เป็นตนเองเป็นของ "วีเจ. วุ้นเส้น"

ชีวิตที่เป็นตนเองเป็นของ "วีเจ. วุ้นเส้น"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เพราะไม่ได้ขาย "เสียง" อย่างเดียว หากจะต้องมีความมั่นใจในการแสดงออกและเรื่องของรูปร่างหน้าตามาเป็นส่วนประกอบ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรหากเราจะพบว่าในบรรดาหนุ่มสาวที่ประกอบอาชีพ "วีเจ" ส่วนใหญ่ทั้งหลายจะหน้าตาหล่อๆ สวยๆ ซึ่งหากจะนับบรรดาดีเจที่มีคุณสมบัติดังกล่าวรวมทั้งมีชื่อเสียงที่เรียกว่าเอ่ยชื่อออกมาแล้วเป็นที่รู้จักละก็ หนึ่งในนั้นจะต้องมีชื่อของ "วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์" วีเจสาวสวยจาก "แชนแนล วี ไทยแลนด์" ติดเข้ามาด้วยอย่างแน่นอน อายุหรือก็ใช่ว่าจะมากมายแต่กลับมีชื่อเป็นที่รู้จักในระดับของวีเจชั้นแนวหน้าและมีประสบการณ์การทำงานที่โชกโชน ทำให้ชีวิตของสาวน้อยคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว วุ้นเป็นวีเจมา 2 ปีแล้วค่ะ ตอนเข้ามาครั้งแรกก็คือวุ้นไปสมัคร VJ Search นี่ล่ะค่ะ ตอนนั้นไปเดินกับเพื่อนที่สยาม คือเพื่อนน่ะตั้งใจไปสมัครมาก เราก็เอ๊ะ อะไรคนมาสมัครเยอะจัง เพื่อนก็ยุแต่เราก็ไม่กล้าเพราะวุ้นเป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าแสดงออกน่ะ เพื่อนก็แบบเฮ้ย...วุ้นเรามีรูปเธออยู่พอดีเลย เราก็ลองก็ได้ ก็เลยสมัครไป หลังจากนั้นก็คิดว่าไม่ได้หรอก ก็เห็นๆ อยู่ว่ามีคนสมัครเป็นพันๆ คนเลย แต่พอเขาโทรมาว่าให้ไปเทสต์หน้ากล้อง เพราะเข้ารอบ วันที่เข้ามาเทสต์นี่แบบจำสคริปต์ไม่ได้ พูดไม่ได้เลย ตอนนั้นเรียนอยู่ปี 2 ค่ะ ( นิเทศศาสตร์ เอกโฆษณา ม.กรุงเทพ ) ปรากฏว่าได้ ส่วนเพื่อนที่มาสมัครด้วยกันนี่หายต๋อมไปเลย แล้วพอได้มาเป็นวีเจเรื่องการพูดก็ดีขึ้นค่ะ เราก็กล้าขึ้น แต่ในจำนวนวีเจทั้งหมดแล้ว วุ้นเป็นคนที่พูดน้อยที่สุด วีเจสาวสวยบอกว่าหน้าที่หลักของเธอก็คือช่วงแนะนำหนังรวมทั้งในช่วงเปิดเพลง ซึ่งนอกจากการทำหน้าที่วีเจแล้วเธอก็ยังมีโอกาสได้ไปเข้าสู่แวดวงละครกับเขาด้วย โดยวุ้นเส้นยอมรับว่างานทุกอย่างที่เข้ามานั้นเป็นเรื่องของโอกาสมากกว่าที่จะเกิดจากการไขว่คว้าของเธอ ทำวีเจได้ประมาณปีนึงก็มีละครติดต่อเข้ามา ละครเรื่องแรกของวุ้นก็คือพยัคฆ์ร้าย 6 แผ่นดิน ถ่ายมาตั้งนานแล้วแต่เพิ่งจะมาออนแอร์นี่ล่ะค่ะ วันแรกที่เข้าไปกองถ่ายก็เกร็งเลยเพราะไปคนเดียวดีที่ว่ามีซันนี่ ( วีเจซันนี่ ) ไปด้วย แล้วเรื่องการแสดงเราก็ยังใหม่มากทำอะไรก็เกร็งไปหมดเลย นักแสดงที่วุ้นไปเล่นด้วยเขาเป็นมืออาชีพกันทั้งนั้น เราก็กลัวว่าจะไปทำให้เขาเสียเวลา ซึ่งพอมาดูตัวเองตอนออกอากาศนี่รู้สึกเลยว่าตัวเองเล่นแข็งจัง งานในวงการที่วุ้นทำอยู่ตอนนี้วุ้นคิดว่าวุ้นได้มาเพราะโอกาสมากกว่าที่เราจะพยายามนะ คือ อย่างงานวีเจก็คือความพยายามเหมือนกันตอนที่เราผ่านเข้ารอบมาแล้ว แต่งานหนัง งานละครมันเป็นโอกาสที่มีคนเสนอมาให้เรา แล้วเราก็คิดว่ามันน่าสนใจก็ลองดูดีกว่า ถ้าสมมติว่าตอนนั้นเป็นวีเจอยู่เฉยๆ วุ้นก็คงไม่ไปขอเขาเล่นหรอกค่ะ คงไม่พยายามที่จะเป็นนักแสดงหรอก แต่เมื่อมาเป็นนักแสดงแล้วเราก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด การทำงานออกสื่อ การกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียง ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ส่งให้คนๆ นั้นออกมายืนอยู่กลางแจ้งโดยมีสายตาของใครต่อใครมากมายจับจ้อง และนั่นเองคือสาเหตุที่มาของสารพัดข่าว สารพัดคำวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องของการวางตัว กิริยามารยาท การประพฤติของเธอที่มักจะออกมาในทางลบ ซึ่งหลายต่อหลายครั้งทำเอาเจ้าตัวเกิดอาการท้อไปเหมือนกัน มีอยู่ช่วงหนึ่งวุ้นโดนจากเว็บฯ แรงมาก...คือเขาก็ไม่ได้ระบุชื่อนะ แต่คนที่อ่านน่ะพออ่านแล้วก็รู้ว่าหมายถึงใคร เป็นพวกอักษรย่อ แล้วเขาเขียนอ้อมๆ แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะไปทำยังไงกับเขา เราไม่ได้มีปากกาอยู่ในมือ ก็เลยเฉยๆ แต่ตอนนั้นเนี่ยเซ็งมากเลย ลองคนที่เขียนโดนมั่งสิ...คือวุ้นจะไปทำอะไรแบบนั้นเหรอ วุ้นก็อยู่ของวุ้นเฉยๆ แต่คนอื่นที่เขาอ่านสิ เขาจะมองเรายังไง พอเราไปเห็นตามเว็บบอร์ดต่างๆ ช่วงแรกๆ นี่ท้อนะ แต่มาหลังๆ นี่เริ่มชินแล้ว ก็เฉยๆ วุ้นเคยร้องไห้เหมือนกันเวลาที่ท้อ แต่หลังๆ นี่เรามมาคิดว่าคนอื่นๆ เขาก็โดนน่ะ แล้วคนที่เชื่อจริงๆ ข่าวพวกนี้จริงๆ เขาก็ไม่ใช่คนที่เราจะต้องไปสนใจ เขาคนละความคิดกับเรา ทัศนคติความคิดเขาก็ไม่เหมือนกับเรา แล้วเราเองก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปสนใจเขา มีคนเกลียดก็ต้องมีคนรัก แต่ก็เป็นเรื่องที่แปลกทีเดียวเมื่อสาวสวยอย่างเธอกลับเป็นที่สนใจของสาวๆ มากกว่าผู้ชาย? แฟนคลับวุ้นก็มีนะ แต่ไม่ถึงกับตั้งกลุ่มเป็นแฟนคลับขนาดนั้น แต่จะเขียนจดหมายมาว่าชอบลักษณะเราตรงนี้อะไรแบบนี้ล่ะค่ะ แล้วก็ให้กำลังใจกับข่าวที่เกิดขึ้น เขาก็จะบอกว่ามันไม่ได้เกิดกับวุ้นคนเดียวนะ มีหลายๆ คนที่โดน แต่ส่วนมากที่ส่งจดหมายมาเนี่ยเป็นผู้หญิงทั้งนั้นเลย ไม่มีชายหนุ่มเลยนะก็ไม่รู้ว่าทำไม (หัวเราะ) น้องๆ ส่วนมากจะเป็นพวกที่เรียนอยู่ในช่วง ม.ปลายน่ะค่ะ เขาก็เข้ามาคุยมาทักทายเรา วุ้นก็ไม่เคยถามเขานะว่าเขาชอบอะไรในตัววุ้น แต่น้องๆ เขาจะเขียนมาเองว่าชอบเราที่เราเป็นธรรมชาติที่สัมผัสได้ แบบอยากจะพูดอะไรก็พูด แล้วคำพูดของวุ้นก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แล้วก็ชอบเรื่องการแต่งตัวด้วย ตอนที่วุ้นเรียนอยู่พวกเพื่อนๆ ผู้ชายในมหาลัยเนี่ยเข้ามาจีบวุ้นน้อยนะ ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ( หรือว่าเราหน้าตาดุ? ) ไม่ดุนะ วุ้นคงไม่ใช่สเป็คของผู้ชายส่วนใหญ่มั้ง เพราะส่วนมากเขาจะชอบแบบขาวหมวยใช่มั้ย แล้วในมหาวิทยาลัยก็มีขาวๆ หมวยๆ เยอะ...ก็มีมาบ้างที่เข้ามาคุย แต่ก็เป็นเพื่อนกันไปหมดแล้ว แล้วก็มีแบบว่านั่งกันเป็นกลุ่มๆ เลยนะ พอเราเดินมาก็แซวเรา ประมาณว่าไหนๆ ดูหน้าหน่อย อยากรู้ว่าน่ารักตรงไหน ถ้าโดนแบบนี้วุ้นจะทำเฉยๆ เพราะถ้าไปโกรธให้เขาเห็น เขาก็จะได้ใจประมาณว่าสำเร็จแล้วที่ทำให้เรารู้สึกอะไรได้ เราก็เลยใช้วิธีเฉยๆ ไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็อีกล่ะพอเราเฉยก็โดนเขาว่าเอาอีกว่าเราน่ะหยิ่ง แต่ก็ยอมล่ะ ดีกว่าให้มาว่าเราเล่นด้วย ทำงานเหนื่อยๆ ร่างกายและสมองย่อมเรียกร้องอยากที่จะพักผ่อน วุ้นเส้นบอกว่าวิธีพักผ่อนของเธอที่ชอบมากที่สุดก็คือการเล่นกีฬา, นวดสปาและการชมภาพยนตร์ ถ้าไม่เล่นกีฬาก็ไปนวดในสปา แล้วก็ทานอาหารดีๆ หนังก็ดูนะ ที่ดูนี่ไม่ใช่เพราะเป็นวีเจช่วงหนังนะดูเพราะชอบส่วนตัววุ้นชอบหนังแบบไม่เครียดชอบแบบโรแมนติกคอมมิดี้ คือถ้ามีโรแมนติกก็ดีให้มันหวานทราบซึ้งบ้าง (กับคนรู้ใจเคยโรแมนติกกันบ้างมั้ย?)...(เขิน) กับพี่ดอนก็ไม่หวานนะ ไม่มีอะไร มีบางคนบอกไม่กลัวหรือเพราะเขากล้ามใหญ่ ก็เขาไม่ได้ทำอะไรเราน่ะจะไปกลัวทำไม ก็แค่คุยกัน เวลาเขาโกรธก็ไม่ได้ทำอะไร เขาก็ว่าเฉยๆ...เรื่องแจกการ์ดนี่ยังไม่รู้ยัง อีกนาน แล้วก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับอนาคต วุ้นไม่อยากพูดถึงตรงนี้เพราะเราเป็นผู้หญิงใช่มั้ยล่ะ ก็ให้ธรรมชาติเป็นตัวตัดสินทุกอย่างดีกว่า วุ้นเส้นบอกว่าทุกวันนี้เธอยังทำตัวเป็นปกติทุกอย่างเหมือนกับตอนที่ยังไม่มีชื่อเสียง ส่วนเรื่องของอนนาคตนั้นเจ้าตัวบอกว่าหลังจากที่เรียนจบแล้วก็จะทำงานตรงนี้ไปสักพัก หลังจากนั้นก็อาจจะเรียนต่อ ทุกวันนี้หลังจากเป็นนักแสดงแล้ว เป็นวีเจแล้วก็ยังคงไปเดินที่นู่นที่นี่ได้ เพราะวุ้นไม่ใช่คนขี้อาย คือก่อนมาเป็นก็อาจจะอายๆ บ้าง แต่ตอนนี้ถ้าไปเดินที่ไหนก็ไม่อาย ไม่รู้ว่าจะอายทำไมตัวเองไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองจะมีชื่อเสียงอะไรขนาดถึงกับเดินตลาดไม่ได้ วุ้นยังนั่งทานอาหารที่ขายริมถนนได้ ร้านก๋วยเตี๋ยวนี่ก็นั่งทานได้ แผนการอนาคตวุ้นคิดว่าคงทำงานตรงนี้ไปอีกสักพักแล้วก็อยากเรียนต่อให้สูงที่สุด คืองานตรงนี้สำหรับวุ้นแล้วมันไม่มั่นคงอยู่แล้ว อยากไปเรียนเมืองนอกไปเรียนเกี่ยวกับแฟชั่นดีไซน์ที่อังกฤษ คือบอกตามตรงว่าตอนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยตอนนั้นวุ้นยังไม่ได้คิดอะไร แต่ความคิดคนเรามันจะโตขึ้นไปเรื่อยๆ ตอนนั้นเราก็เรียนๆ ไป แล้วเราก็มาคิดเรื่อยๆ ว่าสิ่งที่เราทำอยู่นี่เราชอบหรือเปล่า มันก็เป็นประสบการณ์ที่สั่งสมมาจนมาถึงปัจจุบันนี้เราคิดออกว่าเราควรจะทำอะไรตามที่เราต้องการหรือเปล่า สารพัดข่าวร้ายที่ออกมา เมื่อถามว่าหากย้อนเวลากลับไปได้ยังจะเข้ามาในวงการอีกหรือเปล่า? วีเจสาวบอกกับเราอย่างมั่นใจว่า แม้จะเลือกได้เธอก็จะขอเลือกทางเดินเดิม ถ้าเลือกได้ให้ย้อนกลับไปวุ้นก็ยังอยากจะเป็นวีเจเหมือนเดิม ทุกวันนี้ก็จะทำไปเรื่อยๆ อบอุ่นดีถึงมีข่าวออกมาก็ไม่เป็นไรถึงจะเสียใจบ้าง...คนที่จะมาเป็นวีเจต้องเป็นอย่างไร ก็ควรจะเป็นอย่างที่ตัวเองเป็น อย่างวุ้นเป็นคนพูดน้อยก็พูดน้อย ไม่เป็นไร แต่ก็ควรพยายามมากขึ้น

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ ชีวิตที่เป็นตนเองเป็นของ "วีเจ. วุ้นเส้น"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook