วิจารณ์หนัง TRANSFORMERS 2

วิจารณ์หนัง TRANSFORMERS 2

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สวัสดีครับผม"นายมูฟวี่” มารายงานตัวแล้วครับ ช่วงนี้ฝนตกกระจัดกระจายไปทั่วฟ้า ยังไงก็หมั่นดูแลตัวเองกันสักนิดนะครับ หรือเก็บตัวอยู่ในบ้าน และสรรหาอะไรมาทำ ก่อนที่จะเข้าสู้ฤดูแห่งการเดินทางท่องเที่ยวตามแบบฉบับของแต่ล่ะคน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสแวะเวียนไปชมภาพยนตร์ที่ใครหลายคน โดยเฉพาะคอหนังรอเสพภาพยนตร์ที่รอมานานแสนนาน ภาคสองอย่าง TRANSFORMERS REVENGE OF THE FALLEN อภิมหาสงครามแค้น อุบัติขึ้น โดยผู้กำกับคนเดิมอย่าง ไมเคิล เบย์ (Michael Bay) ที่ฝากผลงานจากภาคแรก “TRANSFORMERS มหาวิบัติจักรกลสังหารถล่มจักวาล” การต่อสู้ของเหล่าเครื่องจักรกลจนปลุกความนิยม และกลายเป็นกระแสความคลั่งไคล้ผู้ที่ชื่นชอบในหุ่นยนต์ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง และเพิ่มทวีความมันส์ตอกย้ำความสนุกสุดเหวี่ยงในภาคต่อนี้ที่รอนานราว 2 ปีเต็ม ความท้าทายในภาคต่อที่จะทำให้คอหนังติดตามอย่างไม่ลดละ ด้วยเทคนิคการถ่ายทำที่ราวกับเสมือนชัดเจนในทุกรายละเอียดเพื่อบ่งบอกอย่างชัดแจ้งว่า นี่คือ “แอ็คชั่นไซไฟฟอร์มยักษ์” สุดมันส์ที่สมกับการรอคอย จนผมกลายเป็นสาวกของหนังเรื่องนี้ชนิดที่ดูแล้วดูอีกเลยล่ะครับ เพราะด้วยเทคนิคการสร้างสรรค์ภายใต้การดูแลงานระดับ “สตีเว่น สปีลเบิร์ก” ต้องยอมรับว่า สามารถสร้างหุ่นให้เฉิดฉายบนแผ่นฟิล์มได้อย่างอลังการ โดยเฉพาะการแปลงร่างที่ใครหลายต่อหลายคนคงทึ่งถึงเทคนิคการทำ ดัดแปลง ความละเอียดในการสะท้อนเครื่องจักรกลให้มีชีวิต อีกทั้งยังได้ “ไซอา ลาบัฟ” (Shia LaBeouf) นักแสดงหนุ่มที่น่าจับตามอง และได้ใจคนดูทั่วโลกไปเต็ม ๆ เมื่อเขารับบท “แซม วิทวิคกี้” หนุ่มน้อยแสนธรรมด๊า ธรรมดา ได้ช่วยจักรวาลให้รอดพ้นจากศึกขั้นเด็ดขาดระหว่างหุ่นยนต์จากต่างดาวที่กำลังสู้รบกันอยู่ แม้จะสร้างวีรกรรมอันกล้าหาญสุดขั้วมาแล้ว จากภาคแรก แต่มา TRANSFORMERS REVENGE OF THE FALLEN อภิมหาสงครามแค้น แซมกลับเป็นเด็กหนุ่มที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างเด็กวัยรุ่นทั่วไป แต่สงครามระหว่าง ออโต้บ็อทส์ กับ ดีเซ็ปติคอนส์ ซึ่งดำเนินไปอย่างลับ ๆ ได้ก่อเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย จนทำให้เขาต้องก้าวเข้าสู่การสู้รบอีกครั้ง จนคุณไม่สามารถละสายตาไปจากเขาได้เลย ร่วมด้วย เมแกน ฟ็อกส์ รับบท “มิคาเอล่า” แฟนสาวสุดสนิทของ “แซม” สาวสวยมั่นใจ สุดเซ็กซี่ เธอมีวิถีแห่งสัญชาตญาณในการต่อสู้ และเสน่ห์ที่ใคร ๆ ต่างต้องหลงรักเธอ โดยเฉพาะคำพูดโน้มน้าวให้สมุนฝ่ายดีเซ็ปติคอนส์ ที่ติดตามเพื่อช่วงชิงบางสิ่งบางอย่างกลับใจเป็นฝ่ายเธอ (เห็นแล้วคุณต้องบอกว่าน่ารักแบบผม) ปิดท้ายอีกสักนิดด้วยหนุ่มมาดก๊วนที่เพิ่มเข้ามาสร้างสีสัน อย่าง ราม่อน ร็อดริเกซ รับบท ลีโอ เพื่อนร่วมห้องคนใหม่จอมจุ้นจ้านของแซม เขากลายเป็นสมาชิกคนใหม่และร่วมชะตากรรมการต่อสู้ในครั้งนี้ และที่สำคัญผมชอบลีโอ ตรงที่เขาสลัดความกลัวออกจากใจด้วยความกล้า และเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ แม้ต้องเสี่ยงชีวิตก็ตาม ไหน ๆ ก็พูดถึงนักแสดงนำของเรื่องไปแล้วก็ต้องข้ามฝั่งมายัง “นักแสดงหุ่นยนต์” ดีกรีความเข้มข้นมากมายกว่าภาคแรก แถมมีหุ่นยนต์สารพัดชนิดเพิ่มขึ้น จนผมเองจำไม่หวาดไม่ไหว (คุณคงเป็นแบบเดียวกับผม เพราะเยอะจริง ๆ) ไม่ว่าจะเป็นทั้งฝ่าย ออโต้บ็อทส์ กับ ดีเซ็ปติคอนส์ และที่สำคัญหุ่นยนต์บางตัวชวนอมยิ้ม และหัวเราะได้อย่างชื่นช่ำปอด ทั้งหุ่นพี่น้องคู่แฝด ที่เรียกเสียงฮาได้ตลอดเวลา แถมหุ่นยนต์ถือไม้เท้า ทำเอาผมคิดถึงคุณตาวัย 60 เลยทีเดียว แต่จุดด้อยคงหนีไม่พ้น ฉากการต่อสู้ของเหล่าหุ่นยนต์ เพราะดูมั่วมากครับ มั่วจนบางทีไม่รู้หุ่นยนต์ตัวไหนอยู่ฝั่งไหนกันบ้าง แต่ก็ไมได้ทำให้หนังดูซับซ้อนจนอึดอัด จุดเด่นที่เห็นได้ชัด และต้องปรบมือให้เหล่าทีมผู้สร้าง และผู้กำกับที่ดึงความสามารถของหุ่นยนต์แต่ล่ะตัว การแปลงรูปร่างเป็นสิ่งต่าง ๆได้ เช่น รถ,เครื่องบิน และเครื่องจักรกลไฮเทคต่าง ๆ มีให้คอหนังได้รับชมอย่างอิ่มในอรรถรส อีกสิ่งหนึ่งที่ผมชื่นชอบของหนังเรื่องนี้ คือ ฉาก “บัมเบิ้ลบี ” หุ่นยนต์ติดตามแซมจากภาคแรก ร้องไห้เมื่อแซมต้องจากไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย ทำเอาผมทั้งสงสาร และอมยิ้มไปกับความน่ารักของเจ้า “บัมเบิ้ลบี ” เลยล่ะครับ แม้ว่าในภาคนี้ดูจะไม่ค่อยเด่นชัดเหมือนดั่ง “ออร์ติมัส” หุ่นตัวเอกของเรื่อง แต่ “บัมเบิ้ลบี ” ยังคงแสดงให้เห็นถึงมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่ไม่เคยทิ้งแซม และยังช่วยพ่อแม่ของแซมจากภัยร้าย ความกล้าหาญที่แสดงออกไม่ต้องเด่นชัด แต่อยู่ข้างกายตลอดเวลา ด้านเนื้อเรื่องของหนังภาคนี้ก็ยังคงดำเนินเรื่อง ราวของแซมที่โชคชะตาทำให้เขาก้าวเข้าไปสู่โลกแห่งการต่อสู้ ระหว่างหุ่นยนต์ฝ่ายธรรมะ และฝ่ายอธรรม ซึ่งหนังไมได้มีแค่ฉากแอ็คชั่นส์ให้คอยติดตามเพียงอย่างเดียว ฉากสถานที่ที่ดึงมนต์ขลัง ความมีเอกลักษณ์ของสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ดูซับซ้อน ทำให้น่าค้นหา และแอบแฝงไปด้วยการนำเสนอที่เป็นประโยชน์ให้เหล่าคนชื่นชอบหนังได้กลับไปชุก คิดถึงคำว่า “ถ้าไม่มีการเสียสละ ก็ไม่มีวันได้มาซึ่งชัยชนะ” และนี่จึงเป็นความอิ่มอร่อยจนชนิดที่คุณสัมผัสได้ทุกรสชาติ และภาคนี้ล่ะครับภาพยนตร์สุดยอดสำหรับคอหนังที่รออย่างยาวนาน หากคุณเสพแล้วคงหายใจได้ทั่วท้อง แถมยังคงต้องตั้งหน้าตั้งตารอจนกว่าภาค 3 หรือ 4 จะออกวาดความมันส์กันอีก (ไม่อยากให้จบเลยด้วยซ้ำ อยากให้มีไปนาน ๆ เลยล่ะครับ) รอยต่อจากปฐมบทภาคแรก อรรถรสของหนังสองชั่วโมงกว่า ๆ ผมว่าคุ้มสุด ๆ หากคุณยกโขยงเหล่าเพื่อนซี้ ครอบครัวตัวน้อย อ้าแขนต้อนรับคงจะดีไม่น้อย “การเสียสละล้วนเกิดจากผู้มีสำนึกที่ดีในการให้ แต่มันจะลดน้อยหากปราศจากความกล้า”

บมวิจารณ์โดย นายมูฟวี่ (tantikowit@hotmail.com)

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ วิจารณ์หนัง TRANSFORMERS 2

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook