6 คำถาม กับ บัณฑิต ฤทธิ์ถกล

6 คำถาม กับ บัณฑิต ฤทธิ์ถกล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
1. ทำไมคุณอาถึงหยิบเอาผลงานชุด อนึ่งฯ กลับมาทำอีกครั้งครับ? ทำเพราะคิดถึงมัน อนึ่งนี่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับโรงเรียนเก่า การคิดถึงโรงเรียนเก่า นานๆ เข้าเราก็คิดถึงบรรยากาศแบบเดิม อยากไปทำงานในที่แบบนั้น โรงเรียนมัธยมอะไรแบบนั้น 2. เรื่องราวของ อนึ่งฯ ภาคนี้ มีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงจากภาคที่แล้วเหมือนบุญชูฯ ภาคล่าสุดหรือเปล่า? ไม่เกี่ยว คืออนึ่งฯ ทั้งสามภาคมันคนละเรื่อง คนละโรงเรียน แต่ว่า ที่มันเกี่ยวคือมันมีคอนเซ็ปต์เดียวกันที่ว่า มันเป็นเรื่องของคนที่คิดถึงโรงเรียนเก่า หมายถึงว่า คนทำคิดถึงโรงเรียนเก่า คนดูคิดถึงโรงเรียนเก่า แล้วก็มาเจอกันที่จุดร่วมของหนังเรื่องนี้ เป็นหนังที่ตอบสนองความบันเทิงสำหรับคนที่คิดถึงโรงเรียนเก่า แต่ประเด็นของหนังมันก็แล้วแต่เรื่อง สมมุติถ้ามี อนึ่งฯ 4 อนึ่ง 5 เนี่ย ประเด็นมันก็จะต่างๆ ออกไป เพียงแต่ว่า คอนเซ็ปต์มันจะเหมือนกัน แล้วในโรงเรียนเก่าแต่ละโรงเรียนเนี่ย มันมีสตอรี่หลายๆ สตอรี่ หลายๆ เหตุการณ์ อย่างกรณีภาคแรกกับภาคสองเนี่ย มันพูดถึงความรักในวัยเรียน เด็กที่รักครู พอภาคสามเนี่ย มันเกี่ยวกับการที่โรงเรียนจะถูกรื้อทิ้ง เคยคุยกับเพื่อนบางคนเรื่องโรงเรียนเก่า แล้วมันบอก เฮ้ย! โรงเรียนเก่ากูไม่มีแล้วว่ะ คือโรงเรียนเค้าโดนรื้อทิ้งไปนานแล้ว ทั้งที่ครั้งนึงโรงเรียนเค้าเคยมีชื่อเสียง อย่างสมัยอาเรียนหนังสือมันมีโรงเรียนชื่อไพศาลศิลป์ ตอนนี้ไพศาลศิลป์ไม่มีแล้วในโลกนี้ เราก็นึกในใจว่า ถ้าเผื่อว่า เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของโรงเรียนที่จะถูกทำลาย ถูกขายไป เราก็ต้องมานั่งหาสาเหตุว่าทำไมมันจึงถูกขายไป ขายให้ใคร เราก็มองถึงกระแสโลกปัจจุบันว่า เออ มันก็คงจะขายให้ห้างนะ ห้างสะดวกซื้อใหญ่ๆ มาซื้อไป เพราะโรงเรียนมันมีบริเวณกว้างขวาง เรามองภาพอย่างนั้น เรื่องนี้มันก็เลยเกิดขึ้นมาว่า พวกศิษย์เก่าก็เลยหาทางที่จะรักษาโรงเรียนนี้ไว้ 3. คุณอาต้องการวิพากษ์วิจารณ์ระบบสังคมแบบทุนนิยมในปัจจุบันที่มุ่งเน้นเอาแต่ผลกำไรเหรอครับ? เปล่า ไม่ถึงขนาดนั้น หนังไม่ได้จะไปวิพากษ์วิจารณ์ระบบอะไรมากมาย เพียงแต่เป็นแง่คิด เราไม่ถึงขนาดพยายามยัดเยียดสาระอะไร เพราะเราพูดถึงจุดเล็กๆ หนังมันไม่จำเป็นต้องเป็นปาฐกถาทางภาพยนตร์ มันเป็นหนังสนุกสนานเฮฮาของคนวัยหนุ่มสาว และให้ความอบอุ่นในเรื่องความสัมพันธ์ หลักๆ มันจะเป็นอย่างนั้นมากกว่า แต่นอกเหนือจากนั้นมันก็อยู่ที่ว่าผู้กำกับจะสอดแทรกอะไรเข้าไปให้คนดูเก็บไปคิด 4. ในอนึ่งฯ ภาคนี้จะมีดาราจากภาคที่แล้วๆ มาร่วมแสดงเหมือนกับบุญชูภาคล่าสุดไหมครับ? เรื่องนี้ไม่มีดาราหน้าเก่ามาเลย เอาใหม่หมดเลย เพราะมันคนละพวก คนละโรงเรียน อย่างที่บอกแล้วว่า อนึ่งฯ นี่มันเป็นแค่คอนเซ็ปต์ร่วมกันของโรงเรียนเก่า ถ้าเราทำหนังเกี่ยวกับโรงเรียนเก่า ก็ต้องเป็นอนึ่งฯ ต่อไปอีก อนึ่ง... คิดถึงอะไรก็ว่าไป อย่างอนึ่งฯ ภาคแรกเนี่ย ดาราที่มาแสดงก็เด็กๆ ทั้งนั้น วัยรุ่นหมด มันก็จับปูใส่กระด้งเหมือนกัน แต่เค้าก็มีวินัยในการทำงาน จริงๆ ทุกชุดเลยที่ทำมามันมีวินัยหมด เพราะเรามีการพูดคุยกันก่อน มันก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เราต้องยอมรับว่าเราไม่สามารถที่จะไปบังคับให้เด็กซีเรียส มันจะไปทำลายความร่าเริงเค้า และทำลายความร่าเริงของหนังไปด้วย คือหนังวัยรุ่นเนี่ย เราต้อง Keep ความร่าเริงของนักแสดงไว้ 5. การร่วมงานเป็นครั้งที่สองกับ อาร์ตี้ ธนฉัตร ตุลยฉัตร อาจทำให้หลายๆ คนคิดถึงดาราคู่บุญของคุณอาอย่าง สันติสุข พรหมศิริ อาร์ตี้นี่จะถือเป็นดาราคู่บุญคนใหม่ของคุณอาได้รึยังครับ? อาร์ตี้เค้ามีพัฒนาการที่เร็ว เป็นนักแสดงที่มีปฏิภาณไหวพริบ มีครีเอทีฟในการแสดง เค้าสามารถที่จะสร้างบทบาทของตัวเองเพิ่มเติมในการแสดงได้ ถามว่าจะเป็นเหมือนสันติสุขรึเปล่า ก็ยังไม่รู้เลย จริงๆ สันติสุขเนี่ย เค้าเป็นดาราคู่บุญของใครหลายคน เพียงแต่คนอาจจะคุ้นกับหนังของอา เพราะเล่นให้หลายเรื่อง (ยิ้ม) อาร์ตี้ก็น่าจะได้ทำงานด้วยกันอีกหลายเรื่อง ก็เห็นแวว เห็นอะไรในตัวเค้า เห็นการแสดงของอาร์ตี้แล้วบางทีเรามีแรงบันดาลใจที่จะทำอะไร คือนักแสดงบางคนเนี่ย พอเราเห็นฝีมือเค้าแล้วเนี่ย มันจะช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจ นึกภาพออกไหม 6. คุณอามีความคาดหวังกับหนังเรื่องนี้อย่างไรบ้างครับ? มีความเชื่อมั่นว่าคนที่เข้าไปดูแล้วจะไม่เสียใจ จะได้ความรู้สึกดีๆ จากหนัง แต่ถ้าถามว่าคาดหวังเรื่องรายได้เนี่ย ไม่เคยคาดหวังถึงเรื่องนี้มาก่อน เพราะมันมีองค์ประกอบหลายอย่างที่จะทำให้รายได้มันดีหรือไม่ดี เพียงแต่ว่า เราถือว่าเราทำงานเต็มที่ แล้วที่สำคัญเรามีความเชื่อมั่นว่า ใครก็ตามที่ซื้อตั๋วเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ออกมาแล้วก็จะพอใจ สุขใจ

เนื้อหาสนับสนุนโดย

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ 6 คำถาม กับ บัณฑิต ฤทธิ์ถกล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook