'โยโกะ' ชื่นมื่นควงแฟนญี่ปุ่นเปิดใจงานหมั้น

ช่วงนี้ชีวิตคนบันเทิงรู้สึกจะเป็นสีชมพูกันหลายคน เมื่อไม่กี่วันก่อนเพิ่งจะเซอร์ไพรส์กับการประกาศแต่งงานของคู่เด็ก "นุ้ก - ป้อ" ไปแล้ว มาในช่วงเย็นของวันนี้ ( 26 เมษายน 2547 ) นางแบบสาวชื่อดัง "โยโกะ ทาคาโน่" ก็แถลงข่าวประกาศหมั้นกับหนุ่มลูกครึ่งจีน - ญี่ปุ่น "Junji Sumitani" วัย 32 ผู้จัดการเซลส์มาเก็ตติ้งบริษัท Turner ในเครือ CNN ที่ร้าน bala อย่างชื่นมื่น ( โดยมีกำหนดพิธีหมั้นกันในวันที่ 7 พฤษภาคมที่บ้าน "จิม ทอมป์สัน" ) ฝ่ายสาวบอกว่าวันนี้สำหรับตัวเองนั้นถือว่าเป็นข่าวดีที่สุดเท่าที่อยู่ในวงการบันเทิงมาเลย พร้อมเปิดใจว่ากับแฟนหนุ่มคนนี้ได้ดูใจกันมานานกว่า 1 ปีแล้ว ก่อนที่ฝ่ายชายจะตัดสินใจขอหมั้นแบบไม่ทันตั้งตัว โยโกะ : เจอกันที่ร้านๆ หนึ่ง คือตอนนั้นโยไปเที่ยวกับเพื่อนผู้หญิง เค้าก็ไปกับเพื่อนเค้า 2 คนก็ปรึกษาเพื่อนในกลุ่มว่าจะเข้าไปทักทายเขาดีไหมพราะเห็นว่าเขาเป็นคนญี่ปุ่น ก็เลยพูดหวัดดีเค้าไปแล้วให้เค้ามาจอยส์กับเรา ตอนแรกๆ ก็ยังไม่รู้สึกอะไรแต่เค้าก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเค้าเป็นคนจริงใจเสมอต้นเสมอปลาย ก็คบกันใช้เวลากว่า 6 เดือนเลยนะกว่าเค้าจะให้โยพูดคำว่าแฟนได้ ระยะเวลาของการคบกัน 1 ปี อาจจะเร็วไปสำหรับใครๆ หลายๆ คนนั้นแต่สำหรับนางแบบสาวเธอบอกว่าเวลาเพียงเท่านี้ก็ทำให้เข้าใจกันและกันได้มากพอสมควรแล้ว โยโกะ : ที่ตัดสินใจหมั้นหลังคบกันได้ 1 ปี เพราะเรารู้สึกมีความเข้าใจกันเราเข้าใจกันได้มาก ต่างคนต่างมีความเข้าใจกัน เค้าก็ไม่ถึงกับเป็นผู้ชายในสเปกนะเพราะโยเองก็ไม่ได้มโนภาพเอาไว้ว่าต้องเป็นยังไง ไม่รู้ว่าสเปกคืออะไร แต่ต้องมีที่ตรงบ้าง คนเราคงไม่มีใครเพอร์เฟ็ค 100% โยก็ไม่ได้เพอร์เฟ็คสำหรับเค้า เค้ายังไม่ทันขอโยเลยไปขอกับคุณพ่อคุณแม่ก่อน เราก็รู้สึกผิดขั้นตอนไปหรือเปล่า ฉุนมากเลยแหละคุณไปขอพ่อแม่เราถึงอนุญาตแต่ถ้าตัวโยไม่โอเคล่ะ แต่ก็คิดว่าเค้าให้เกีรติพ่อแม่โยเลยทำยังงั้น ( หัวเราะ ) จะแต่งงานกันเมื่อไหร่? โยโกะ : ตอนนี้ก็แค่หมั้นกันก่อน ทีแรกจะให้ชัวร์ก่อนสักอาทิตย์นึงค่อยบอก แต่รู้กันหมดแล้วก็เลยตัดสินใจบอก แต่โอเคมันเป็นข่าวที่ดีที่สุดสำหรับโยแล้ว ถ้าจำได้ที่ผ่านมาจะมีข่าวเศร้าๆ ตลอด ส่วนงานแต่งคงแต่งปีหน้าประมาณสิ้นปี ก็ถามเค้าว่าคบกัน 1 ปีไม่เร็วไปเหรอที่จะแต่งงานกันแล้ว เค้าบอกว่ามันอยู่ที่ว่าจะเชื่อใจกันแค่ไหนมากกว่า มันขึ้นอยู่กับความพร้อมของทั้ง 2 ฝ่ายจริงๆ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลา คุณแม่หวงลูกสาวมากทำไมถึงยอมใจอ่อนง่ายๆ ? โยโกะ : เค้าเป็นคนเข้าตามตรอกออกตามประตูให้เกียรติเราและครอบครัว ผู้ชายน้อยคนที่เป็นอย่างนี้โยไม่ได้คบเค้าเป็นคนแรกก็มีคบคนอื่นมาแต่ไม่ได้เป็นอย่างนี้ คบกันช่วงนึงเค้าก็ขอพบพ่อแม่เรา เค้าเป็นคนชัดเจนมากเปิดเผย เทคแคร์ดี คุณแม่โยกิตติศัพท์สุดยอดเรื่องความหวง ส่วนใหญ่ใครเข้าไปเขาจะโน ตอกกลับหมด โยก็ไม่เข้าใจอารมณ์คุณแม่เหมือนกัน ก็งงว่าทำไมคนนี้ง่ายดายขนาดนี้ คงเป็นเพราะที่เค้าพูดชัดเจนคุณแม่ก็เลยสบายใจ เรื่องสินสอดตกลงกันหรือยัง? โยโกะ : สินสอดมีแหวนเพชร 5 กะรัต 44 สตางค์ แล้วก็สร้อยเพชร , กำไลเพชร ,ตุ้มหูเพชร 3 กะรัต, เงินสด 2 ล้าน 7 แสนบาท ทองคำอีก 27 บาท แหวนอะไรพวกนี้เค้าเป็นคนจัดการเองดูความเหมาะสมอะไรหลายๆ อย่าง ส่วนเงินคุณแม่โยขอไป มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความมากน้อยอะไร มันขึ้นอยู่กับเราจะเข้าใจกันแค่ไหนมากกว่า แต่งกันไปแล้วจะอยู่กันได้หรือเปล่า เรียนรู้กันได้แค่ไหน เงินที่ได้มาก็ต้องเป็นเงินของเรา 2 คนอยู่แล้ว วางแผนชีวิตหลังแต่งงานไว้ยังไงบ้าง? โยโกะ : แต่งงานแล้วก็คงต้องไปๆ มาๆ เมืองไทยอยู่ดี เพราะแม่โยก็อยู่เมืองไทย ก่อนที่จะแต่งเรา 2 คนก็ต่างต้องดูแลครอบครัวเหมือนกัน ก็ตกลงกันไว้ว่าก็คงทำเหมือนเดิมก็ขอให้ดูแลคุณแม่ต่อไป เค้าวางอนาคตไว้บอกเลยว่าอยากมีลูก 4 คนเพราะเค้ามีพี่น้อง 4 คนเป็นคนสุดท้อง แต่โยคงไม่ไหวเพราะไม่ใช่โรงงานผลิตลูก โยคงต้องแล้วแต่พระเจ้าจะประทานให้คะ" ต่อคำถามที่ว่าหลังการแต่งงานแล้วจะทำงานในวงการต่อไปหรือเปล่าโยโกะบอกว่าทางฝ่ายแฟนหนุ่มเองก็ไม่ได้ห้ามหากตนเองจะทำต่อไป โยโกะ : ส่วนงานในวงการเค้าก็ให้ทำต่อไปเหมือนเดิม อยากจะทำอะไรก็ทำอย่างที่เคยทำมา งานแต่งยังสรุปไม่ได้ว่าจะแต่งที่ไหน คงต้องดูว่าเค้าจะต่อสัญญาที่ประเทศอะไรตอนนี้เค้าประจำอยู่ที่สิงคโปร์ ฟังความในใจของฝ่ายหญิงไปแล้ว หนุ่ม "Junji" ที่พูดภาษาไทยไม่ได้ มีแฟนสาวเป็นล่ามให้กล่าวถึงความรู้สึกที่มีต่อโยโกะบ้าง Junji : โยเป็นคนใจดี ตรงไปตรงมาคิดอะไรก็พูดอย่างนั้นไม่ต้องมาคอยทายใจว่าคิดอะไรอยู่ ผมรู้สึกว่าจากที่ต้องใช้ชีวิตคนเดียว ต่อจากนี้ก็จะได้ชีวิตเพิ่มมาอีกคนแล้วมาแชร์ความรู้สึกร่วมกัน บรรยากาศตอนไปขอโยกับคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่มีอะไรก็ทานข้าวกันปกติ รู้สึกว่ามันเป็นธรรมชาติมาก คุยกับคุณพ่อคุณแม่ธรรมดาก็พูดขึ้นมาเลยไม่มีพิธีอะไรครับ ขอให้สุขๆ...