ปุ๊กกี้ฟ้อง ขอเลี้ยงดูลูก โดน"ต๋อง" กีดกัน

"ปุ๊กกี้" จูงมือแม่ ประกาศฟ้อง "ต๋อง วงทู" อดีตสามี อ้างว่าถูกขัดขวางสารพัดวิธีไม่ให้เยี่ยมลูก เผยอยากเจอลูกต้องเกาะรั้วบ้านตะโกนคุย ภายหลังจากการหย่าร้างกันอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปีที่ผ่านมา น.ส.ปริศนา พรายแสง หรือ ปุ๊กกี้ อดีตนักร้องดังสังกัดค่ายอาร์.เอส. ก็ปรากฏเป็นข่าวมาตลอดว่าถูก นายสุรพันธุ์ จำลองกุล อดีตสามีกีดกันไม่ให้โทรศัพท์พูดคุยหรือเข้าเยี่ยมลูกทั้ง 2 คนซึ่งฝ่ายครอบครัวนายสุรพันธุ์เป็นผู้ดูแลอยู่ โดยก่อนหน้านี้ อดีตนักร้องชื่อดังได้เปิดเผยกับ "คม ชัด ลึก" ถึงเหตุการณ์เข้าเยี่ยมลูกล่าสุดว่า นายสุรพันธุ์ได้สั่งพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกพูดคุยทางโทรศัพท์กับเธอ นอกจากนั้นเมื่อไปเยี่ยมที่บ้านก็ให้เกาะรั้วบ้านพูดคุยไกลๆ โดยไม่ให้ลูกๆ ออกมานอกบ้านอีกด้วย ทำให้เธอทรมานใจเป็นอย่างมาก พร้อมที่จะฟ้องร้องต่อศาล ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 13 ก.ค. ที่ร้านอาหาร 104 ย่านประชาชื่น ในงานแถลงข่าวเปิดตัวอัลบั้ม "คิดถึงแม่" ของบริษัท อาร์เอส โปรโมชั่น จำกัด ( มหาชน ) นางปริศนา หนึ่งในศิลปินที่มาร่วมร้องเพลงในอัลบั้มพิเศษครั้งนี้ และนางจารุพรรณ พรายแแสง มารดา ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กรณีเตรียมยื่นฟ้อง นายสุรพันธ์ อดีตสามี โดยเผยว่า จะดำเนินการเรื่องดังกล่าวภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะใช้สิทธิความเป็นแม่ นำลูกสองคน คือ ด.ญ.ปรีณาพรรณ และ ด.ญ.ชัชนันท์ จำลองกุล มาเลี้ยงดูเอง และอ้างว่า นายสุรพันธ์ห้ามมิให้ไปพบบุตรสาว อีกทั้งยังมีการทำร้ายร่างกายลูกทั้งสองด้วย นางปริศนา กล่าวว่า ตนไม่ได้เจอหน้าลูกมา 1 เดือนแล้ว โดยล่าสุดเดินทางไปเยี่ยมลูกที่บ้านนายจำลองแต่ถูกกีดกันไม่ให้พบลูก ตนต้องยืนเกาะรั้วแล้วตะโกนคุยกับลูกที่มองออกมาทางกระจกหน้าต่าง ซึ่งลูกก็ร้องไห้ ตนเองก็ร้องไห้ ตนไม่เข้าใจว่า ตอนที่จดทะเบียนก็มีการพูดคุยกันเป็นที่เรียบร้อยว่า จะให้ลูกอยู่กับนายจำลอง แต่ตนสามารถไปเยี่ยมได้ทุกเวลา เพื่อไม่ให้ลูกรู้สึกว่า ขาดพ่อหรือแม่ ในขณะที่ระยะหลังกลับถูกกีดกันตลอด "ปุ๊กกี้โทรไปหาพี่ต๋องก็ไม่รับสาย พอลองใช้เบอร์คนอื่นโทรไปก็รับ แต่พอรู้ว่าเป็นปุ๊กกี้ ก็ต่อว่าให้ออกไปจากชีวิตเขาและลูก ทำให้ปุ๊กกี้รู้สึกเศร้ามากที่พี่ต๋องเปลี่ยนไปแบบนี้ ทั้งที่ตอนหย่าก็ตกลงด้วยดี ส่วนเรื่องฟ้องร้องปุ๊กกี้จะดำเนินการภายในสัปดาห์นี้ และมีหลักฐานเป็นเทปการสนทนาระหว่างปุ๊กกี้และพี่ต๋องที่พูดจากีดกันไม่ให้พบลูก รวมถึงมีภาพถ่ายเหตุการณ์ที่ไปยืนเกาะรั้วหาลูกหน้าบ้านพี่ต๋องด้วย" นางปริศนากล่าว อดีตนักร้องสาววัย 25 ปีกล่าวต่อว่า เหตุที่ต้องถ่ายรูปเก็บไว้ เพราะได้คิดไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ต้องเจอกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ จึงตั้งใจถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานในการฟ้องร้อง ตนจะนำลูกทั้งสองกลับมา โดยมั่นใจว่า จะสามารถเลี้ยงดูได้เป็นอย่างดี และไม่คิดฟ้องขอค่าเลี้ยงดูจากนายสุรพันธ์ เพียงต้องการลูกทั้งสองกลับมาเท่านั้น ส่วนเหตุผลที่นายสุรพันธ์ไม่ยอมให้พบลูกเป็นเพราะเธอประพฤติตนไม่เหมาะสมหรือไม่นั้น นางปริศนา กล่าวว่า ไม่ยุติธรรมที่จะนำเรื่องนี้มาอ้าง เพราะตอนนี้ตนได้หย่าขาด และเรื่องของทั้งสองคนก็จบลงแล้ว นายสุรพันธ์เองก็มีแฟนใหม่ จะอ้างว่าตนมีแฟนใหม่ไม่ได้ และตนก็มั่นใจว่า จะสามารถดูแลลูกทั้งสองได้อย่างดี ซึ่งหากได้ลูกกลับมาเลี้ยงดูก็จะไม่ยอมให้คลาดสายตาเด็ดขาด เมื่อถามถึงข่าวที่เธอออกมาเปิดเผยว่า ลูกทั้งสองถูกทำร้าย นางปริศนา เผยว่า เคยได้รับทราบจากการพูดคุยโทรศัพท์กับลูก แต่ก็ไม่รู้ความจริงเป็นอย่างไร เพราะลูกอาจพูดเพื่อเรียกร้องความสนใจก็เป็นได้ ด้านนางจารุพรรณ มารดาวัย 54 ปี ซึ่งเดินทางกลับมาจากประเทศออสเตรเลียเพื่อร่วมงานเปิดตัวอัลบั้มพิเศษพร้อมกับลูกสาว รวมถึงดำเนินการฟ้องร้องในเรื่องดังกล่าว เปิดเผยว่า ครั้งล่าสุดที่ไปพบกับหลาน หลานได้เล่าให้ฟังว่า ถูกนายสุรพันธ์ทำร้าย จึงต้องนำเด็กออกมาดูแลเองให้เร็วที่สุด ซึ่งได้เตรียมดำเนินการฟ้องร้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว "ตอนนี้ได้ปรึกษาทนายแล้ว เราจะฟ้องแน่ เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ที่ผ่านมาไม่ได้พบกับนายสุรพันธ์เลย เพราะเราไม่ยอมรับว่าเป็นลูกเขย แต่เมื่อเห็นว่า มีลูกด้วยกันแล้ว ก็ทำใจและพูดคุยด้วยบ้าง แต่พอหย่ากัน เขาและญาติของเขาก็กีดกันไม่ให้พบหลาน เวลาจะไปหาหลานแต่ละครั้งก็ต้องแอบไป ครั้งล่าสุดที่พบกัน หลานยังเล่าให้ฟังอีกด้วยว่า ถูกพ่อทำร้าย ซึ่งเรื่องอย่างนี้ไม่ถูกต้อง เพราะไม่ว่าจะโกรธ เกลียดกันอย่างไร ก็ไม่ควรมาลงกับเด็ก มันเป็นเรื่องเลวร้ายมาก" นางจารุพรรณ กล่าว นางจารุพรรณ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ได้หลานกลับมาแล้ว มีแนวโน้มว่า จะนำไปเลี้ยงดูที่ประเทศออสเตรเลีย เพราะเด็กสามารถได้สัญชาติที่นั้น รวมถึงมีญาติที่จะคอยดูแลอย่างดี โดยหากครั้งนี้ยังไม่สามารถนำหลานกับไปด้วยได้ก็จะเดินทางกลับมาฟ้องร้องต่อจนสำเร็จ