นักรบใน ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผยเคล็ดม้าศึก มองตาต้องู้ใจ

ท่านมุ้ยสั่งตรงม้าศึกแสนรู้จากต่างประเทศเข้าฉากรบ ตอกย้ำความยิ่งใหญ่อลังการใน ตำนาน สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เหล่าขุนศึกเผยเทคนิคการเลือกม้าให้เหมาะสมกับตน และกลเม็ดเด็ดปราบม้าพยศให้สยบเป็นม้าคู่ใจ ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปี ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประวัติศาสตร์การกอบกู้ เอกราชไทย ต้องใช้ม้าศึกเข้าฉากนับร้อยตัว ซึ่งท่านมุ้ยได้สั่งซื้อม้าจากประเทศออสเตรเลียราว 40 ตัว ที่ฝึกมาเพื่อการแสดงโดยเฉพาะ จึงง่ายต่อการบังคับ และช่วยให้ฉากรบดำเนินไปด้วยความราบรื่น สวยงาม สมจริง และที่สำคัญคือม้าเหล่านี้มีลักษณะโครงร่างสูงใหญ่ งามสง่า เหมาะสำหรับเป็นม้าศึกของนักรบ จึงถือได้ว่าม้าเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบของความยิ่งใหญ่อลังการในภาพยนตร์เรื่องนี้ นอกจากนี้เหล่านักแสดงนำที่สวมบทบาทเป็นขุนศึกยังมีเทคนิคต่างๆ ในการเลือกม้าให้เหมาะสมกับตนอย่างลงตัว โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือต่างก็ต้องรักและเข้าใจซึ่งกันและกัน ร.อ. วันชนะ สวัสดี (เบิร์ด) ชายชาญทหารม้ามืออาชีพ ผู้รับบทเป็นสมเด็จพระนเรศวรฯ กล่าวว่า ม้าที่ผมขี่เป็นประจำชื่อ โมล่า เป็นตัวเมีย มีลักษณะที่สวยมาก เหมือนม้าหมากรุกเพราะเขาจะเก็บคอ โมล่า เป็นม้าที่ไม่ดื้อเลยแต่ค่อนข้างจะระแวดระวัง ยิ่งถ้าตรงไหนไม่เคยไปเขาก็จะไม่ไป ต้องมีตัวอื่นนำ ถึงยอมไป โมล่า ชอบกินทุกอย่าง แต่โดยปกติแล้วม้าส่วนใหญ่ชอบกินของหวาน ม้าก็เหมือนคนนะครับ มีชีวิตจิตใจ รู้จักเหนื่อย รู้จักหงุดหงิดเหมือนกัน เวลาเขาเหนื่อยเราก็ต้องปลอบใจและให้รางวัลเขา แต่ถ้าเขาเอาแต่ใจมากเกินไปเราต้องดุเขาบ้าง เมื่อคลุกคลีกันนานๆ เขาจะสื่อถึงความรู้สึกกับเราได้เป็นอย่างดี เจ้าของม้ารู้สึกอย่างไรเขาก็จะรูับ ถ้าเราซึมม้าก็ซึม ถ้าตื่นเต้นก็เป็นไปตามกัน และบังคับง่ายไม่ว่าจะให้ไปซ้ายขวาหรือให้ทำอะไร ม้าก็เหมือนส่วนหนึ่งของเรา ผมชอบมองตาเขาจะทำให้เรารู้ว่าเขาต้องการอะไรได้จากตา จริงๆ แล้วผมก็รักม้าทุกตัว ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นตัวที่ขี่ประจำหรอกครับ ด้าน พ.ท. วินธัย สุวารี (ต๊อด) ที่รับบทเป็นพระเอกาทศรถ กล่าวถึง มันเดย์ ม้าคู่ใจว่า เขาเป็นม้าที่ฉลาดมาก เข้าฉากแค่ 3-4 ครั้งก็สามารถเรียนรู้และจำได้เลยว่าต้องหยุดตรงไหน เลี้ยวตรงไหน การทำงานกับม้าผมว่ามีอยู่ 2 อย่างคือ 1 ต้องอยู่บนหลังม้าให้ได้ไม่ว่าเขาจะยกหน้ายกหลังหรือกระโจน และ 2 คือ บังคับม้าให้แสดงตามที่ผู้กำกับต้องการให้ได้ ซึ่งเขาก็ทำได้ดีทุกครั้ง ผมว่าเขาไม่ดื้อหรอกครับแต่จะตื่นมากกว่า ถ้าเขาตกใจก็ต้องคอยปลอบ แต่บางทีก็อาจมีดุกันนิดหน่อย ตกม้าก็มีบ้าง เป็นเรื่องธรรมดาครับ แต่ไม่เคยมีอันตรายร้ายแรง เราเข้ากันได้ดี รู้จักนิสัยกันครับ ถ้าเขาร้อนหรือเครียดก็ต้องให้ผ่อนคลาย ปล่อยให้เขาพักบ้าง ส่วนเรื่องอาหารนี่ มันเดย์ชอบทุกอย่าง ส้มก็กินครับ ขุนศึกคนสำคัญอีกคนหนึ่งคือ นพชัย ชัยนาม (ปีเตอร์) ผู้รับบท ออกพระราชมนู เล่าว่า ม้าที่ผมขี่มี 2 ตัว คือ ตาเรนเต้ เป็นม้าสำหรับการล้มโดยเฉพาะ และ ทีบอล เป็นม้าที่ทำได้ทุกอย่างยกเว้นล้มครับ ทั้ง 2 ตัวนี้ชอบกินน้ำตาลมาก ถ้าเขาทำดีเราจะให้น้ำตาลเป็นรางวัล ถ้าเกเรเพราะเหนื่อยหรือหงุดหงิดก็ต้องให้พัก ถ้าพูดถึงความประทับใจก็คงเป็น ตาเรนเต้ เพราะเริ่มขี่เป็นตัวแรก แล้วก็ลุยอุปสรรคด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นระเบิดเพลิง ขวากหนามที่เสี่ยงอันตรายต่างๆ นานา แต่ยังไงก็รักมากทั้ง 2 ตัวครับ ผมว่าม้าเป็นสัตว์ที่น่ารักน่าเอ็นดู มีคุนัขมาก ถึงจะไม่ประจบแต่ก็มีวิธีสื่อความรักความผูกพันกับเราได้ดีครับ ส่วน อินทิรา เจริญปุระ (ทราย) ซึ่งรับบท เลอขิ่น ผู้มีสายเลือดนักรบแห่งเมืองคัง กล่าวถึงม้าคู่ใจว่า เจ้าซีซีเป็นม้าดื้อที่ไม่มีใครอยากขี่เลยค่ะ แต่กับทรายจะถูกชะตากัน เขาเดินเข้ามาหาทรายเองระหว่างที่เลือกม้า ทรายจึงรู้สึกผูกพัน แล้วก็เข้ากันได้ดีมาก เขาไม่เคยมีปัญหากับทรายเลย แต่กับคนอื่นจะมีปัญหากันตลอด ทรายว่าแต่ละคนมีความชอบไม่เหมือนกัน ม้าก็เช่นกัน ทรายไม่เคยได้รับอันตรายจากเจ้าซีซีเลย คิดว่าการที่เราควบคุมเขาได้ดีก็อาจเป็นเพราะทรายตัวเล็กตัวเบา เขาก็คงจะชอบมากกว่าการแบกอะไรหนักๆ บนหลังค่ะ ประทับใจตรงที่เขาน่ารักมาก แสนซน และฉลาดมาก อย่างเรื่องอาหารเขาจะกินทุกอย่าง แต่จะเลือกสิ่งที่แพงกว่า เช่นระหว่างแอปเปิลกับฝรั่งก็เลือกกินแอปเปิล ถ้ามีฝรั่งกับถั่วฝักยาวเขาจะกินฝรั่ง เหล่าขุนศึกกล่าวทิ้งท้ายด้วยคำคมโดนใจคนรักม้าว่า ม้าหนึ่ง คนหนึ่ง รวมเป็นหนึ่ง คือม้ากับ เจ้าของ หรือม้าศึกกับขุนศึกต้องมีใจและกายที่สัมพันธ์กัน เหมือนเป็นคนคนเดียวกัน เข้าใจซึ่งกันและกัน เตรียมพบกับความสามารถของม้าศึกและฉากรบที่เข้มข้นยิ่งใหญ่อลังการ ใน ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ธันวาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์